รถไฟฟ้า MRT จัดโปรโมชั่นเที่ยวโดยสารสุดคุ้ม!

กรุงเทพฯ 1 ก.พ. – รถไฟฟ้า MRT ออกโปรโมชั่นค่าโดยสารทางรถไฟฟ้านำร่องสายสีม่วง เริ่มวันนี้ และสายสีน้ำเงิน เริ่ม 1 มี.ค.64 โดยผู้โดยสารสามารถเดินทางในราคาประหยัด เพียงเลือกแบบโปรโมชั่นให้เหมาะกับลักษณะการเดินทางของตนเอง และยิ่งเดินทางมากยิ่งลดมาก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ร่วมกับ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ร่วมสนับสนุนนโยบายภาครัฐในการลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน จัดโปรโมชั่นเที่ยวโดยสาร 30 วัน เดินทางในระบบรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง และ MRT สายสีน้ำเงิน ได้ไม่จำกัดระยะทางในราคาประหยัด ซึ่งผู้โดยสารที่ถือบัตรโดยสาร MRT PLUS และ MRT ประเภทบัตรบุคคลทั่วไป บัตรโดยสารธุรกิจ และบัตรร่วมธุรกิจ สามารถเลือกเติมเที่ยวโดยสารได้ตามความต้องการ ทั้งแบบเดินทางในรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง (PL Adult Pass) เดินทางในรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน (BL Adult Pass) หรือเดินทางข้ามทั้ง 2 สาย (ML Adult Pass) ประกอบด้วย

• PL Adult Pass ใช้เดินทางใน MRT สายสีม่วง สามารถเติมเที่ยวโดยสารได้ที่ห้องออกบัตรโดยสารรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 31 กรกฎาคม 2564


– 15 เที่ยว ราคา 450 บาท เฉลี่ย 30 บาท/เที่ยว

– 25 เที่ยว ราคา 700 บาท เฉลี่ย 28 บาท/เที่ยว

– 40 เที่ยว ราคา 1,040 บาท เฉลี่ย 26 บาท/เที่ยว


– 50 เที่ยว ราคา 1,100 บาท เฉลี่ย 22 บาท/เที่ยว

– 60 เที่ยว ราคา 1,200 บาท เฉลี่ย 20 บาท/เที่ยว (**ใช้เดินทางได้นานถึง 60 วัน**)

(จากอัตราค่าโดยสารสูงสุด 42 บาท)

• BL Adult Pass ใช้เดินทางใน MRT สายสีน้ำเงิน สามารถเติมเที่ยวโดยสารได้ที่ห้องออกบัตรโดยสารรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 31 สิงหาคม 2564

– 15 เที่ยว ราคา 450 บาท เฉลี่ย 30 บาท/เที่ยว

– 25 เที่ยว ราคา 700 บาท เฉลี่ย 28 บาท/เที่ยว

– 40 เที่ยว ราคา 1,040 บาท เฉลี่ย 26 บาท/เที่ยว

– 50 เที่ยว ราคา 1,250 บาท เฉลี่ย 25 บาท/เที่ยว

(จากอัตราค่าโดยสารสูงสุด 42 บาท)

• ML Adult Pass ใช้เดินทางข้ามสายระหว่าง MRT สายสีน้ำเงินและสายสีม่วง สามารถเติมเที่ยวโดยสารได้ที่ห้องออกบัตรโดยสารรถไฟฟ้า MRT ทั้งสายสีน้ำเงินและสายสีม่วง เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 31 สิงหาคม 2564

– 15 เที่ยว ราคา 810 บาท เฉลี่ย 54 บาท/เที่ยว

– 25 เที่ยว ราคา 1,300 บาท เฉลี่ย 52 บาท/เที่ยว

– 40 เที่ยว ราคา 2,000 บาท เฉลี่ย 50 บาท/เที่ยว

– 50 เที่ยว ราคา 2,250 บาท เฉลี่ย 45 บาท/เที่ยว

(จากอัตราค่าโดยสารสูงสุด 70 บาท)

ทั้งนี้ โปรโมชั่นเที่ยวโดยสารมีกำหนดการใช้งานภายใน 45 วันนับจากวันที่ซื้อเที่ยวโดยสาร หากพ้นกำหนดจะไม่สามารถใช้เดินทางได้ และสามารถใช้เดินทางได้เป็นระยะเวลา 30 วัน นับจากวันที่ใช้เดินทางครั้งแรก (ยกเว้น PL Adult Pass 60 เที่ยว 60 วัน จะสามารถใช้เดินทางได้เป็นระยะเวลา 60 วัน นับจากวันที่ใช้เดินทางครั้งแรก) นอกจากนี้ โปรโมชั่นเที่ยวโดยสารไม่สามารถคืนเงินได้ สำหรับบัตรนักเรียน นักศึกษายังคงได้รับส่วนลด 10% เด็กและผู้สูงอายุได้รับส่วนลด 50% ทุกเที่ยวเดินทางเช่นเดิม

สำหรับข้อสงสัยว่า ผู้โดยสารจะเลือก Package ไหนดีถึงจะเหมาะสมและคุ้มค่ากับตัวเองมากที่สุด  ให้วิธีพิจารณาว่าปกติแล้วเราเดินทางในรถไฟฟ้าสายไหนเป็นประจำ เดินทางบ่อยแค่ไหน และเฉลี่ยค่าโดยสารแต่ละเที่ยวอยู่ที่จำนวนเท่าใด เพื่อนำไปเปรียบเทียบเลือก Package เที่ยวโดยสาร ที่เหมาะสมและคุ้มค่ามาก

BL Adult Pass

เหมาะกับผู้โดยสารที่เดินทางเฉพาะสายสีน้ำเงิน หรือเดินทางในสายสีน้ำเงินเป็นประจำ ในหนึ่งเดือนเดินทางตั้งแต่ 15 ครั้งขึ้นไป และเฉลี่ยค่าโดยสารมากกว่า 30 บาท/เที่ยว ขอแนะนำให้ซื้อ Package เที่ยวโดยสาร แบบ BL Adult Pass แบบ 15 เที่ยวซึ่งเฉลี่ยแล้วค่าโดยสารต่อเที่ยวจะอยู่ที่ 30 บาท/เที่ยว กรณีที่เดินทางบ่อยกว่า 15 ครั้ง/เดือน ก็สามารถเลือกซื้อ Package เที่ยวโดยสารให้เหมาะกับที่เราเดินทางได้

โดย Package สูงสุดจำนวน 50 เที่ยว เฉลี่ยค่าโดยสารอยู่ที่ 25 บาท/เที่ยว ปัจจุบันอัตราค่าโดยสารสูงสุดสายสีน้ำเงินสำหรับบุคคลทั่วไปอยู่ที่ 42 บาท

PL Adult Pass

เหมาะกับผู้โดยสารที่เดินทางเฉพาะสายสีม่วง หรือเดินทางในสายสีม่วงเป็นประจำ ในหนึ่งเดือนเดินทางตั้งแต่ 15 ครั้งขึ้นไป และเฉลี่ยค่าโดยสารมากกว่า 30 บาท/เที่ยว ขอแนะนำให้ซื้อ Package เที่ยวโดยสาร

แบบ PL Adult Pass แบบ 15 เที่ยวซึ่งเฉลี่ยแล้วค่าโดยสารต่อเที่ยวจะอยู่ที่ 30 บาท/เที่ยว กรณีที่เดินทางบ่อยกว่า 15 ครั้ง/เดือน ก็สามารถเลือกซื้อ Package เที่ยวโดยสารให้เหมาะกับที่เราเดินทางได้

โดย Package สูงสุดจำนวน 60 เที่ยว เฉลี่ยค่าโดยสารอยู่ที่ 20 บาท/เที่ยว เท่านั้น (และสำหรับ Package PL Adult Pass 60 เที่ยวนี้ยังสามารถใช้งานได้นานถึง 60 วัน) ปัจจุบันอัตราค่าโดยสารสูงสุดสายสีม่วงสำหรับบุคคลทั่วไปอยู่ที่ 42 บาท

ML Adult Pass

เหมาะกับผู้โดยสารที่เดินทางไป-มาข้ามสายระหว่างสายสีนำเงินและสายสีม่วงเป็นประจำ ในหนึ่งเดือนเดินทางตั้งแต่ 15 ครั้งขึ้นไป และเฉลี่ยค่าโดยสารมากกว่า 54 บาท/เที่ยว ขอแนะนำให้ซื้อ Package เที่ยวโดยสาร

แบบ ML Adult Pass แบบ 15 เที่ยวซึ่งเฉลี่ยแล้วค่าโดยสารต่อเที่ยวจะอยู่ที่ 54 บาท/เที่ยว กรณีที่เดินทางบ่อยกว่า 15 ครั้ง/เดือน ก็สามารถเลือกซื้อ Package เที่ยวโดยสารให้เหมาะกับที่เราเดินทางได้

โดย Package สูงสุดจำนวน 50 เที่ยว เฉลี่ยค่าโดยสารอยู่ที่ 45 บาท/เที่ยว ปัจจุบันอัตราค่าโดยสารร่วมสูงสุดหรับบุคคลทั่วไปอยู่ที่ 70 บาท

กรณีที่เราเติมเที่ยวโดยสารแบบ BL Adult Pass หรือ PL Adult Pass ซึ่งสามารถใช้เดินทางกับ MRT สายสีน้ำเงิน หรือสายสีม่วงได้เพียงอย่าง แล้วเราจำเป็นต้องเดินทางข้ามสายจะทำอย่างไร

ในกรณีนี้ระบบจะหักเที่ยวเดินทางสายนั้นๆก่อน ส่วนเส้นทางที่เดินทางข้ามสายก็จะตัดเงินในบัตรตามจำนวนสถานีที่เดินทาง ยกตัวอย่างเช่นผู้โดยสารมีเที่ยวโดยสารของสายสีม่วงประเภท 60 เที่ยว

ค่าโดยสารเฉลี่ย 20  บาท/เที่ยว เมื่อเดินทางจากสถานีคลองบางไผ่ถึงสถานีลาดพร้าว ระบบจะตัดเที่ยวโดยสารสายสีม่วง 1 เที่ยว (20 บาท) และตัดมูลค่าบัตรโดยสารจากสถานีบางซื่อ – สถานีลาดพร้าว จำนวน 26 บาท

(คิดเป็นค่าโดยสารรวม 20+26 = 46 บาท) แต่ในกรณีนี้หากผู้โดยสารไม่มีเที่ยวโดยสารในบัตร ผู้โดยสารจะเสียค่าโดยสาร 54 บาท

ดังนั้นก่อนที่ผู้โดยสารจะเลือกซื้อ Package เที่ยวโดยสาร อย่าลืมศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนแล้วเลือก Package ที่เหมาะกับการเดินทางประจำของเรามากที่สุดซึ่งก็จะช่วยให้เราประหยัดค่าโดยสารได้. แต่หากเดินทางไม่บ่อย หรือเดินทางระยะสั้นๆ การชำระค่าโดยสารโดยหักเงินในบัตรอย่างเดียว (ไม่ต้องซื้อเที่ยวโดยสาร) หรือจะซื้อเหรียญโดยสารเดินทางแบบเที่ยวเดียวใช้เป็นบางครั้งก็จะประหยัดกว่า และอย่าลืมว่าเที่ยวโดยสารต้องใช้ภายใน 45 วันหลังจากที่เติม และสามารถใช้เดินทางได้เป็นระยะเวลา 30 วันหลังจากที่ใช้เดินทางครั้งแรก และเที่ยวโดยสารไม่สามารถคืนหรือเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

น้ำโขงใกล้แตะ 9 เมตร สทนช.เตือนเฝ้าระวัง

บึงกาฬ 6 ก.ค.- “แม่น้ำโขง” ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ใกล้แตะ 9 เมตร สทนช. เตือนเฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง ที่จังหวัดบึงกาฬ เกิดฝนตกติดต่อกันกว่า 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและ สปป ลาว ตอนบน ประกอบกับ สปป ลาว มีฝนตกลงอย่างต่อเนื่อง และมีมวลน้ำเหนือจากจังหวัดเลย จังหวัดหนองคาย ไหลลงมาสมทบ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเช้าวันนี้ จุดวัดระดับน้ำบ้านพันลำ วัดได้ 8.60 เมตร เพิ่มขึ้นจากวานนี้ 30 เซนติเมตร แต่ยังอยู่ในระดับปกติ ส่วนที่ประตูระบายน้ำ ข้างสำนักงาน ตม.บึงกาฬ เจ้าหน้าทีเทศบาลได้เปิดประตูระบายน้ำ เพื่อให้น้ำที่สะสมตามท่อระบายน้ำต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองไหลลงสู่แม่น้ำโขง เช่นเดียวกับบริเวณด่านพรมแดนศุลกากร เรือโดยสารขนส่งสินค้าและเรือขนส่งผู้โดยสารไทย-ลาว ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือ เนื่องจากน้ำโขงไหลแรงและมีเศษวัชพืช เศษขยะไหลมากับสายน้ำ พร้อมขยับปรับระดับโป๊ะเทียบท่าให้อยู่ในระดับพอดี และผูกเชือกมัดโยงให้แน่นหนาเพื่อความปลอดภัย ขณะที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม […]

เร่งแกะรอยมือยิงตำรวจ สภ.กรงปินัง เสียชีวิตหน้าร้านสะดวกซื้อ

ยะลา 6 ก.ค.- ผกก.สภ.กรงปินัง สั่งเร่งแกะรอยมือยิงตำรวจเสียชีวิตหน้าร้านสะดวกซื้อ ขณะปฏิบัติหน้าที่ตรวจความปลอดภัย เบื้องต้นคาดเป็นกลุ่มคนร้ายที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ เพื่อสร้างสถานการณ์ เมื่อคืนนี้ เวลาประมาณ 19.40 น. ศูนย์วิทยุ สภ.กรงปินัง จ.ยะลา รับแจ้งว่ามีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ก่อเหตุซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กรงปินัง ขณะออกปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ใกล้กับบริเวณสามแยกทางเข้าที่ว่าการอำเภอกรงปินัง หมู่ที่ 7 ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา เบื้องต้นมีตำรวจรวจได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 นาย ทราบชื่อ ส.ต.ท.ธัญเทพ สิกขาจารย์ ผบ.หมู่ (ป) ปฏิบัติหน้า จราจร สภ.กรงปินัง จ.ยะลา ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดและชนิด บริเวณศีรษะ 1 นัด อาการสาหัส ก่อนเสียชีวิต ขณะนำตัวส่งห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลกรงปินัง จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 2 นาย เข้าไปตรวจตราดูแลความสงบเรียบร้อยภายในร้านสะดวกซื้อตามปกติ หลังจากปฏิบัติหน้าที่เสร็จสิ้น เมื่อเดินออกจากร้าน ได้มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนคาดว่าอยู่ตรงข้ามจุดเกิดเหตุได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดซุ่มยิง จำนวน 1 […]

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ไทยยื่นหนังสือถึงสหประชาชาติปมชายแดนไทย-กัมพูชาเช่นกัน

5 ก.ค. – โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงไทยยื่นหนังสือถึงสหประชาชาติเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาเช่นกัน เพื่อชี้แจงท่าทีของประเทศไทย ตามที่มีการสอบถามจากสื่อต่าง ๆ เรื่องในสื่อออนไลน์ เกี่ยวกับหนังสือของเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรกัมพูชา ณ นครนิวยอร์ก ถึงเลขาธิการสหประชาชาติต้องการจะฟ้องร้องประเด็นชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาต่อ ICJ หรือศาลยุติธรรมระหว่างประเทศนั้น นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า