สช.ชวนภาคีสางปัญหา ‘ความรุนแรงจากอาวุธปืน’ ลุยจัดสมัชชาฯ ทำข้อเสนอแก้เชิงระบบ ‘ระดับชาติ’

11 ต.ค. – สช. เตรียมชักชวนภาคีเครือข่ายร่วมกระบวนการจัดทำนโยบายสาธารณะสางปัญหา “ความรุนแรงจากอาวุธปืน” จ่อตั้งวงวิชาการทบทวนสถานการณ์ในไทยและประสบการณ์การแก้ไขปัญหาของต่างประเทศ สังเคราะห์เป็นข้อเสนอเชิงนโยบายที่ใช้ได้จริง ผ่านกระบวนการสมัชชาฯ ที่มีส่วนร่วม เปลี่ยนจากความสูญเสียเป็นร่วมหาฉันทมติและทุกภาคส่วนขับเคลื่อนแก้ปัญหาเชิงระบบร่วมกันอย่างต่อเนื่อง


นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เปิดเผยว่า เหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนก่อเหตุกราดยิงในศูนย์เด็กเล็ก จ.หนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2565 จนมีเด็กเล็กและผู้เสียชีวิตอื่นรวมกว่า 37 ราย ตลอดจนอีกหลายเหตุการณ์ในอดีต อาทิ การใช้อาวุธสงครามกราดยิงในศูนย์การค้า จ.นครราชสีมา เมื่อปี 2563 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 31 ราย ทำให้สังคมตั้งคำถามว่าจะหยุดความรุนแรงและเสียหายจากอาวุธปืนได้อย่างไร และจากข้อมูลสถิติขององค์กรวิจัย Small Arms Survey (SAS) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พบว่า มีคนไทยมากกว่า 10.3 ล้านคนครอบครองอาวุธปืน ซึ่งเป็นปืนที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายราว 6.2 ล้านกระบอก ขณะที่อีกกว่า 4.1 ล้านกระบอกเป็นปืนเถื่อน และพบว่าประเทศไทยเป็นประเทศต้นๆ ของโลกที่มีการทำร้ายหมู่จากอาวุธปืน ข้อมูลนี้เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นถึงขนาดของปัญหาที่กำลังขยายตัว จึงจำเป็นต้องเร่งแก้ไขอย่างรีบด่วน

นพ.ประทีป กล่าวว่า นอกเหนือจากมาตรการเฉพาะหน้าในการเยียวยาครอบครัวของผู้ได้รับความสูญเสียแล้ว ประเทศไทยจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนความเศร้าสลดจาการสูญเสีย และใช้ความตื่นตัวของภาคส่วนต่างๆ ที่ต้องการแก้ปัญหาความรุนแรงนี้ เป็นพลังในการจัดทำนโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วมบนพื้นฐานของข้อมูลและความรู้ และก่อตัวเป็นพันธสัญญาร่วมในการขับเคลื่อนเชิงระบบอย่างต่อเนื่อง ความรุนแรงที่เกิดขึ้นนี้เกินกว่าจะกล่าวโทษใคร หรือทิ้งให้เป็นปัญหาภาระของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง “กระบวนการสานพลัง สร้างพันธสัญญาร่วมนี้ เป็นบทบาทโดยตรงของสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ตาม พ.ร.บ. สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 ดังนั้น สช.จะชักชวนทุกฝ่ายเข้ามาร่วมจัดทำนโยบายและขับเคลื่อนแก้ไขปัญหานี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมจัดทำกระบวนการทางวิชาการและการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย เพื่อให้เกิดข้อเสนอเชิงระบบอย่างรอบด้านในการควบคุมการใช้อาวุธปืน และการลดความรุนแรงอื่นๆ ในสังคมไทย เข้าสู่การพิจารณาและขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องของสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็น หรือสมัชชาสุขภาพแห่งชาติในเดือนธันวาคมปีนี้” เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าว


ด้าน นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ประธานคณะกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ (คจ.สช.) ครั้งที่ 15 พ.ศ. 2565 และอดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ประเทศไทยมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการครอบครองอาวุธปืนตาม พ.ร.บ. อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ที่เป็นกฎหมายที่บังคับใช้มายาวนานกว่า 75 ปี ซึ่งมีหลายมิติที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันหรือไม่ และนอกเหนือจากมิติทางกฎหมายที่ถือเป็นอำนาจแข็งแล้ว การแก้ไขปัญหานี้จำเป็นต้องใช้อำนาจอ่อนร่วมด้วย คือการผสานความร่วมมือของหลายฝ่ายเข้ามาช่วยกันจัดทำนโยบายฯ และร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายให้เกิดเป็นรูปธรรม ซึ่งการเปิดพื้นที่ถกแถลงของ สช. ในครั้งนี้ จะมุ่งเน้นไปที่การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการ ทบทวนวรรณกรรม งานวิจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดเป็นข้อเสนอที่สามารถนำไปสู่การแก้ไขเชิงระบบได้

“ข้อเสนอที่ได้ จะไม่ใช่การสั่งการว่าใครต้องทำอะไร แต่จะเป็นข้อมูลเชิงวิชาการที่ฉายภาพให้เห็นมิติต่างๆ ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังของปัญหาปืนเถื่อนเกลื่อนเมือง หรืออะไรคือจุดเปราะบางของประเทศไทยจากมุมมองต่างประเทศ ฯลฯ ซึ่งข้อเสนอที่ผ่านกระบวนการสมัชชาฯ ทั้งหมดนี้ จะกลายเป็นนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วม ที่จะแก้ปัญหานี้ได้อย่างยั่งยืน เพราะนี่จะเป็นนโยบายที่ทุกภาคีในประเทศไทยที่เห็นปัญหาร่วมกัน ร่วมกันจัดทำ และร่วมกันขับเคลื่อน” นายชาญเชาวน์ กล่าว

การสานพลังทุกภาคส่วนผ่านกระบวนการสมัชชาสุขภาพฯ เพื่อแก้ไขปัญหาความรุนแรงจากการใช้อาวุธปืนนี้ สอดคล้องกับข้อเสนอของ รศ.ดร.วิทยา กุลสมบูรณ์ ผอ.สำนักงานแผนงานกองทุนศตวรรษ์ที่ 2 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เสนอไว้เมื่อวันที่ 9 ตค. หลังเหตุกราดยิงที่ศูนย์เด็กเล็ก จ.หนองบัวลำภู ว่า การสร้างให้เกิดความตระหนักในเรื่องนี้ ในการประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติในเดือนธันวาคม ถือเป็นการสร้างโอกาส ด้วยวิกฤตดังกล่าวเป็นปัจจัยนำเข้าและภาวะแวดล้อมเกื้อหนุนให้เกิดการเห็นความสำคัญปัญหาจากภาคีสมาชิกจำนวนมาก และเป้าหมาย การก่อรูปความตระหนักของสังคมของทุกภาคส่วนในครั้งนี้ คือ มติสมัชชาสุขภาพที่มีส่วนร่วมในเชิงสัญญะ ไม่เพียงมติที่เป็นลายลักษณ์อักษร สาระของมติที่ตอบโจทย์ปัญหานี้เป็นเรื่องไม่เกินพลังคิดของเครือข่ายภาคีจำนวนมากที่เป็นสมาชิกสมัชชา แต่ความตื่นตัวต่อปัญหาที่จะลงมือสร้างพันธสัญญาร่วมถือเป็นความสำคัญยิ่ง”


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ลิณธิภรณ์” แจงปมสะกดคำผิด ยอมรับผิดพลาดพร้อมแก้ไข

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “ลิณธิภรณ์” ยอมรับดรามาใช้ภาษาไทยสะกดคำผิด พร้อมแก้ไขปรับปรุงตัว รับปากจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก บอก บางครั้งรีบพิมพ์ไม่ได้ตรวจทาน ทำเกิดผลเสียทุกวันนี้ แจงมีปัญหาสุขภาพ อาจทำให้ออกเสียงควบกล้ำไม่ได้ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงดรามาเรื่องการใช้ภาษาไทยในโซเชียลมีเดีย ว่า ตนขอยอมรับอย่างซื่อตรง ว่าบางครั้งในการสะกดคำของตนเองก็มีความผิดพลาด ซึ่งบางครั้งใช้การพิมพ์ด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้โพสต์ข้อความไปแล้ว ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีก็ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง มันเป็นความผิดพลาด อันนี้ตนยอมรับด้วยความจริงใจ และวันนี้ตนก็เข้าใจดีว่าเมื่อมานั่งตำแหน่งตรงนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องทำ คือต้องปรับปรุง และคิดว่าหลังจากนี้ความผิดพลาดเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะตนก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ของประเทศเหมือนกัน รวมถึงอีกสิ่งที่ตนอยากจะบอกคือการออกเสียงควบกล้ำ ซึ่งเป็นผลกระทบ จากปัญหาสุขภาพ แต่ส่วนหนึ่งตนก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในภาพนโยบายใหญ่ คงต้องขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยใน รายละเอียดที่ชัดเจน และจะเข้ากระทรวงพร้อมกันในวันที่ 8 กรกฎาคม สำหรับตนหากใครที่เคยติดตาม ก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ พูดเรื่องการศึกษาในส่วนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าสอบทีแคส (TCAS) รวมถึงเรื่องการทำโครงการ ด้านสุขภาพภาวะจิต และอาจจะเป็นโครงการหนึ่งที่ตนจะสานต่อ […]

มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ที่บราซิล

ทำเนียบ 3 ก.ค.-มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ครั้งที่ 17 ที่บราซิล 6-7 ก.ค.นี้ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2568 ร่วมกับผู้นำจาก 10 ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS และประเทศหุ้นส่วนจากหลากหลายประเทศ ที่นครรีโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยไทยเข้าร่วมในฐานะประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS (Partner Country) สำหรับการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “เสริมสร้างความร่วมมือโลกใต้เพื่อการสร้างธรรมาภิบาลที่ครอบคลุมและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยบราซิลในฐานะประธานกลุ่ม BRICS ปีนี้ ให้ความสำคัญกับประเด็นหลัก 6 ด้าน ได้แก่ (1) สาธารณสุข (2) การค้า การลงทุน และการเงิน (3) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) ธรรมาภิบาลของปัญญาประดิษฐ์ […]

Hun Sen, at event marking ruling party's 74th founding anniversary

ฮุน เซน เรียกร้องปั๊ม ปตท. งดนำเข้าน้ำมันจากไทย

พนมเปญ 3 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเรียกร้องให้เจ้าของปั๊ม ปตท.เลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าจากประเทศอื่นแทน สื่อของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน พูดถึงเรื่องนี้ในระหว่างการประชุมกับครูและนักเรียนที่ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมในจังหวัดไพรแวงในวันนี้ เรียกร้องให้เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.ทุกแห่งในกัมพูชาเลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าน้ำมันจากประเทศอื่น ๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นจากเวียดนาม  มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อปั๊ม แม้ว่า ปตท.จะเป็นรัฐวิสาหกิจของไทยก็ตาม นอกจากนี้นายฮุน เซนยังพูดถึงเรื่องที่ไทยเคยขู่ว่าจะตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ห้ามขายเชื้อเพลิง และอื่นๆ ให้กัมพูชาด้วยว่า เมื่อไทยขู่มากัมพูชาก็ตอบโต้ทันที กัมพูชาต้องพึ่งพาตนเองให้ได้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในอนาคตเหมือนกับที่กำลังเผชิญจากไทยในเวลานี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากไทย แต่กัมพูชาก็ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ของกัมพูชา ประธานวุฒิสภากัมพูชาเน้นย้ำว่า มาตรการทั้งหมดที่กัมพูชาได้ดำเนินไปนั้นเป็นการตอบโต้โดยตรงกับภัยคุกคามจากฝ่ายไทย รวมทั้งการที่ไทยปิดด่านพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียว เขาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า การเจรจากับไทยจะเริ่มขึ้นได้ ต่อเมื่อฝ่ายไทยจะต้องยอมเปิดด่านทุกจุดอย่างเต็มรูปแบบเหมือนที่เคยทำก่อนวันที่ 7 มิถุนายนแล้วเท่านั้น.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เปิด 7 จุดยืน “ปชน.” ทางออกประเทศหาก “แพทองธาร” พ้นเก้าอี้

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “แพทองธาร” พ้นตำแหน่ง เปิดเงื่อนไขโหวตนายกฯ คนใหม่ พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “นายกฯ แพทองธาร” พ้นจากตำแหน่ง เพื่อนำพาประเทศไปสู่ทางออกที่จะเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับประชาชนทุกคน ดังนี้ 1.สิ่งที่ประเทศต้องการมากที่สุด คือรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรม และสามารถตั้งทีมบริหารจากความรู้ความสามารถ ไม่ใช่จากการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง2.รัฐบาลที่จะมีคุณสมบัติดังกล่าวจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากสภาชุดปัจจุบัน ทางออกสำหรับประเทศจึงเป็นการจัดให้มี “การเลือกตั้งใหม่” โดยเร็ว3.รักษาการนายกฯ ควรประกาศให้ชัดเจนว่าจะใช้อำนาจที่ตนเองมี ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนผ่านคูหาเลือกตั้ง4.หากรักษาการนายกฯ ไม่ทำ และมีเหตุใดที่ทำให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร พ้นจากตำแหน่ง กระบวนการในการเลือกนายกฯ คนใหม่ จะต้องนำไปสู่การได้มาซึ่งนายกฯ ที่พร้อมเดินหน้าสู่การยุบสภา5.เพื่อให้ประเทศไม่ถูกบีบไปสู่ทางตันหรือการใช้อำนาจนอกครรลองประชาธิปไตย เราพร้อมจะพิจารณาลงมติให้กับผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ คนใหม่คนใดก็ตาม ที่ยอมรับ “เงื่อนไข” ในการเป็นรัฐบาลชั่วคราว โดยทางพรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลและจะไม่มีใครจากพรรคประชาชนไปเป็นรัฐมนตรี 6.“เงื่อนไข” ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา สำหรับนายกฯ คนใหม่ จะต้องประกอบไปด้วยอย่างน้อย6.1 การประกาศเส้นตายว่าจะยุบสภาภายในสิ้นปี6.2 การยืนยันภารกิจเฉพาะหน้าที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว (เช่น การดำเนินการให้มีการจัดประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง เพื่อถามประชาชนเรื่องการมี […]

ข่าวแนะนำ

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

เด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่

กทม. 5 ก.ค. – สั่งเด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่ ขณะที่เช้านี้เจ้าหน้าที่คุมตัว 72 นักพนัน ไปฝากขังศาลแขวงดอนเมือง พบส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุภาอ้วน รอง ผบก.น.2 รรท.ผบก.น.2 ลงนามในคำสั่ง กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ที่ 183/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ และแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเมื่อวันที่ 4 ก.ค.68 เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เข้าทำการสืบสวนสถานที่ต้องสงสัย ซึ่งคาดว่าเป็นบ่อนการพนัน บริเวณอาคารพาณิชย์ กลางซอยพหลโยธิน 52 แยก 3 แขวงคลงถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร และได้จับกุมผู้ต้องหากับพวกในข้อหา “ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันไฮโล เพื่อพนันเอาทรัพย์สินกัน โดยไม่ได้รับอนุญาต”และ “ร่วมกันเข้าเล่นหรือเล่นการพนันโฮโลเพื่อพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งเหตุดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบของสน.บางเขน เพื่อให้การบริหารงานในภาพรวมของ กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเรียบร้อย […]

ค้นบ้านพักสีกา คนสนิท “ทิดอาชว์” พบจีวรหลายผืน

กทม. 5 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” รับเมื่อวาน ปปป. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำหมายศาลค้นบ้านพักสีกา ก.ไก่ คนสนิท “ทิดอาชว์” อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ พบภายในบ้านมีจีวรหลายผืน เวลา 10.00 น. พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ บช.ก. เปิดเผยถึงความคืบหน้า การสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลและหลักฐาน ที่เกี่ยวข้องกับวัดตรีทศเทพ ว่าเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่งในหมู่บ้านดังของสีกาไฮโซ อักษรย่อ ก.ไก่ หญิงสาวคนสนิทของทิดอาชว์ เพื่อค้นหาพยานหลักฐาน พร้อมสอบปากคำสีกาคนดังกล่าว จากการตรวจค้นภายในบ้านพัก พบพยานหลักฐานจำนวนหนึ่ง โดย 1 ในนั้นเป็นจีวรพระหลายพื้น แต่จะเป็นของพระรูปไหนอย่างไร ยังไม่ทราบ เพราะเจ้าตัวยังไม่เปิดเผย จากการสอบปากคำสีกา ก. ให้การเป็นประโยชน์เป็นที่น่าพอใจ สามารถขยายผลนำไปสู่การสืบสวนสอบสวนคดีทุจริตในอนาคตได้ นอกจากนี้ สีกาไฮโซ ก. ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ได้ ซึ่งถือว่าเป็นให้ความร่วมมือในทิศทางที่ดี อย่างไรก็ตาม หลังหมดเวลาตรวจค้น 18.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัว […]

‘ทรัมป์’ ฉลองวันชาติสหรัฐด้วยการลงนามร่างกฎหมายสำคัญ

วอชิงตัน 5 ก.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เมลาเนีย ทรัมป์ ได้ร่วมฉลองวันประกาศอิสรภาพของสหรัฐเมื่อวานนี้ ด้วยการแสดงพลุไฟตระการตาเหนือน่านฟ้ากรุงวอชิงตัน นายทรัมป์จัดพิธีฉลองวันชาติที่สนามหญ้าด้านทิศใต้ของทำเนียบขาวในวันหยุดเพื่อรำลึกวันประกาศอิสรภาพ 4 กรกฎาคม โดยมีการแสดงการบินของเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหนและเครื่องบินขับไล่ คล้ายกับที่เครื่องบินที่ใช้ในการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ในอิหร่านเมื่อเร็วๆ นี้ มีผู้สนับสนุนนายทรัมป์หลายร้อยคนเข้าร่วม รวมถึงเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว สมาชิกสภาคองเกรส และครอบครัวทหาร ก่อนหน้านั้น นายทรัมป์ลงนามบังคับใช้ แพ็กเกจกฎหมายขนาดใหญ่ว่าด้วยการลดภาษีและการใช้จ่าย ในพิธีที่จัดขึ้นที่ทำเนียบขาว เพียงหนึ่งวันหลังจากที่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ได้อนุมัติร่างกฎหมายสำคัญนี้ไปอย่างฉิวเฉียด ซึ่งถือเป็นกฎหมายสำคัญประจำวาระที่สองของรัฐบาลทรัมป์ ร่างกฎหมายฉบับนี้จะใช้เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับการปราบปรามการเข้าเมืองของนายทรัมป์ ทำให้การลดภาษีในปี 2017 ของเขาเป็นไปแบบถาวร และคาดว่าจะทำให้ ชาวอเมริกันหลายล้านคนถูกตัดสิทธิ์จากการประกันสุขภาพ โดยร่างกฎหมายผ่านสภาฯ ด้วยคะแนนเสียง 218 ต่อ 214 หลังจากการอภิปรายที่เข้มข้นในสภา การผ่านร่างกฎหมายนี้ถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับทรัมป์และพันธมิตรพรรครีพับลิกัน ซึ่งโต้แย้งว่ากฎหมายจะช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็มองข้ามการวิเคราะห์ที่เป็นกลางซึ่งคาดการณ์ว่ากฎหมายจะเพิ่ม หนี้ของประเทศอีกกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ จากหนี้ปัจจุบันที่ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์ แม้ว่าสมาชิกสภาบางคนจากพรรคของนายทรัมป์จะแสดงความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนของร่างกฎหมายและผลกระทบต่อโครงการดูแลสุขภาพ แต่สุดท้ายแล้วมีเพียง ส.ส. รีพับลิกันเพียงสองคนจากทั้งหมด 220 […]