“ภูมิธรรม” แจงรอศาล รธน.วินิจฉัย ก่อนเปิดโฉมหน้ารัฐบาลใหม่

“ภูมิธรรม” รอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ก่อนแถลงเปิดโฉมหน้ารัฐบาลใหม่ โวมีเสียงหนุนเพียงพอ โต้ “ก้าวไกล” เรื่อง ม.112 แสดงจุดยืนชัดมาตลอดว่าไม่เอา ส่วนจะยกมือโหวตให้หรือไม่ ถือเป็นเอกสิทธิ์ ไม่อยากกดดัน หากไม่โหวตให้เราเลยก็ได้ เราพูดในเงื่อนไขที่สุภาพ พร้อมย้ำกำหนด “ทักษิณ” กลับบ้าน ยังไม่เปลี่ยนแปลง รอครอบครัวแจง


3 ส.ค.66 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้า​พรรค​เพื่อไทย กล่าวถึงการเลื่อนแถลงจัดตั้งรัฐบาล ว่า เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ให้วินิจฉัยเรื่องของการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สามารถดำเนินการซ้ำได้หรือไม่ โดยศาลขอรายละเอียดเพิ่มเติม และจะเลื่อนไปพิจารณาในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ จึงได้ประสานไปยังประธานรัฐสภา และได้คำตอบว่า ต้องรอฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อน จึงต้องเลื่อนวาระการโหวตนายกรัฐมนตรีออกไป แต่คาดว่าภายใน 1 สัปดาห์ หลังจากวันที่ 16 สิงหาคม น่าจะมีการโหวตนายกรัฐมนตรีได้ ดังนั้น เมื่อการโหวตเลื่อนออกไป ทุกอย่างก็ไม่ควรจะทำอะไรให้มาก ควรจะรอความชัดเจนจากศาลรัฐธรรมนูญก่อน

ส่วนที่หลายฝ่ายหวั่นใจว่า เสียงจะไม่พอ ขอยืนยันว่า เสียงที่เรามีเพียงพอต่อการจัดตั้งรัฐบาล แต่เมื่อเลื่อนการประชุมออกไป ก็มีเวลาทำงานมากขึ้น เพราะการแสวงหาความร่วมมือจากทุกฝ่าย ยิ่งได้มากก็ยิ่งดี รอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และประธานสภาฯ กำหนดวาระการประชุม เราก็พร้อมที่จะแถลงข่าวร่วมการจัดตั้งรัฐบาล


เมื่อถามว่า เสียงที่รวบรวมไว้พอจะเปิดเผยได้หรือไม่ว่ามีพรรคใดบ้าง นายภูมิธรรม กล่าวว่า รออีกสักหน่อยก็คงดี แต่ก็ยอมรับว่า มีเสียงจาก 8 พรรคร่วมเดิมจำนวนหนึ่งพอสมควร และมีเสียงจากขั้วพรรคร่วมรัฐบาลเดิมฝั่ง 188 เสียง อีกจำนวนหนึ่ง และต้องมีเสียง สว.อีก เนื่องจากเราอยู่ภายใต้วิกฤตการณ์ของรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ที่กำหนดเงื่อนไขว่าต้องได้เสียงเกิน 375 เสียง เสียงจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เราอยากให้ได้มั่นคงและมากขึ้นที่สุด เพราะการมีเสียง สส. จะทำให้เกิดรัฐบาลที่มั่นคงและมีประสิทธิภาพ รวมถึงกำหนดทิศทางการทำงาน สามารถบริหารทิศทางการทำงานทั้งหมดได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และยังต้องบวกเสียง สว. อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเราอยากได้มากขึ้น เพื่อที่จะได้เห็นว่า เราเป็นรัฐบาลที่สามารถเข้ามากู้วิกฤติได้ ภายใต้ความร่วมมือของทุกฝ่าย ซึ่งก็จะทำให้ความขัดแย้งคลี่คลายลงไป

เมื่อถามว่า ตอนนี้มีรายงานข่าวว่าไม่มีทั้ง 2 ลุง เข้าร่วมรัฐบาล นายภูมิธรรม กล่าวว่า รอการตัดสินใจที่ชัดเจนว่าอะไรเป็นอะไร วันนี้เราพยายามแสวงหาความร่วมมือ แต่เราก็รู้ว่ามีข้อจำกัด และยังมีข้อที่เป็นปัญหาของประชาชนอยู่ เราต้องคำนึงถึงสิ่งต่างๆ เหล่านี้ด้วย

เมื่อถามว่า หากไม่นับรวมเสียง สว. จะต้องหา สส. เพิ่มหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า รอการแถลงรายละเอียด แต่การแสวงหาความร่วมมือ แสดงให้เห็นถึงฉันทามติในการจัดตั้งรัฐบาล


นายภูมิธรรม ยังชี้แจงถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลระบุว่า ตนไม่ง้อเสียงโหวตจากพรรคก้าวไกล ยืนยันไม่เป็นความจริง ตนได้ชี้แจงไปแล้วว่า การแยกตัวครั้งนี้ เมื่อเรายุติ MOU ถือว่าทุกฝ่ายเป็นอิสระต่อกัน ส่วนพรรคก้าวไกลจะโหวตหรือไม่โหวต ถือเป็นเอกสิทธิ์ สิ่งสำคัญคือ เราอยากสร้างมิติทางการเมืองใหม่ เรากับพรรคก้าวไกลสามารถที่จะทำงานการเมืองที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้ เพราะฉะนั้น อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ เรายินดีที่จะสนับสนุน ไม่จำเป็นที่จะต้องยืนฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล แล้วคัดค้านกันไปตลอด อีกทั้งตนยังยกตัวอย่างเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า เป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องการแก้ เพื่อปลดล็อกปัญหาประเทศ ตนพร้อมสนับสนุน และคุณก็ต้องสนับสนุนด้วยเช่นกัน เพราะคิดว่าเป็นปัจจัยร่วมที่เป็นวาระแห่งชาติ ต้องร่วมกันทำ ส่วนกฎหมายที่ตกลงกันใน MOU ที่ตรงกับนโยบายพรรคเพื่อไทย หรือกฎหมายอื่น ที่ไม่ได้พูดไปใน MOU เราก็ยินดีสนับสนุน แต่ปัญหาที่เราไม่เอาแน่นอน คือ มาตรา 112 เพราะเราปฏิเสธมาตั้งแต่ MOU ครั้งแรกว่า เราไม่เซ็น แต่พอ MOU ครั้งที่ 2 ก็บรรจุใส่มาอีก เราก็บอกแล้วว่า เราไม่สะดวกใจที่จะเซ็น เพราะเราไม่เห็นด้วย และได้ยืนยันไปว่า ถ้ามีเรื่องมาตรา 112 เราไม่โหวตให้ แต่ถ้าเป็นเรื่องอื่นที่ดี เราจะโหวตให้ เพราะฉะนั้น เราจึงบอกว่า การตัดสินใจครั้งนี้ ถ้าจะโหวตให้เรา เราก็ขอบคุณดีใจ แต่ถ้าไม่โหวต เราก็ไม่ถือโทษโกรธใคร ถือเป็นเอกสิทธิ์ ที่พูดทั้งหมดเป็นแบบนี้ เรื่องในที่ประชุมก็มีนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ทั้งหมดยืนยันในสิ่งที่ตนพูดได้ อันนี้เป็นข้อเท็จจริง

ส่วนที่นายชัยธวัช ออกมาระบุว่า พรรคเพื่อไทยไม่เคยบอกให้พรรคก้าวไกล ถอยมาตรา 112 และมีการฉีก MOU ยืนยันไม่เป็นความจริง มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ก่อนจะย้ำว่าใน MOU ครั้งแรก เราชัดเจน ถ้ามีมาตรา 112 เราไม่เซ็น และจะขอสงวนสิทธิ์​ ไม่ร่วมใน MOU ข้อนั้น จึงได้มีการถอนออกไป ส่วน MOU พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ก็ใส่มาอีก ซึ่งเราก็ปฏิเสธ เราได้แสดงท่าทีของเรากับพรรคก้าวไกลอย่างชัดเจนมาโดยตลอดว่า มาตรา 112 เราไม่เห็นด้วยที่จะไปร่วมเซ็น ส่วนจะไปแก้อะไร ก็ไปทำกัน ถือเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละพรรค อันนี้เราพูดจากันชัดเจน อีกทางพรรคเพื่อไทยที่ได้รับไม้ต่อจากพรรคก้าวไกล ก็ได้พูดคุยกับหลายพรรคการเมือง ซึ่งทุกคนก็ย้ำว่า หากมีมาตรา 112 ไม่เซ็น ซึ่งก็ได้แจ้งทางพรรคก้าวไกลแล้วว่า แต่ละพรรคมีความเห็นอย่างไร แต่ถ้าก้าวไกลยังตอบกลับมายืนยันว่า การแก้ไข ม.112 ไม่ใช่ประเด็น เพราะหากไม่มี ม.112 ก็มีประเด็นอื่นอีก

เมื่อถามถึงกรณีพรรคก้าวไกล บอกว่า พรรคเพื่อไทยมีความกังวล หากพรรคก้าวไกลโหวตให้ สว.บางคนอาจไม่สบายใจ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราบอกแล้วว่าถ้าโหวตให้เราก็ขอบคุณ​และยินดี แต่ถ้าไม่โหวตให้ก็ไม่เป็นไร ถือเป็นเอกสิทธิ์ เพราะตอนนี้เราดำเนินการหาเสียง อย่าถือว่าเราไปกดดัน หากไม่โหวตให้เราเลยก็ได้ เป็นสิ่งที่เราต้องไปแสวงหาความร่วมมือ เป็นการพูดในเงื่อนไขที่สุภาพ และไม่กดดันกัน ถือเป็นสิทธิที่จะเพิ่มหรือลดคะแนนให้กับเรา ก็พูดกันอย่างตรงไปตรงมา ชัดเจนที่สุด ไม่มีอะไรเคลือบแฝง

เมื่อถามว่า หากพรรคก้าวไกลไม่โหวตสนับสนุนให้ เราก็จะหาคะแนนเสียงจากพรรคร่วมฯ และ สว. เป็นหลักใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทุกพรรคที่เข้ามาในสภาฯ ตอนนี้ เป็นตัวแทนจากประชาชนที่มีความคิดหลากหลาย เพราะฉะนั้น ถ้าเราเดินหน้าไปได้ ประเทศต้องมีความปรองดอง เพราะฉะนั้น การฟังความคิดของทุกพรรคการเมือง ของทุกกลุ่ม ก็เป็นเรื่องที่ดี และถ้าเป็นรัฐบาลที่ขึ้นมาจากการยอมรับความคิดที่หลากหลาย ก็จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่ไม่ได้บอกว่าจะเอาทุกพรรค ก็อยู่ที่ว่าพรรคไหนจะร่วมกันอย่างไร หรือสังคมได้ความเข้าใจและเห็นว่าการร่วมมือกันไปสู่ทิศทางใดก็จะเป็นคำตอบ

เมื่อถามถึงกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาแฉการเลี่ยงภาษีซื้อขายที่ดินของนายเศรษฐา ทวีสิน จะมีผลต่อการพิจารณาแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นเรื่องของนายเศรษฐา ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเดิม ซึ่งก็ทราบว่าได้มีการแถลงออกมาแล้ว จึงเป็นเรื่องที่นายเศรษฐาและบริษัทต้องไปชี้แจงทำความเข้าใจ แต่สำหรับพรรคเพื่อไทย เมื่อเห็นรายละเอียดต่างๆ แล้ว เราไม่คิดว่ามีปัญหาอะไร ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการและกฎหมาย

เมื่อถามถึงกำหนดการเดินทางกลับบ้านของนายทักษิณ ชินวัตร ว่ายังคงเป็นวันที่ 10 สิงหาคม อยู่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ก็เป็นเรื่องของครอบครัว ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับการเมือง ส่วนนายทักษิณ และครอบครัว จะตัดสินใจอย่างไร ก็เป็นเรื่องของท่าน แต่ขณะนี้เท่าที่ทราบ เท่าที่ทุกคนรู้ ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง.

ภาพ : ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ยังไม่ได้ฟังบทสัมภาษณ์ “ทักษิณ” จ่อทวงเก้าอี้ “มท.”

รัฐสภา 30 พ.ค.- นายกฯ บอกวันนี้งานยุ่งมาก ยังไม่ได้ฟังบทสัมภาษณ์ “ทักษิณ” จ่อทวง ก.มหาดไทย คืนให้ “เพื่อไทย” เมื่อเวลา 15.55 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าอาคารรัฐสภาเพื่อร่วมการประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569 โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ว่า กระทรวงมหาดไทยยังทำงานไม่เต็มที่ คงจำเป็นต้องให้พรรคเพื่อไทยเข้าไปทำบ้าง นายกรัฐมนตรี ระบุว่า “ยังไม่ได้ฟังเลย” ก่อนถามกลับสื่อว่า “จริงหรอ ใครเป็นคนให้สัมภาษณ์นะคะ” เมื่อถามต่อว่า จะไม่ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลระส่ำใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ตนไม่ทราบเลยจริงๆ งานเยอะมากเลยวันนี้ ขอไปฟังก่อน ยังไม่ได้ฟังเลย ก่อนเดินขึ้นห้องประชุมทันที .-316 -สำนักข่าวไทย

จเรตำรวจฯ เผยผลสอบ ฮ.ตก ประจวบฯ นอตยึดใบพัดหลุดทำเครื่องเสียการทรงตัว

30 พ.ค. – จเรตำรวจแห่งชาติ เผยผลสอบเหตุเฮลิคอปเตอร์ เบลล์ 212 ตกที่ประจวบฯ เบื้องต้นพบนอต 2 ตัวยึดใบพัดหางหลุด เสียการทรงตัวจนตัดส่วนหางขาด เตรียมรายงาน ผบ.ตร. ยันไม่มีมวยล้มต้มคนดู พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ประชุมติดตามความคืบหน้าคลี่คลายกรณีเหตุเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบล 212 ประสบเหตุตกในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่งผลให้มีนักบินและช่างเครื่องเสียชีวิตรวม 3 นาย โดยมี พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองจเรตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ต.อำนาจ เดชบุณเหลือง ผบก.กองบินตำรวจ, นักบินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุดังกล่าว หลังจากที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ตนเองเร่งคลี่คลายคดีโดยเร็ว โดยภายหลังจากที่ได้มีการประชุมแล้ว จเรตำรวจแห่งชาติ และผู้เข้าร่วมประชุมได้เข้าตรวจสอบซากเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบล 212 ที่ตกและได้มีการลำเลียงมาไว้ที่กองเป็นตำรวจเพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ พล.ต.อ.ธัชชัย เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ เฮลิคอปเตอร์ตก และร่วมประชุมกับผู้บังคับการกองบิน, นักบินและช่างเครื่องทั้งหมด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง […]

มติวุฒิสภาเดินหน้าโหวตองค์กรอิสระ-สว.เสียงข้างน้อย วอล์กเอาต์วุ่น

รัฐสภา 30 พ.ค.- ตามคาด! “วุฒิสภา” เดินหน้าโหวตตั้งองค์กรอิสระ-ตุลาการศาล รธน. แม้ยอมให้ถกญัตติชะลอนานกว่า 3 ชั่วโมง ด้าน สว.เสียงข้างน้อย วอล์กเอาต์ไม่ขอร่วมสังฆกรรม พร้อมให้เหตุผลขัดกันแห่งผลประโยชน์ สว.กว่า 100 คนถูกกล่าวหาฮั้ว ขู่หากเดินหน้าเสี่ยงถูกร้องจริยธรรม ขณะที่ “ฉัตรวรรษ” โต้ ยังเป็น สว. ต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อ ซัด “ดีเอสไอ” ดำเนินการโดยมิชอบ การประชุมวุฒิสภาวันนี้มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม โดยได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าในการระเบียบวาระเรื่องการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561) ซึ่งเป็นการประชุมลับ ขอให้สว.ใช้บัตรลงคะแนนของตัวเอง ไม่สามารถออกเสียงด้วยวาจาแทนได้ แต่ขอหารือหยิบยกเรื่องด่วนที่ 5.ขึ้นมาพิจารณาก่อน เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องและมีผลต่อการพิจารณาเรื่องให้ความเห็นชอบ คือเรื่องด่วนชอให้ ชะลอการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้งและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งให้ความเห็นชอบกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จนกว่ามีคำตัดสินในคดีที่สมาชิกวุฒิสภาจำนวนมากตกเป็นผู้ถูกร้องและผู้ร้องขณะนี้ ที่เสนอโดยนายเทวฤทธิ์ มณีฉาย นายเทวฤทธิ์ กล่าวว่าต้องขอบคุณสมาชิกและวิปวุฒิที่ใจกว้างให้เลื่อนญัตตินี้ขึ้นมา และระบุว่าตนเข้าใจและเห็นใจเพื่อนสว.ทุกคนที่โดนเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหา โดยเห็นกระบวนการไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้น […]

กกต.ออกหมายเรียกอีก 22 สว. แจงคดีฮั้ว

กทม. 30 พ.ค.- หมายเรียก สว.ฮั้ว ลอต 5 ออกแล้ว คณะกรรมการสืบสวนฯ กกต. เรียกอีก 22 สว.แจง รวมเรียกทั้งหมด 127 คน มีรายงานแจ้งว่า คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26 ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้เรียกสมาชิกวุฒิสภา เข้ารับทราบและชี้แจงข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 22 คน กรณีถูกกล่าวหาว่าอาจพัวพันกับกระบวนการฮั้วเลือก สว. ประกอบด้วย 1.นางจุฑารัตน์ นิลเปรม 2.นางเจียระไน ตั้งกีรติ 3.นางมยุรี โพธิแสน 4.น.ส.จารุณี ฤกษ์ปราณี 5.น.ส.สุกัญญา ประจวบเหมาะ 6. นายกิตติพันธ์ อนันตกูลจิรโชติ 7.นายธนภัทร ตวงวิไล 8.น.ส.ภาวนา ว่องอมรนิธิ 9.นายกัมพล สุภาแพ่ง 10.นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ 11.นายอัครวินท์ ขำขุด 12.นางธารณี ปรีดาสันติ์ 13.นางรจนา เพิ่มพูน […]