“เฉลิมชัย” ขอใช้เวทีเลือกตั้งซ่อมเมืองคอนเป็นจุดเริ่มต้นประชาธิปไตยสุจริต

กทม.26 เม.ย. – หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์​ ซัด​ คนปรามาส​กล่าวหาร่วมรัฐบาล​ หวังหาผลประโยชน์​ -​ คอร์รัปชัน​ รับ​ ปชป.​วิกฤติ ​สส.ลดในรอบ ​15 ปี​ ลั่น​ เอกภาพสำคัญที่สุด​แม้จะยาก​ แต่ต้องกล้าเปลี่ยนเปิดพื้นที่คนรุ่นใหม่ ขอใช้เวทีเลือกตั้งซ่อมเมืองคอนเป็นจุดเริ่มต้นประชาธิปไตยสุจริต​ วางยุทธศาสตร์ปี 70 ต้องชนะเลือกตั้ง​ ไร้เงานายชวน เหตุช่วยชินวร​ณ์ หาเสียงนครศรีธรรมราช


พรรคประชาธิปัตย์ จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 โรงแรมมิราเคิลแกรนด์​ โดยมีวาระสำคัญคือ การเลือกตั้งโฆษกพรรค ซึ่งขณะนี้ นางสาวเจนจิรา รัตนเพียร รักษาการโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากที่นายราเมศ​ รัตนเชวง​ ลาออกจากตำแหน่ง จึงต้องมีการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในที่ประชุมใหญ่ นอกจากนี้การเลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวสุนทรพจน์ โดยระบุว่า


โดยนายเฉลิมชัย​ ระบุว่า พูดคุยทำความเข้าใจและสื่อสารบางอย่างให้ชาวประชาธิปัตย์ได้รับทราบว่า วันนี้ประชาธิปัตย์กำลังทำอะไร ซึ่งเดือนนี้ถือเป็นเดือนที่พรรคประชาธิปัตย์ก้าวเข้าสู่ปีที่ 80 ซึ่ง 79 ปีที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านวิกฤตผ่านสิ่งต่างๆมามากมาย มีทั้งรุ่งเรืองมีทั้งตกต่ำ นี่คือสิ่งที่เป็นธรรมชาติของการเมือง แต่สถานการณ์​ ณ​ วันนี้ด้วยสังคมที่แปรเปลี่ยน โดยปฏิบัติการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ประชาธิปัตย์อยู่ในจุดที่วิกฤตอีกครั้ง เราสังเกตหรือศึกษาจากตัวเลขตลอดระยะเวลา 10 -​ 15 ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าตัวเลขของพรรคลดมาเรื่อยๆจนกระทั่งวันนี้เรามีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 25 คน ถ้าพูดทางคณิตศาสตร์เป็นการยืนยันว่าพรรคอยู่ในช่วงวิกฤต นี่คือสิ่งที่ตนกำลังจะพูด ว่าวิกฤตครั้งนี้เราต้องยอมรับความจริงว่าเกิดจากกระบวนการเมืองและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปจะดำเนินการณวันนี้ ก็ดำเนินการอยู่คือการกล้าเปลี่ยนแปลง​ กล้าตัดสินใจ ในการที่จะนำประชาธิปัตย์เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง แต่ทุกอย่างต้องถูกกฎหมาย

นายเฉลิมชัย​ ย้ำว่า​ หลักการและอุดมการณ์ที่ไม่เปลี่ยนแปลง และ​79 ปีที่ผ่านมาได้สอนบทเรียนสอนหลายอย่างให้กับประชาธิปัตย์ และประชาธิปัตย์ได้ทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติเป็นอย่างมาก นี่คือสิ่งที่ตนอยากจะเอามาเป็นความภาคภูมิใจของพวกเราสมาชิกฟังประชาธิปัตย์ทุกคน เพื่อที่จะช่วยกันเดินไปข้างหน้าต่อสู้ไปข้างหน้า แต่การที่จะดำเนินการอย่างนี้ได้ ความมีเอกภาพคือพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพรรคประชาธิปัตย์ ตนอยู่ประชาธิปัตย์ปีนี้เป็นสส. 24 ปี อาจไม่ได้อาวุโสมากมายนัก แต่หากนับตั้งแต่เล่นการเมืองครั้งแรกก็เล่นการเมืองมา 35 ปี ตั้งแต่การเมืองท้องถิ่นปี 2533 และมีโอกาสได้เข้ามาพรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นสส.ครั้งแรกปี 2544 เป็น ปีที่ประจวบคีรีขันธ์ได้สส.ยกจังหวัด​ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ตนไม่เคยเปลี่ยนแปลงอุดมการณ์หรือหลักการแม้แต่นิดเดียว สิ่งที่ลดน้อยถอยลงไปของตน คืออารมณ์ อารมณ์ไม่ร้อนแรงเหมือนเดิมอัตราไม่สูงเหมือนเดิม​ และทิฐิน้อยลงกว่าเดิม ได้ประสบการณ์เพิ่มขึ้น ได้สถานะทางสังคมเพิ่มขึ้น และได้หลายสิ่งหลายอย่างที่พรรคประชาธิปัตย์ให้ตน และตนอยากจะบอกกับทุกคนว่า นี่คือสำนึกที่ตนมีในวันที่ต้องกลับมาไม่ว่าพรรคจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ ตนไม่มีวันทิ้งพรรค และจะยืนอยู่กับพวกเราทุกคนทำให้มีเสียงปรบมือจากสมาชิกใครในห้อง

นายเฉลิมชัย​ ยังระบุอีกว่า ตนยึดมั่นในหลักการและอุดมการณ์ประชาธิปไตยสุจริตและยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ตั้ง สิ่งที่ตนพูด อาจจะบอกว่า ใครก็พูดได้ ใครก็คุยได้ แต่ตนสอบตกเลือกตั้งปี 2562 ไปถามคนทั้งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้เลยว่า​ ตกเพราะอะไร เพราะไม่ยอมซื้อเสียง และชีวิตของตนก็ไม่เคยซื้อเสียง เมื่อสอบตกก็ยอมรับ​สภาพแต่ภูมิใจในประชาธิปไตยที่เป็นสุจริตและความเป็นหลักการของพรรคประชาธิปัตย์ที่ตนมี แต่ไม่เคยได้รับคำปรบมือ หรือกำลังใจแม้แต่นิดเดียว แต่ตนก็ยังมีรักกันที่จะยึดมั่นและจะยืนอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ และวันนี้ก็ยังยืนอยู่พร้อมที่จะต่อสู้และทุ่มเท ที่จะนำพรรคประชาธิปัตย์กลับมาให้ได้ แรงบันดาลใจมีหลายส่วน เสียงปรบมือก็เป็นหนึ่งในนั้นบันดาลใจ เช่นเดียวกันกับคำดูถูกคำปรามาส ตนจะรวมทุกอย่างที่ตนพูดพาทุกคนพาประชาธิปัตย์เดินไปข้างหน้าให้ได้ ความเป็นเอกภาพนี่คือสิ่งที่ตนเรียกร้องที่สุด เป็นสิ่งเดียวที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องลงทุนใช้เงินแม้แต่บาทเดียว แต่ทำยากเหลือเกิน แต่หากเราทำได้เราจะกลับมาทันที​ ณ​ วันนั้น 100%


นายเฉลิมชัย​ กล่าวว่า​ วันนี้ตนคิดว่าพวกเราทุกคนยังมีเวลาในการที่จะช่วยกันขับเคลื่อนพรรค ตนขอยืนยันว่า สิ่งที่คณะกรรมการพรรคตัดสินใจไป บนพื้นฐานของประโยชน์ของประเทศชาติประชาชน และพรรคประชาธิปัตย์ ตนจะไม่ยอม​ วันนี้ตนเป็นหัวหน้าพรรคและเป็นรัฐมนตรี​ตนจะไม่ให้มีเรื่องทุจริตคอรัปชั่น ทำให้พรรคประชาธิปัตย์นั้นเสื่อมหรือแปดเปื้อน​ ตนขอยืนยัน​ ซึ่งการประชุมครั้งก่อนเราเป็นฝ่าย วันนี้เรามาประชุมเราเป็นรัฐบาลได้ 7 เดือนกว่า การเข้ามาเป็นรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์มาตามข้อบังคับพรรคทุกประการ ไม่ใช่นายเฉลิมชัยหรือใครคนใดคนหนึ่งบอกว่าเป็นรัฐบาลก็เป็นได้ พรรคเราขับเคลื่อนด้วยข้อบังคับ​ พรรคมาตลอด แต่ประชาธิปไตยตนเข้าใจ ความเห็นต่างมีได้ แต่ความเห็นต่างนั้นจะต้องไม่ทำความเสียหายให้กับองค์กร

นายเฉลิมชัย​ กล่าวอีกว่า​ สำหรับตนประชาธิปไตยคือการรู้จักหน้าที่ของตนเอง และเคารพสิทธิของผู้อื่น ซึ่ง​ 2 อย่างนี้ถ้าทำได้ประชาธิปไตย 100% แต่ส่วนใหญ่ทำกันไม่ได้ บางคนรู้จักและที่ตัวเองบางคนไม่รู้จัก ก็กลายเป็นประชาธิปไตยครึ่งครึ่งตอนๆ วันนี้เมื่อเราตัดสินใจมาเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ตนยืนยันกับทุกท่านว่า​ หลักการของเราไม่มีเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องซื่อสัตย์สุจริต ตนได้เข้าไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายเดชอิศม์​ ขาวทอง​ ได้เข้าไปเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป้าหมายของพวกเรามีอย่างเดียว เคยทำงานให้เต็มที่รักษาเพื่อสิ่งของพรรค พาพรรคกลับมาในเส้นทางการเมืองให้ได้​ นี่คือเป้าหมายที่พวกเราตั้งใจ ตนเชื่อมั่นว่าพรรคการเมืองทุกพรรค ต้องพร้อมที่จะเป็นทั้งฝ่ายค้านและพร้อมที่จะเป็นรัฐบาล ไม่มีพรรคการเมืองใดในโลก ประกาศว่าจะเป็นรัฐบาลร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นไปไม่ได้ การจะขัดขวางนโยบาย และสิ่งต่างๆเพื่อให้ผู้อื่นพรรคเดินไปข้างหน้าส่วนหนึ่งนอกจากนำเสนอแล้วจะต้องปฏิบัติด้วย การปฏิบัติคือต้องมีโอกาสเข้าไปเป็นฝ่ายบริหารการตัดสินใจในวันนี้ที่คณะกรรมการบริหารและสสตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล ไม่มีใครตอบได้ว่าถูกหรือผิดร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่คำตอบมันจะอยู่ที่การเลือกตั้งครั้งหน้า​ และทุกคนที่ตัดสินใจต้องรับผิดชอบด้วยกัน นี่คือสิ่งที่ตนได้เรียกร้องขอให้ทุกคนมาช่วยกันความเป็นเอกภาพ​ คือพลังที่ดีที่สุด พวกเราที่เข้าไป ถูกปรามาสว่าจะโกงกินประเทศชาติ​ หรือไปหาเงินหาทองหาทรัพย์สินหาผลประโยชน์ ตนขอยืนยันว่ามีสำนึก และจะไม่มีวันเกิดเหตุการณ์อย่างนี้กับพรรคประชาธิปัตย์ไม่บ้าจี้ไปโกงกินตามที่เขาว่าตนมีสติ และตนรักพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีวันที่จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสื่อมเสีย

นายเฉลิมชัย​ ยังกล่าวว่า​ เราทำงานเราแบบป้ายพรรคประชาธิปัตย์ไปด้วย 24 ปีกับการที่พรรคประชาธิปัตย์ให้ตนมีที่ยืนใช้หนี้บุญคุณไม่หมด และไม่มีวันใช้หมดด้วย นี่คือสำนึกที่ตนพยายามพูดถึง พร้อมกับกล่าวว่าตนมาเป็นพรรคหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 9 ต้นยึดมั่นในระบบประชาธิปไตย​ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข​ และยึดมั่นในหลักการอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต และสิ่งที่ตนอยากเห็นที่สุดเลยก็คือประชาธิปไตยสุจริต อยากให้คนไทยได้มาช่วยกันสร้างประชาธิปไตยสุจริตกับตน อยากเชิญประชาชนชาวนครศรีธรรมราชเขต 8 มาร่วมสร้างประชาธิปไตยกับตนในครั้งนี้อยากให้นครศรีธรรมราช​ เป็นการเริ่มต้นประชาธิปไตยสุจริตของประเทศไทย คิด​ หวัง​ และอยากให้เป็นอย่างนั้น แต่ทั้งหมดนี้อยู่ที่ประชาชนไม่ใช่อยู่ที่ตนมาพูดตรงนี้ เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ตนเชื่อว่า พวกเราทุกคนทำอย่างเต็มที่ ขอบคุณอดีตหัวหน้าพรรคทุกคนที่ร่วมกันไปช่วย และได้เห็นกับตาว่าเราทำประชาธิปไตยสุจริตจริงๆไม่ใช่เพียง พูดอย่างเดียว ซึ่งผลต่างๆก็จะเป็นตัวพิสูจน์​

โดยยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์มีตัวแทนทุกจังหวัดครบแล้ว แม้ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในปี 2570 แต่นี่คือการเตรียมความพร้อม โดยเฉพาะกลับมายึดโยงประชาชน โดยให้โอกาส ให้กับคนรุ่นใหม่เข้ามาขับเคลื่อนพรรค โดยสิ่งที่จะขับเคลื่อนหลังจากนี้คือการตั้งคณะทำงานตามยุทธศาสตร์พรรคที่กำหนดไว้ นั่นคือชนะการเลือกตั้ง โดยนโยบายของพรรคจะต้องตรงใจ กับประชาชน และตรงจุดกับปัญหาที่ต้องแก้ และสิ่งที่ตนต้องการสื่อสารคือสิ่งที่เขาโจมตีพรรคประชาธิปัตย์หรือตน ถ้าในทางการสื่อสาร คือเราอยู่ในความสนใจของเขาแล้ว ถ้าเขาไม่พูดเลยหรือไม่ตีเลย คือเราไม่มีคุณค่า ฉะนั้นเราจะต้องทำตัวเองให้ดีจนขอยืนยันว่าทั้งตน ไม่มีวันและเลขาธิการพรรคจะไม่มีวันทำอะไรให้พรรคเสื่อมเสียเด็ดขาดขอให้ทุกคนเชื่อมั่น​ และตนเคารพและปฏิบัติตามนโยบายของหัวหน้าพรรคแต่ละท่านโดยไม่บิดพลิ้ว ขอให้สมาชิกทุกคนสบายใจในการบริหารงานของตน

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมในครั้งนี้นายชวน​ หลีกภัยสส.บัญชีรายชื่อไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วยเนื่องจากติดภารกิจช่วยนายชินวร​ณ์ บุ​ณยเกียรติ​ ผู้สมัครสส. นครศรีธรรมราชเขต 8 หาเสียง

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณงานสมาชิกพรรค ได้ เขียนโพสต์อิท บริเวณแบคดรอปบริเวณด้านหน้าห้องประชุม โดยระบุบางส่วนว่า”ให้กำลังใจ พรรคประชาธิปัตย์ให้สู้ต่อไป” “พร้อมแล้วสู้ไปด้วยกัน” “พร้อมสู้ไปกับพรรคตลอดไปอุดมการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง” .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย