ลุ้นค่ารถไฟฟ้าถูก หลังคมนาคมทำตั๋วร่วม-พ.ร.บ.ขนส่งทางราง

กรุงเทพฯ 11 ก.พ. – “ศักดิ์สยาม” มั่นใจภายในสิ้นปี 64 นี้ คลอด “ตั๋วร่วม-พ.ร.บ.กรมขนส่งทางราง” หวังมาคุมให้ราคาค่าโดยสารถูกลง ไม่มีปัญหาคาใจเรื่องค่าแรกเข้าระหว่างระบบรถไฟฟ้า-คำนวณราคาค่าโดยสารไม่ตรงกันของโครงข่ายรถไฟฟ้าได้ทั้งระบบแบบเบ็ดเสร็จ มั่นใจทำให้ค่าบริการลดลงได้เลย 30% 


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากรณีที่ราคาค่าบริการขนส่งในระบบรางโดยเฉพาะรถไฟฟ้าที่ให้บริการในปัจจุบันมีราคาที่สูง และกระทรวงคมนาคมไม่สามารถเข้าไปควบคุมราคาค่าโดยสารได้ทั้งๆที่เป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลการคมนาคมขนส่งทุกระบบ ดังนั้นกระทรวงจึงมีความตั้งใจที่จะดำเนินการนโยบายที่จะเข้าไปคุมราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าที่ให้บริการในปัจจุบัน และ โครงข่ายรถไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นใหม่ในอนาคตให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้โดยสารมากที่สุด บนพื้นฐานราคาค่าโดยสารที่ใช้บริการจริงตามระยะทางหรือเฉลี่ยที่ 14-45 บาทต่อคนต่อเที่ยว

สำหรับแนวทางที่จะสามารถคุมราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าทุกระบบได้นั้น คือการนำ ระบบตั๋วร่วม เข้ามาใช้กับการบริการขนส่งสาธารณะในทุกประเภท ซึ่งตามกรอบระยะเวลาการใช้ตั๋วร่วมจะเริ่มขึ้นจริงภายในสิ้นปี 64 นี้แน่นอน ในเบื้องต้นตั๋วร่วมจะใช้กับระบบรถไฟฟ้าที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบันภายใต้การกำกับของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.),การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิ้งก์ ก่อน และในอนาคตจะนำระบบตั๋วร่วม มาใช้ในระบบการขนส่งโลจิสติกส์ทั้งหมด


ส่วนกรณีที่มีคนเรียกร้องเรียนผ่านองค์กรผู้บริโภคต่างๆ ว่า ค่าโดยสารรถไฟฟ้าที่ให้บริการในปัจจุบันมีราคาแพงนั้น กระทรวงคมนาคมจะเข้าไปมีบทบาทอย่างไรได้บ้าง ในเรื่องนี้ต้องเข้าใจว่า สาเหตุเนื่องมาจากปัจจุบันรถไฟฟ้าที่ให้บริการ มีหลายระบบ หลายสัมปทานผู้ให้บริการ เมื่อผู้โดยสารเดินทางและมีการต่อรถไฟฟ้าระหว่างระบบ ผู้โดยสารจะเสียค่าแรกเข้าระบบที่14-16 บาท แต่หากเมื่อนำระบบตั๋วร่วมมาใช้ภายในสิ้นปี 64 นี้ ปัญหาเรื่องค่าแรกเข้าระบบรถไฟฟ้าจะหมดไปทันที การเชื่อมต่อระหว่างระบบจะไม่คิดค่าแรกเข้า นั่นหมายถึงค่าโดยสารระบบรางจะถูกลงกว่าปัจจุบันทันที เนื่องจากการเชื่อมต่อระหว่างระบบจะไม่คิดค่าแรกเข้า ทำให้ค่าโดยสารระบบรางจะถูกลงกว่าปัจจุบันทันที 30%

นอกจากนี้ในอนาคตหาก ร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางราง พ.ศ. ….ของ กรมการขนส่งทางราง(ขร.)ออกมามีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายซึ่งคาดว่ากระบวนการต่างๆจะเรียบร้อยและเสนอผ่าน คณะรัฐมนตรี(ครม.) และ สภาผู้แทนราษฎรได้ภายในสิ้นปีนี้ ตอนนั้นกรมการขนส่งทางราง(ขร.)จะมีอำนาจหน้าที่โดยตรงที่จะเข้าไป กำกับ-ดูแลการบริการคมนาคมขนส่งทางรางทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกำหนดและวางหลักเกณฑ์ กำหนดการคำนวณ ราคาค่าโดยสาร ความถี่ เที่ยววิ่งที่ให้บริการ และจำนวนตู้ที่ให้บริการเหมาะกับจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการ รวมถึงกำกับดูแลสิ่งอำนวยความสะดวกของระบบรางให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งระบบ เพื่อให้มีผลบังคับใช้แบบเดียวกัน และประชาชนที่ใช้บริการได้ประโยชน์มากที่สุด

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ส่วนระบบรางอื่นๆที่ไม่อยู่ภายใต้การกำกับของกระทรวงคมนาคมนั้น ทางกระทรวงคมนาคมคงไม่สามารถที่จะบังคับในเรื่องของการจัดเก็บค่าโดยสารให้เหมือนกับราคาค่าโดยสารระบบรางที่ให้บริการในกำกับของกระทรวงคมนาคมได้ นอกจากจะมีการเจรจาเป็นรายสัมปทานไป เนื่องจากมีเงื่อนไขของสัญญาสัมปทานกำหนดอยู่ แต่หากในอนาคตมีการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคมนั้น ยืนยันว่า ตนมีนโยบายอย่างชัดเจนว่า ในแต่ละสัญญาสัมปทานที่จะเกิดขึ้นในโครงข่ายระบบรางทั้งหมดหลังจากนี้ หน่วยงานที่กำกับตรงซึ่งเป็นคู่สัญญานั้นๆจะต้องมีการระบุอย่างชัดเจนในสัญญาแนบท้ายหรือข้อเสนอโครงการ Request for Proposal (RFP) ว่า การกำหนดราคาค่าโดยสาร หรือเปลี่ยนแปลงราคาจะต้องผ่านความเห็นชอบจากเจ้าของสัญญา และกระทรวงคมนาคมก่อนที่จะมีการปรับราคาค่าโดยสารและการคำนวณการจัดเก็บค่าโดยสารจะต้องขึ้นอยู่กับ กรมการขนส่งทางราง ซึ่งเป็นผู้กำกับ


นอกจากนั้นยังได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับประเด็นที่หลายฝ่ายจับตามองกรณีที่กรุงเทพมหานคร(กทม.)มีแนวคิดที่จะขยายสัญญาสัปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวเส้นทาง อ่อนนุช-หมอชิต ให้กับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บีทีเอสซี)ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส หลังสัญญาสัมปทานเดิมสิ้นสุดลงในปี 72 ต่อไปอีก 30 ปีเพื่อแลกกับการจัดเก็บค่าโดยสารเฉลี่ยรวมส่วนต่อขยายจาก ช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง-สมุทรปราการ , หมอชิต-คูคต ในราคาเฉลี่ยที่65นั้น ในเรื่องนี้ตนขอตั้งข้อสังเกตุว่า เส้นทางอ่อนนุช-แบริ่ง-สมุทรปราการ และ หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต นั้น ต้องถือว่าไม่ได้เป็นสัญญาสัมปทานเดิม และไม่ได้เป็นสัญญาเดียวกัน หากจะมาบอกว่าเป็นส่วนต่อขยายจากสัญญาเดิมตามความเป็นจริงก็ไม่ใช่ เพราะเป็นคนละสัญญา ดังนั้นทาง กทม.และกระทรวงมหาดไทย(มท.)ต้องดูข้อกฎหมายให้ดีจะมารวมเป็นส่วนต่อขยายจากสัมปทานเดิมไม่ได้

ขณะเดียวกันทางนายกรัฐมนตรีได้มาสอบถามตนและให้ความสำคัญในเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวถึงการคำนวณราคาเป็นอย่างมาก ในเรื่องนี้ได้อธิบายไปว่าการคำนวณหากในส่วนของกระทรวงคมนาคม ที่่ รฟม. ดำเนินการจะคำนวณราคาที่ 1.45 บาทต่อกทม. ขณะที่ กทม.คำนวณที่ 3 บาทต่อสถานี ซึ่งในเรื่องนี้มองว่าการคำนวณจะคำนวณตามสถานีไม่ได้เพราะบางทีสถานีมีระยะทางไม่ถึงกิโลเมตร เป็นต้น . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]

“ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” ไม่กังวลปมคุณสมบัติ

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” อุบตอบ “กล้าธรรม” ได้กระทรวงอะไรเพิ่ม ไม่กังวลปมคุณสมบัติ เหตุตัวเองเป็น “รมต.” มา 2 รอบแล้ว แย้ม เลขาฯ พรรค ต้องได้เก้าอี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เดินทางมายังที่ทำการพรรคภูมิใจไทย เพื่อพบกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะว่าที่นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเป็นการส่วนตัว จากนั้นเวลา 16.50 น. นายอนุทิน และ ร.อ.ธรรมนัส เดินลงจากที่ทำการพรรคมายังร้านกาแฟจาริสต้าร์ ซึ่งมี น.ส.ธนพร ศรีวิราช ภรรยาของ ร.อ.ธรรมนัส รออยู่ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส สั่งเครื่องดื่มอเมริกาโน่ร้อน ไม่หวาน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า มาซื้อกาแฟวันนี้ หมายความว่าได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนมารับภรรยา เมื่อถามว่า พรรคกล้าธรรมมีการพูดคุยตำแหน่งรัฐมนตรีลงตัวแล้วหรือไม่ […]

พายุไต้ฝุ่น ‘เผ่ย์ผ่า’ ถล่มชิซูโอกะในญี่ปุ่น

โตเกียว 6 พ.ย. – พายุไต้ฝุ่น “เผ่ย์ผ่า” (Peipah) ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักในจังหวัดชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ในวันศุกร์ โดยมีรายงานว่าลมกระโชกแรงจากพายุลูกนี้ทำลายอาคารไปอย่างน้อย 220 หลัง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 23 คน เอ็นเอชเค สื่อสาธารณะของญี่ปุ่นรายงานว่า ตรวจพบกระแสลมแรงใน เขตเทศบาล 4 แห่งของจังหวัดชิซูโอกะ ซึ่งรวมถึงเมืองโยชิดะและเมืองมากิโนะฮาระ เจ้าหน้าที่เมืองมากิโนะฮาระระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 20 ราย ณ เวลา 21:30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 19.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย นอกจากนี้ เอ็นเอชเค ยังรายงานด้วยว่า มีอาคารอย่างน้อย 43 หลังในเมืองมากิโนะฮาระถูกทำลายทั้งหมดหรือเสียหายครึ่งหนึ่งและอีก 184 หลังได้รับความเสียหายบางส่วน พายุ “เผ่ย์ผ่า” ได้ลดระดับลงเป็นพายุโซนร้อนเมื่อเวลาประมาณ 21:00 น. ของวันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่น […]

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

ข่าวแนะนำ

บ้านหนองจานคึกคัก ชาวบ้านแห่ให้กำลังใจทหาร

สระแก้ว 6 ก.ค. – บรรยากาศบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว วันนี้ (6 ก.ย.) คึกคัก ชาวบ้านแห่ให้กำลังใจทหาร ส่วน “กัน จอมพลัง” นำบังเกอร์และกล้องวงจรปิดมาสนับสนุนเจ้าหน้าที่ ขณะที่ “รังสิมันต์ โรม” ลุยรับฟังปัญหาความมั่นคงและข้อพิพาทที่ดิน พร้อมเสนอจัดหา “แอนตี้โดรน” เสริมแนวชายแดน บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนทั้งจากในพื้นที่และใกล้เคียงต่างพร้อมใจกันเดินทางมามอบสิ่งของและเลี้ยงอาหารทหารที่ปฏิบัติภารกิจตรึงกำลังแนวชายแดน ทำให้บริเวณถนนสายหลักของบ้านหนองจาน เต็มไปด้วยไก่ทอดกระทะใหญ่ ผัก ผลไม้ อาหารพื้นบ้าน ขณะเดียวกันยังมีของดีเมืองจันท์ คือ ก๋วยเตี๋ยวเส้นจันท์ ข้าวเหนียวมูนราดน้ำกะทิ และทุเรียนพันธุ์ขึ้นชื่อที่ผู้ใหญ่เล็ก ขนมาจากเขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี บอกว่าอยากให้กำลังทหาร อยากให้ทหารได้กินอิ่มท้อง และได้กินของดีของจันทบุรี นอกจากนี้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าทั้งในและนอกพื้นที่ไม่พลาดนำขนมท้องถิ่น เครื่องดื่ม น้ำดื่มบรรจุขวด ของใช้จำเป็น มาสร้างสีสัน ท่ามกลางการตรึงกำลังเข้มของทหารและตำรวจในการดูแลความสงบเรียบร้อย และรับน้ำใจจากชาวบ้านด้วยรอยยิ้ม กัน จอมพลัง มอบบังเกอร์-CCTV สนับสนุนชายแดนขณะที่ช่วงบ่าย กัน จอมพลัง […]

ฝนถล่มกรุงอีก สูงสุด 107 มม. เขตพระนคร จับตาฝนอีกก้อน

กทม. 6 ก.ย. – ฝนถล่มกรุงเย็นนี้ ปริมาณฝนสูงสุดแตะ 107 มม. ที่เขตพระนคร จับตาฝนอีกก้อน หากไม่อ่อนกำลังจะเคลื่อนตัวเข้า กทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ติดตามสถานการณ์ฝนกรุงเทพมหานคร โดยมีสำนักการระบายน้ำ ร่วมให้ข้อมูล ณ ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ กทม.2 ดินแดง ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้ปริมาณฝนตกหนักไม่แพ้เมื่อวาน เนื่องจากร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านประเทศไทยเป็นตัวดึงเมฆฝนเข้ามา โดยในขณะนี้ (เวลา 17.10 น.) ฝนยังคงตกต่อเนื่องในพื้นที่ชั้นในบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ ยังมีเมฆฝนอีกกลุ่มกำลังเคลื่อนตัวเข้ามา คาดว่าหากไม่อ่อนกำลังจะเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ อีกระลอก จากการรายงานพบว่าปริมาณน้ำฝนสะสมสูงสุดในรอบ 6 ชั่วโมงอยู่ที่ 107 มิลลิเมตร ที่เขตพระนคร ตามมาด้วย 98.5 มิลลิเมตร ที่เขตวัฒนาและห้วยขวาง ซึ่งถือว่าเกินกว่าขีดความสามารถของระบบระบายน้ำของ กทม. ที่ออกแบบไว้ให้รองรับปริมาณฝนที่ 60 มิลลิเมตร รายงานสถานการณ์ล่าสุดยังพบน้ำท่วมขังในถนนสายหลักและสายรองหลายแห่ง ถนนสายหลัก […]

“อนุทิน” เผยโผ ครม. 100% แล้ว พร้อมเริ่มทำงานทันทีหลังถวายสัตย์ฯ

ภูมิใจไทย 6 ก.ย. – “อนุทิน” เผยโผ ครม. 100% แล้ว พร้อมเริ่มทำงานทันทีหลังถวายสัตย์ปฏิญาณตน ระบุยังไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม ยืนยันจะเปิดเผยเมื่อถึงเวลาสมควร นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยความชัดเจนการจัดโผคณะรัฐมนตรี ว่าหลายๆ อย่างเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ยืนยันว่าความชัดเจนในการจัดสรรนิ่ง 100% แล้ว ทุกคนที่มาทำหน้าที่ในคณะรัฐมนตรีทราบดีถึงเงื่อนไขและข้อจำกัดต่างๆ โดยจะต้องเริ่มทำงานทันทีหลังเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน ส่วนความชัดเจนในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน ยังปฏิเสธที่จะเปิดเผย ระบุว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรียังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ยืนยันว่าไม่มีการปิดบังซ่อนเร้น เมื่อถึงเวลาสมควร ไม่เป็นการก้าวล่วงใดๆ ก็จะรีบเปิดเผยให้ประชาชนได้รับทราบ เพราะรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของประชาชนคนไทยทุกคน จะไม่ดำเนินการใดๆ ลับหลังประชาชน และจะให้ได้รับทราบร่วมกัน เพื่อออกความเห็นให้รัฐบาลได้รับฟัง และรัฐบาลจะได้ปฏิบัติตาม นายอนุทิน ยังยืนยันว่ารัฐมนตรีทุกคน จะต้องมีคุณสมบัติไม่ขัดต่อกฎหมายและข้อจำกัด จะต้องทุ่มเททำงานด้วยความรู้ความสามารถ เป็นมืออาชีพ ซึ่งมีทั้งทหาร พลเรือน อส. นายกองใหญ่.-314-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]