สช.ชวนภาคีสางปัญหา ‘ความรุนแรงจากอาวุธปืน’ ลุยจัดสมัชชาฯ ทำข้อเสนอแก้เชิงระบบ ‘ระดับชาติ’

11 ต.ค. – สช. เตรียมชักชวนภาคีเครือข่ายร่วมกระบวนการจัดทำนโยบายสาธารณะสางปัญหา “ความรุนแรงจากอาวุธปืน” จ่อตั้งวงวิชาการทบทวนสถานการณ์ในไทยและประสบการณ์การแก้ไขปัญหาของต่างประเทศ สังเคราะห์เป็นข้อเสนอเชิงนโยบายที่ใช้ได้จริง ผ่านกระบวนการสมัชชาฯ ที่มีส่วนร่วม เปลี่ยนจากความสูญเสียเป็นร่วมหาฉันทมติและทุกภาคส่วนขับเคลื่อนแก้ปัญหาเชิงระบบร่วมกันอย่างต่อเนื่อง


นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เปิดเผยว่า เหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนก่อเหตุกราดยิงในศูนย์เด็กเล็ก จ.หนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2565 จนมีเด็กเล็กและผู้เสียชีวิตอื่นรวมกว่า 37 ราย ตลอดจนอีกหลายเหตุการณ์ในอดีต อาทิ การใช้อาวุธสงครามกราดยิงในศูนย์การค้า จ.นครราชสีมา เมื่อปี 2563 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 31 ราย ทำให้สังคมตั้งคำถามว่าจะหยุดความรุนแรงและเสียหายจากอาวุธปืนได้อย่างไร และจากข้อมูลสถิติขององค์กรวิจัย Small Arms Survey (SAS) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พบว่า มีคนไทยมากกว่า 10.3 ล้านคนครอบครองอาวุธปืน ซึ่งเป็นปืนที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายราว 6.2 ล้านกระบอก ขณะที่อีกกว่า 4.1 ล้านกระบอกเป็นปืนเถื่อน และพบว่าประเทศไทยเป็นประเทศต้นๆ ของโลกที่มีการทำร้ายหมู่จากอาวุธปืน ข้อมูลนี้เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นถึงขนาดของปัญหาที่กำลังขยายตัว จึงจำเป็นต้องเร่งแก้ไขอย่างรีบด่วน

นพ.ประทีป กล่าวว่า นอกเหนือจากมาตรการเฉพาะหน้าในการเยียวยาครอบครัวของผู้ได้รับความสูญเสียแล้ว ประเทศไทยจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนความเศร้าสลดจาการสูญเสีย และใช้ความตื่นตัวของภาคส่วนต่างๆ ที่ต้องการแก้ปัญหาความรุนแรงนี้ เป็นพลังในการจัดทำนโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วมบนพื้นฐานของข้อมูลและความรู้ และก่อตัวเป็นพันธสัญญาร่วมในการขับเคลื่อนเชิงระบบอย่างต่อเนื่อง ความรุนแรงที่เกิดขึ้นนี้เกินกว่าจะกล่าวโทษใคร หรือทิ้งให้เป็นปัญหาภาระของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง “กระบวนการสานพลัง สร้างพันธสัญญาร่วมนี้ เป็นบทบาทโดยตรงของสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ตาม พ.ร.บ. สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 ดังนั้น สช.จะชักชวนทุกฝ่ายเข้ามาร่วมจัดทำนโยบายและขับเคลื่อนแก้ไขปัญหานี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมจัดทำกระบวนการทางวิชาการและการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย เพื่อให้เกิดข้อเสนอเชิงระบบอย่างรอบด้านในการควบคุมการใช้อาวุธปืน และการลดความรุนแรงอื่นๆ ในสังคมไทย เข้าสู่การพิจารณาและขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องของสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็น หรือสมัชชาสุขภาพแห่งชาติในเดือนธันวาคมปีนี้” เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าว


ด้าน นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ประธานคณะกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ (คจ.สช.) ครั้งที่ 15 พ.ศ. 2565 และอดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ประเทศไทยมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการครอบครองอาวุธปืนตาม พ.ร.บ. อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ที่เป็นกฎหมายที่บังคับใช้มายาวนานกว่า 75 ปี ซึ่งมีหลายมิติที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันหรือไม่ และนอกเหนือจากมิติทางกฎหมายที่ถือเป็นอำนาจแข็งแล้ว การแก้ไขปัญหานี้จำเป็นต้องใช้อำนาจอ่อนร่วมด้วย คือการผสานความร่วมมือของหลายฝ่ายเข้ามาช่วยกันจัดทำนโยบายฯ และร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายให้เกิดเป็นรูปธรรม ซึ่งการเปิดพื้นที่ถกแถลงของ สช. ในครั้งนี้ จะมุ่งเน้นไปที่การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการ ทบทวนวรรณกรรม งานวิจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดเป็นข้อเสนอที่สามารถนำไปสู่การแก้ไขเชิงระบบได้

“ข้อเสนอที่ได้ จะไม่ใช่การสั่งการว่าใครต้องทำอะไร แต่จะเป็นข้อมูลเชิงวิชาการที่ฉายภาพให้เห็นมิติต่างๆ ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังของปัญหาปืนเถื่อนเกลื่อนเมือง หรืออะไรคือจุดเปราะบางของประเทศไทยจากมุมมองต่างประเทศ ฯลฯ ซึ่งข้อเสนอที่ผ่านกระบวนการสมัชชาฯ ทั้งหมดนี้ จะกลายเป็นนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพแบบมีส่วนร่วม ที่จะแก้ปัญหานี้ได้อย่างยั่งยืน เพราะนี่จะเป็นนโยบายที่ทุกภาคีในประเทศไทยที่เห็นปัญหาร่วมกัน ร่วมกันจัดทำ และร่วมกันขับเคลื่อน” นายชาญเชาวน์ กล่าว

การสานพลังทุกภาคส่วนผ่านกระบวนการสมัชชาสุขภาพฯ เพื่อแก้ไขปัญหาความรุนแรงจากการใช้อาวุธปืนนี้ สอดคล้องกับข้อเสนอของ รศ.ดร.วิทยา กุลสมบูรณ์ ผอ.สำนักงานแผนงานกองทุนศตวรรษ์ที่ 2 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เสนอไว้เมื่อวันที่ 9 ตค. หลังเหตุกราดยิงที่ศูนย์เด็กเล็ก จ.หนองบัวลำภู ว่า การสร้างให้เกิดความตระหนักในเรื่องนี้ ในการประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติในเดือนธันวาคม ถือเป็นการสร้างโอกาส ด้วยวิกฤตดังกล่าวเป็นปัจจัยนำเข้าและภาวะแวดล้อมเกื้อหนุนให้เกิดการเห็นความสำคัญปัญหาจากภาคีสมาชิกจำนวนมาก และเป้าหมาย การก่อรูปความตระหนักของสังคมของทุกภาคส่วนในครั้งนี้ คือ มติสมัชชาสุขภาพที่มีส่วนร่วมในเชิงสัญญะ ไม่เพียงมติที่เป็นลายลักษณ์อักษร สาระของมติที่ตอบโจทย์ปัญหานี้เป็นเรื่องไม่เกินพลังคิดของเครือข่ายภาคีจำนวนมากที่เป็นสมาชิกสมัชชา แต่ความตื่นตัวต่อปัญหาที่จะลงมือสร้างพันธสัญญาร่วมถือเป็นความสำคัญยิ่ง”


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

บ่อนดังย่านดอนเมืองปิดเงียบ ขึ้นป้ายห้ามเข้าออก

บ่อนดังย่านดอนเมืองปิดเงียบ ขึ้นป้ายพื้นที่ส่วนบุคคลห้ามเข้าออก พบปิดกิจการตั้งแต่ 16 มี.ค.63 ขณะที่มีกล้องวงจรปิดติดตั้งโดยรอบ

ฮั้วเลือก สว.67

ประธานวุฒิสภา นำทีมแถลงด่วน โต้คดีฮั้วเลือก สว.67

ประธานวุฒิสภา นำทีมแถลงด่วน โต้คดีฮั้วเลือก สว.67 เชื่อเป็นเกมการเมือง หวังเกิดวิกฤต รธน. เพื่อรื้อใหม่ทั้งฉบับ ขู่ใช้ช่องทางกฎหมายกลับ หากทำเสียหาย-บั่นทอนความเชื่อมั่น เพื่อปกป้องศักดิ์ศรี จวก “ทวี” กล่าวหาอั้งยี่ ซ่องโจรทำวุฒิเสื่อมเสีย พร้อมเปิดเวทีซักฟอก

ไทยเข้าฤดูร้อน

กรมอุตุฯ ประกาศเข้าสู่ฤดูร้อนของไทย 28 ก.พ.68

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือน 23-25 กุมภาพันธ์นี้ ไทยตอนบนอากาศแปรปรวน ภาคใต้ฝนตกหนัก ส่วนอ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร พร้อมประกาศประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ 28 ก.พ.68 จนถึงกลางเดือน พ.ค.

“ไทย จีน เมียนมา” จับมือโชว์ภารกิจราบรื่น ส่งชาวจีนกลับประเทศ

“ไทย จีน เมียนมา” จับมือโชว์แสดงผลภารกิจราบรื่น ส่งชาวจีนเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับประเทศ 200 คน ปรับแผนจีนส่งเครื่องบินรับอีก 400 คน สองวันติด “ภูมิธรรม” เผยพร้อมเสนอนายกฯ เซ็นตั้ง ศปช.ส่วนหน้า ทำงานให้ชัดเจน มีกฎหมายรองรับผู้ปฏิบัติ ย้ำไทยไม่ตั้งศูนย์อพยพรองรับเหยื่อที่เหลือ แต่ประสานให้ต้นทางรับกลับทันที