ก.พาณิชย์ 23 ธ.ค. – กระทรวงพาณิชย์ประกาศขึ้นทะเบียน “มะม่วงเขียวเสวยแปดริ้ว” สินค้า GI รายการใหม่ ของดีฉะเชิงเทรา ลูกใหญ่ เนื้อแน่น รสชาติหวานมัน เอกลักษณ์โดดเด่น เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า กระทรวงพาณิชย์มอบนโยบายให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง กระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญในการยกระดับความสามารถในการแข่งขันภาคเกษตร ผ่านการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI เพื่อคุ้มครองสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะในแต่ละท้องถิ่น สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า อีกทั้งยังเป็นการควบคุมคุณภาพสินค้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ล่าสุดกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ประกาศขึ้นทะเบียน “มะม่วงเขียวเสวยแปดริ้ว” เป็นสินค้า GI ลำดับ 3 ของจังหวัดฉะเชิงเทราต่อจากสินค้ามะม่วงน้ำดอกไม้ สีทองบางคล้า และมะพร้าวน้ำหอมบางคล้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI ไปก่อนหน้านี้
“มะม่วงเขียวเสวยแปดริ้ว” คือมะม่วงพันธุ์เขียวเสวย มีลักษณะผลทรงรี เปลือกสีเขียวนวล เนื้อมีสีเขียวอมเหลืองหรือสีเหลืองอ่อน รสชาติหวานมัน เมล็ดลีบแบนและยาวตามลักษณะทรงผล ปลูกครอบคลุมพื้นที่ 8 อำเภอของจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้แก่ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา อำเภอบางคล้า อำเภอคลองเขื่อน อำเภอราชสาส์น อำเภอพนมสารคาม อำเภอแปลงยาว อำเภอสนามชัยเขต และอำเภอท่าตะเกียบ มีลักษณะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบและที่ราบลุ่มแม่น้ำ มีแม่น้ำบางปะกงเป็นแม่น้ำสายหลักไหลผ่านออกสู่ทะเลอ่าวไทย แม่น้ำบางปะกงจึงได้รับอิทธิพลจากน้ำทะเลหนุน ในฤดูน้ำหลากจะพัดเอาตะกอนดินเหนียว ซากพืช ซากสัตว์ และแร่ธาตุต่างๆ มารวมกัน อีกทั้งยังมีน้ำเค็มซึมผ่านเข้าไปในแม่น้ำ เกิดการกระจายความเค็ม ในพื้นที่ผ่านคลองสายต่าง ๆ เมื่อตะกอนน้ำจืดและตะกอนน้ำกร่อยผสมกัน จะส่งผลให้พื้นที่ตลอดเส้นทางน้ำมีความอุดมสมบูรณ์ ดินมีธาตุอาหารที่เหมาะกับการปลูกมะม่วงเขียวเสวย ประกอบกับจังหวัดฉะเชิงเทรา มีภูมิอากาศแบบเขตเมืองร้อน ส่งผลให้มะม่วงเขียวเสวยแปดริ้ว ผลใหญ่ เนื้อหนาละเอียด กรอบ อร่อย รสชาติหวานมัน มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น จนได้รับรางวัลจากการประกวดงานเกษตรแฟร์ประจำปี พ.ศ. 2534 พ.ศ. 2538 และ พ.ศ. 2544 ที่จัดขึ้น ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และรางวัลชนะเลิศพระราชทานรางวัลเทพทอง ในปี พ.ศ.2553 สร้างชื่อเสียงให้มะม่วงเขียวเสวยแปดริ้วเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น และสร้างรายได้ให้กับจังหวัดฉะเชิงเทรากว่า 61 ล้านบาทต่อปี
ปัจจุบันมีสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัด จำนวน 216 รายการ สร้างมูลค่ากว่า 77,000 ล้านบาท ทำให้สินค้าท้องถิ่นได้รับการยกระดับมูลค่า สร้างรายได้สู่ชุมชน และสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากของไทยอย่างยั่งยืน.-517-สำนักข่าวไทย