“พาณิชย์” ยกระดับค้าปลีกชุมชน​สู่​ “สมาร์ท​โชห่วย”

นนทบุรี​ 23​ ธ.ค. – “นภินทร” เร่งเดินหน้ายกระดับธุรกิจค้าปลีกชุมชนทั่วประเทศ ผสานพลังพันธมิตรทุกภาคส่วน นำเทคโนโลยีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการค้าขายและให้บริการ สู่การเป็นค้าปลีกยุคใหม่


นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกท้องถิ่นที่ครอบคลุมตั้งแต่ร้านค้าปลีกรายย่อย (โชห่วย) ไปจนถึงห้างท้องถิ่นในระดับอำเภอ/จังหวัด ถือเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจฐานรากที่มีบทบาทในการกระจายรายได้และสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน แต่การแข่งขันจากห้างค้าส่งค้าปลีกสมัยใหม่และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้โชห่วยต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอดและเติบโต การส่งเสริมให้ผู้ประกอบการนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการจึงเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาธุรกิจค้าปลีกให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด รวมถึงช่วยเพิ่มรายได้ ขยายโอกาส และสร้างความเข้มแข็งแก่ผู้ประกอบการ

กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จึงได้ส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจค้าปลีก (โชห่วย) มาอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการ “สมาร์ทโชห่วย พลัส” เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการโชห่วยไทยทั่วประเทศให้เป็น “สมาร์ทโชห่วย” ที่มีภาพลักษณ์ร้านค้าที่ดี มีการใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการร้านค้า และมีช่องทางออนไลน์เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาด นอกจากนี้โครงการสมาร์ทโชห่วยพลัสยังได้ร่วมมือห้างท้องถิ่นที่ผ่านการพัฒนาเป็น “ห้างท้องถิ่นต้นแบบ” ช่วยพัฒนาร้านค้าปลีกรายย่อยภายใต้แนวคิด “พี่เลี้ยงโชห่วย” โดยในปี 2567 มีร้านค้าปลีกรายย่อยหรือโชห่วยได้รับการพัฒนาเสริมสร้างองค์ความรู้ใน 4 ภูมิภาคผ่านการจัดสัมมนาออนไซต์และสัมมนาออนไลน์ จำนวนกว่า 3,200 ราย และมีร้านค้าที่พัฒนาต่อยอดเป็น “สมาร์ทโชห่วย” ด้วยการปรับภาพลักษณ์ร้านค้าและส่งเสริมใช้ระบบ POS รวม 250 ร้านค้า และมีห้างท้องถิ่นต้นแบบจำนวน 21 ร้านค้าจากทั่วประเทศร่วมเป็นพี่เลี้ยง ซึ่งคาดว่าจะก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมกว่า 84 ล้านบาท


สำหรับในปี 2568 ได้ มีแผนจะขยายการดำเนินโครงการสมาร์ทโชห่วยพลัส โดยเพิ่มกลุ่มเป้าหมายการพัฒนาไปยังธุรกิจค้าปลีกอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในชุมชนด้วย อาทิ ร้านขายยา สินค้าเบ็ดเตล็ด เครื่องเขียน ร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี อุปกรณ์ก่อสร้าง และอุปกรณ์การเกษตร เพื่อสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเติบโตของธุรกิจค้าปลีกในชุมชนให้เข้มแข็งและสามารถแข่งขันกับร้านสะดวกซื้อและห้างค้าปลีกได้มากขึ้น จึงได้จัดงาน “ผสานพลังความร่วมมือ สู่การพัฒนาค้าปลีกชุมชนด้วยเทคโนโลยี” เพื่อให้หน่วยงานพันธมิตร เช่น สมาคมอุตสาหกรรมซอฟแวร์ไทย และภาคเอกชนกลุ่มเทคโนโลยี AI Chatbot และ POS เป็นต้น มาร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนแนวทางการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจค้าปลีกชุมชนให้สามารถแข่งขันกับร้านค้าสมัยใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมนำเทคโนโลยีสำหรับธุรกิจค้าปลีกยุคใหม่ อาทิ เทคโนโลยีนำสมัยจากสมาคมอุสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย, Smart AI Assistance, POS และ Chatbot ที่ตอบโจทย์ธุรกิจค้าปลีก ครบ จบ ในที่เดียว มาให้ทดลองใช้งานฟรี โดยมีหน่วยงานพันธมิตร ร้านค้าโชห่วย ร้านค้าปลีกอื่นๆ ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล กว่า 100 ราย เข้าร่วม ทั้งนี้ การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในธุรกิจค้าปลีกชุมชนจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลดต้นทุนและเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น นอกจากนี้ การสนับสนุนจากภาครัฐและภาคเอกชนก็มีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ในการยกระดับธุรกิจค้าปลีกชุมชนให้สามารถเติบโตและอยู่รอดได้อย่างยั่งยืน. 512 – สำนักข่าว​ไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

กกต.สั่งเอาผิดอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ

กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี

ข่าวแนะนำ

ไตรภาคีเคาะแล้ว! ค่าจ้างขั้นต่ำ มีผล 1 ม.ค.68

ไตรภาคี เคาะค่าจ้าง 400 บาท ลูกจ้าง 4 จังหวัด 1 อำเภอ “ภูเก็ต-ฉะเชิงเทรา-ชลบุรี-ระยอง-อ.เกาะสมุย” มีผล 1 ม.ค.68 ขึ้นค่าจ้าง 7-55 บาท 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้วันละ 337 บาท

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค ไม่ให้ระบาดในไทย พร้อมยกมาตรรักษาสุขภาวะในพื้นที่อย่างเข้มข้น