วอชิงตัน 3 ก.ค. – กระทรวงกลาโหมสหรัฐแถลงวานนี้ว่า ปฏิบัติการโจมตีอิหร่านของสหรัฐ เมื่อ 10 วันก่อน ได้ลดทอนศักยภาพโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านลงไปได้ถึง 2 ปี บ่งชี้ว่าปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐน่าจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการประเมินเบื้องต้นรั่วไหลผ่านสื่อออกมาสู่สาธารณะว่าการโจมตีของสหรัฐ ทำให้โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านอาจถอยหลังไปเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น
ฌอน พาร์เนลล์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ได้ให้ตัวเลขประมาณการดังกล่าวในระหว่างการแถลงข่าว พร้อมเสริมว่าการประเมินอย่างเป็นทางการ “น่าจะใกล้เคียงสองปีมากกว่า” อย่างไรก็ตาม พาร์เนลล์ไม่ได้แสดงหลักฐานใดเพื่อยืนยันการประเมินของเขา ข้อมูลข่าวกรองทั้งหมดที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐได้รับมา ทำให้เชื่อว่าโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทั้ง 3 แห่งที่ ฟอร์โดว์ นาทานซ์ และ อิสฟาฮาน ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา เครื่องบินทิ้งระเบิดทางทหารของสหรัฐ ได้ปฏิบัติการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ 3 แห่งของอิหร่าน ที่ฟอร์โดว์ นาทานซ์ และอิสฟาฮาน โดยใช้อาวุธหนัก ประกอบด้วยระเบิดเจาะบังเกอร์ (bunker-buster bombs) ขนาด 13,600 กิโลกรัม กว่า 12 ลูก และขีปนาวุธร่อนโจมตีภาคพื้นดินโทมาฮอว์กอีกกว่า 24 ลูก
เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือไอเออีเอ (IAEA) กล่าวว่า อิหร่านอาจสามารถกลับมาเสริมสมรรถนะยูเรเนียมได้ภายในไม่กี่เดือน ซึ่งก่อให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการโจมตีของสหรัฐ ที่มุ่งเป้าทำลายโครงการนิวเคลียร์ของเตหะราน ผู้เชี่ยวชาญหลายรายยังได้เตือนด้วยว่า อิหร่านน่าจะเคลื่อนย้ายคลังยูเรเนียมเสริมสมรรถนะระดับสูงใกล้เคียงระดับอาวุธนิวเคลียร์ออกจากโรงงานฟอร์โดว์ที่ฝังลึกใต้ดิน ก่อนที่จะมีการโจมตี แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายพีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ กล่าวว่า เขาไม่ได้รับทราบข้อมูลข่าวกรองที่บ่งชี้ว่าอิหร่านได้เคลื่อนย้ายยูเรเนียมเสริมสมรรถนะระดับสูง เพื่อป้องกันการโจมตีจากสหรัฐแต่อย่างใด.-813.-สำนักข่าวไทย