ต้องออกมาพูดความจริงและปกป้องครอบครัว

“จี กามิน” เน็ตไอดอลสาวชาวเกาหลีใต้ ระบุว่า ไม่ได้อยากให้มาถึงเหตุการณ์ในวันนี้ แต่ต้องออกมาพูดความจริงและปกป้องครอบครัวและคนที่ตนเองรัก


“กามิน” เล่าว่าในเรื่องการมาทำงานที่ไทย “กามิน” ระบุว่า เข้ามาช่วงเดือนมกราคม 2567 มีความสุขและดีใจ มีคนเข้ามาต้อนรับอย่างอบอุ่นและมีความสุข สนุกสนาน และมีปัญหาด้านการติดต่อสื่อสารบ้าง แต่ทุกคนใจดีช่วยสนับสนุน

ในส่วนของรายได้ในการทำงาน กามิน ระบุว่า ไม่ได้มีปัญหา และมีการจัดสรรดีมากๆ โดยในช่วงแรกพักอาศัยอยู่ที่โรงแรม สตูดิโอ และอยู่ที่บ้านของท่านนั้น ที่ทำงานร่วมกัน ครอบครัวของท่านนั้นให้การต้อนรับอย่างดีและอบอุ่นแม้กระทั่งตอนนี้ยังรู้สึกขอบคุณอยู่ตลอด


ส่วนประเด็นค่าจ้าง “กามิน” ระบุว่า ตนแทบจะไม่ทราบในเรื่องค่าจ้าง เพราะบริษัทเป็นคนจัดการให้ ได้รับค่าตอบแทนทุกวันที่ 1 ของทุกเดือน พอใจและขอบคุณมากๆ ในส่วนของภาษี มีการหัก ณ. ที่จ่ายแล้ว และต้องมีการหักที่เกาหลี อีกทีหนึ่งด้วยในปีหน้า ขณะที่การจ้างไลฟ์ 1 ล้านบาท ก็ไม่ใช่เรื่องจริง และเพิ่งเคยจะได้ยินจริงๆ

ส่วนที่มีคนระบุว่า ตนเองพูดว่า “คนไทยหลอกง่าย” กามินยืนยันว่า ตนไม่เคยพูดและไม่เคยคิด เพราะได้รับความรักมากมายจริงๆ แล้วไม่รู้ว่าข่าวนี้มาจากไหน

“กามิน” ยังตอบความสัมพันธ์ของอดีตคนรักว่า ในช่วงที่คบกัน มีปัญหาเล็กๆ น้อย อาจจะเป็นเพราะเรื่องของภาษา แต่ตนเองคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร และไม่ใช่เพราะคนอื่นที่ทำให้เราเลิกกัน ซึ่งตนเองพยายามเต็มที่ และคนนั้นก็ช่วยดูแลอย่างดีเช่นกัน และพยายามคิดแต่เรื่องดี และไม่ได้มีความรู้สึกคิดลบ ในตอนนั้นได้รับข้อความบอกเลิก จึงไม่มีทางเลือกนอกจากกลับเกาหลี และยืนยันว่า เป็นความรักที่จริงใจ ไม่ได้มีอะไรติดค้าง และเลิกกันอย่างเคลียร์ใสสะอาด ในช่วงการแถลงข่าวช่วงสุดท้าย กามินได้ร่ำไห้ออกมา


ส่วนจะกลับมาทำงานที่ไทยอีกหรือไม่นั้น “กามิน” ระบุว่า ยังไม่ได้คิดว่าจะกลับมา แต่หลังจากที่มาในวันนี้ ยังพบว่ามีคนพร้อมสนับสนุนอยู่ แต่หากสภาพจิตใจดีขึ้น อาจจะลองคิดดูว่าจะกลับมาทำงานที่ไทยมั้ย

ด้านทนายความ ระบุว่า ตนเองในฐานะ ทนายความของ “จี กามิน” ทุกคนที่สร้างวาทกรรมต่างๆ จะได้รับสิทธิเท่าเทียมทางกฎหมายทุกคน และมีการดำเนินการตามกฎหมายแล้ว 5 คน ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ซึ่งจะดำเนินคดีในเรื่องการหมิ่นประมาทและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

voting ballot of Manchester, New Hampsher

เผยผลเอ็กซิตโพลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2024                                               

รอยเตอร์เผยเอ็กซิตโพลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐว่า 2 ผู้สมัครที่เป็นคู่แข่งขันกันได้คะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลุ่มใดในสัดส่วนเท่าใด

รองเจ้าอาวาสวัดดัง เปย์สีกาไม่อั้น ลาสิกขาแล้ว

“รองเจ้าอาวาสวัดดัง” ลาสิกขาแล้วกลางดึก หลังปมฉาวเปย์สีกาไม่อั้น บอกไม่อยากให้เกิดความเสื่อมเสียต่อวัดและคณะสงฆ์

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ-กลาง-ตอ.ลมแรง ไทยตอนบนอุณหภูมิลด 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาฯ กับมีลมแรงในภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ลมแรง และมีฝนฟ้าคะนอง 10%

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

หาทางออก แม่ทำกรงขังลูกติดยาหวังรักษา

กรณีแม่วัย 64 ปี ที่บุรีรัมย์ สร้างห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมรับลูกชายวัย 42 ปี กำลังจะกลับจากการบำบัด แต่ถูกตีความว่าเป็นการละเมิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือ พร้อมหาทางออกในการบำบัดรักษาที่ถูกต้อง

จับ 2 หนุ่มญี่ปุ่นอุ้มรีดเงิน ทำร้ายร่างกาย บังคับกินอุจจาระ

สืบนครบาล จับชายชาวญี่ปุ่น 2 คน อุ้มเพื่อนร่วมชาติ ทำร้ายร่างกาย บังคับกินอุจจาระ เรียกเงิน 3 แสนบาท พบหนีคดีจากญี่ปุ่นมาขายกัญชาในประเทศไทย