BIG STORY : ไทม์ไลน์สาวใหญ่เมาแล้วขับ ซิ่งเบนซ์ชนแหลก

กทม. 12 ส.ค. – ย้อนเหตุการณ์สาวใหญ่ขับเบนซ์ป้ายแดงเมา เฉี่ยวชนรถแล้วหนี ขอโทษก่อเหตุเพราะเครียดธุรกิจถูกอายัดทรัพย์ ล่าสุดถูกดำเนินคดี 4 ข้อหา


เหตุการณ์ที่ น.ส.วิชาดา วิทยสินธนา อายุ 37 ปี เมาขับเบนซ์ป้ายแดง รุ่น E220d สีดำ ทะเบียน ฐ 0710 กรุงเทพมหานคร เฉี่ยวชนรถหลายคันแล้วหลบหนี จนทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย มีรถยนต์ 2 คัน และจักรยานยนต์อีก 4 คัน เสียหาย

รถเบนซ์คันดังกล่าวเริ่มชนแล้วหนีตั้งแต่เวลา 23.00 น. ขับชนรถของประชาชนบริเวณแยกแคราย จ.นนทบุรี มุ่งหน้าเข้าถนนวิภาวดี-รังสิต ก่อนเลี้ยวเข้าถนนพหลโยธิน จากนั้นมุ่งมายังถนนกำแพงเพชร และสิ้นสุดลงที่ถนนพระราม 6 รวมเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ระหว่างทางมีประชาชน อาสาสมัครกู้ภัยและตำรวจพยายามช่วยกันติดตามปิดล้อมและสกัดจับแต่ไม่เป็นผล กระทั่งรถเบนซ์คันดังกล่าวไปชนเข้ากับรถที่จอดอยู่ด้านหน้าบริษัทคงอุดม สภาพด้านหน้ารถเฉี่ยวชนจนพังยับเยิน กระจกด้านหลังถูกทุบจนแตกเสียหาย ระหว่างนั้น นายชัชวาลย์ คงอุดม หรือ “ชัช เตาปูน” ได้ออกมาช่วยเหลือและเจรจาเกลี้ยกล่อมให้คนขับรถเบนซ์ลงมาจากรถและอยู่ในความสงบ


นายชัชวาลย์ บอกว่า เมื่อคืนระหว่างคุยธุระอยู่ในที่พักย่านเตาปูน ช่วง 4 ทุ่ม ได้ยินเสียงดังคล้ายคนทะเลาะกันที่หน้าบ้าน จึงออกไปดู พบรถเบนซ์สภาพพังยับเยินจอดอยู่ และมีกลุ่มคนที่ขับตามมาใช้หมวกกันน็อกพยายามทุบรถ เพื่อให้คนขับลงมาจากรถ ในฐานะที่ตนเป็นเจ้าของบ้าน จึงเข้าไปช่วยเจรจา เมื่อเปิดประตูรถได้ พบ น.ส.วิชาดา สวมชุดเดรสลายดอกสีฟ้า มีแผลแตกเลือดไหลบริเวณคิ้วขวา จึงพยายามเข้าช่วยเกลี้ยกล่อม ระหว่างพูดคุย น.ส.วิชาดา อยู่ในอาการเมาสุรา จึงพยายามพูดคุย “บอกให้หยุดหลบหนี” กระทั่งทราบว่าที่ น.ส.วิชาดา หลบหนีมาบริเวณนี้เนื่องจากพ่อของ น.ส.วิชุดา พักอาศัยอยู่ที่เตาปูนแมนชั่น ตนจึงติดต่อพ่อของ น.ส.วิชาดา จนทราบว่า น.ส.วิชุดา มีอาการเครียดเพราะถูกโกงเงินจากการทำธุรกิจเสียหายนับล้านบาท และเรียนจบบัญชีจากมหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐ ส่วนรายละเอียดไม่ทราบว่ารถคันดังกล่าวเริ่มต้นขับรถมาจากที่ใด และมาจอดตรงจุดนี้ได้อย่างไร พร้อมยืนยันไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวกับครอบครัวผู้ก่อเหตุ เพียงแค่ออกมาเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณหน้าบ้านของตนเท่านั้น

นายจรัสพงษ์ อนุชาติบุตร อาสาสมัครกู้ภัยวชิรพยาบาล หนึ่งในผู้ที่ไล่ตาม บอกว่า รับแจ้งเหตุดังกล่าวช่วง 23.30 น. จึงนำกำลังเข้าไปช่วยสกัด แต่กลับถูกผู้ก่อเหตุขับชนรถจักรยานยนต์ของตัวเองได้รับความเสียหาย ที่บริเวณแยกสะพานแดง ถนนพระราม 5

นายธีรศักดิ์ ศิลปกิจ อายุ 23 ปี พลเมืองดี หนึ่งในผู้เสียหาย บอกว่า รถเบนซ์คันดังกล่าวตั้งใจขับรถไล่ชนโดยไม่ยอมลงมาดูผู้บาดเจ็บและเจรจากับผู้เสียหาย มองว่าหากลงมาดูผู้บาดเจ็บและลงมาพูดคุย เหตุการณ์ก็อาจจะไม่เลวร้ายขนาดนี้ ขณะนั้นจึงตัดสินใจยื่นมือเข้าไปหักพวงมาลัยรถหรูคันดังกล่าวให้พุ่งชนรถอีกคัน เพื่อไม่ให้ขับต่อไปได้ โดยนายธีรศักดิ์ถูกกระจกบาดได้รับบาดเจ็บที่ข้อมือ


สาวซิ่งเบนซ์ ขอโทษ อ้างเครียดธุรกิจถูกอายัดทรัพย์
ล่าสุดตำรวจคุมตัว น.ส.วิชาดา ไปตรวจร่างกายซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ที่โรงพยาบาลตำรวจ หลังเมื่อคืนตรวจพบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดสูงถึง 257 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ น.ส.วิชาดา และสามี เปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจและไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดความเครียดสะสม มาจากเรื่องที่ถูกคู่ค้าดำเนินคดีจนถูกอายัดทรัพย์สิน ไม่สามารถนำเงินไปบริหารธุรกิจ ทั้งที่ผู้ก่อเหตุคือหุ้นส่วนบริษัท ซึ่งได้แจ้งความดำเนินคดีไปแล้วฐานยักยอกทรัพย์และลักทรัพย์ แต่คู่ค้าก็ไม่ยอมแก้ต่างให้ อีกทั้งปัจจุบันหุ้นส่วนรายนี้ก็ยังไม่ถูกดำเนินคดีแต่อย่างใด

ดำเนินคดี 4 ข้อหา สาวใหญ่ขับเบนซ์ชนแหลก
ด้าน พล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ระบุว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาเบื้องต้นพบว่า มีอาการเครียดและตกใจ กลัวจะถูกคู่กรณีทำร้ายร่างกายจึงขับรถหลบหนี และเพื่อให้ปราศจากข้อสงสัยเรื่องการเสพยาเสพติด จึงให้ตำรวจส่งตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อดูสารแปลกปลอมในร่างกาย รวมถึงอาการบาดเจ็บอื่นๆ เพื่อนำไปประกอบในสำนวนคดี ส่วนเรื่องที่ถูกคนพยายามสกัดหยุดรถและทำให้รถเสียหาย ต้องสอบถามผู้ต้องหาอีกครั้งว่าจะดำเนินคดีหรือไม่ แต่ขณะนี้จะเน้นไปที่การดำเนินคดีกับผู้ต้องหาก่อน ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในท้องที่อื่น ต้องรอให้ตำรวจในพื้นที่ทำเรื่องมาขออายัดตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ตำรวจยังได้เรียกผู้ได้รับความเสียหายอีก 3-4 คน เข้าให้การเพื่อประกอบการดำเนินคดีเพิ่มเติมภายในวันนี้ เบื้องต้นมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว 3 คน ประกอบด้วย ผู้ขับขี่รถยนต์ยี่ห้อมาสด้า 2 สีขาว ซึ่งได้รับบาดเจ็บ ตัวรถเสียหาย เหตุเกิดบริเวณถนนกำแพงเพชร 1 ขาออก มุ่งหน้าแยกรัชโยธิน ตรงห้าแยกลาดพร้าว ผู้เสียหายอีกรายขับขี่รถจักรยานยนต์ ได้รับบาดเจ็บ ตัวรถพังเสียหาย เหตุเกิดบริเวณทางลงสะพานข้ามแยกกำแพงเพชร จากถนนพหลโยธินขาเข้า มุ่งหน้ากำแพงเพชร และผู้เสียหายอีกรายขี่รถจักรยานยนต์ เหตุเกิดบริเวณหน้าธนาคารทหารไทย ถนนพหลโยธิน

น.ส.พิชญา ลากูล เจ้าของรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า 2 สีขาว ทะเบียน กท 9069 ร้อยเอ็ด หนึ่งในผู้เสียหายที่เข้าให้ปากคำกับตำรวจ พร้อมตรวจสอบสภาพรถยนต์ที่ได้รับความเสียหาย เล่าว่า กำลังขับรถมุ่งหน้าแยกรัชโยธิน ตรงห้าแยกลาดพร้าว แขวงจตุจักร เขตจตุจักร เพื่อกลับหอพัก จู่ๆ รถคันนี้ก็พุ่งมาชนท้ายอย่างแรง จนท้ายรถบุบ กระจกหลังแตกละเอียดทั้งหมด ได้รับบาดเจ็บฟกช้ำช่วงขาและเข่า ยอมรับว่าโกรธกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตนเพิ่งเรียนจบและได้งานต่างจังหวัด ต้องใช้รถคันนี้ขนของไปทำงานในวันศุกร์นี้ แต่รถกลับมาถูกชน ประกันแจ้งว่าต้องใช้เวลาซ่อมอย่างน้อย 20 วัน แม้ผู้ก่อหตุจะขอโทษและอ้างว่าเครียดก็ตาม แต่ทุกคนก็มีปัญหาเป็นของตัวเอง ไม่ควรทำแบบนี้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง-ตกหนักบางแห่ง

กทม. 3 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือนมรสุมพัดปกคลุมประเทศไทย ส่งผลให้ยังมีฝนฟ้าคะนองและตกหนักบางแห่ง ทะเลอันดามันคลื่นสูง 2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน

2 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน ลั่นมีเอกภาพ แจงรัฐบาลเชื่อมั่นท่าที 2 ประเทศลดความรุนแรงได้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความชี้แจงทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าเรียน สื่อมวลชน ทุกท่าน ตามที่มีข่าวกระจายกันในแวดวงสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องความขัดแย้งระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายทหาร ในการจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดต่อปัญหาการจัดการระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการปิดด่านชายแดน ผมขอยืนยันว่า ผมกับกองทัพได้หารือร่วมกันหลายครั้ง และเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลทั้งสองประเทศต่างพยายามหาทางออกในการคลี่คลายวิกฤติ โดยยึดผลประโยชน์ประชาชนและอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ เราจึงกำหนดขอบเขตในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และพยายามลดเงื่อนไขที่จะระงับยับยั้งมิให้เหตุการณ์ความขัดแย้งขยายตัวมากไปกว่านี้ สำหรับเรื่องการปิดชายแดนขณะนี้ รัฐบาลเห็นว่าท่าทีและการแสดงออกของทั้งสองประเทศ ยังเป็นการแสดงออกที่สามารถลดระดับความรุนแรงได้ เพราะการปิดด่านชายแดนแม้ไม่ใช่เรื่องการสู้รบทางตรง แต่กลับจะเกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ที่จะกระทบกับวิถีชีวิตประชาชน ทำให้สถานการณ์ยากต่อการคลี่คลาย แต่ขณะเดียวกัน กองทัพก็ตั้งอยู่ในความระมัดระวังและไม่ได้ละเลยในการปกป้องตนเองและอธิปไตยเหนือดินแดน ขณะนี้รัฐบาล ร่วมกับกำลังเหล่าทัพและกระทรวงต่างประเทศ กำลังใช้กลไก JBC เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดเวทีถกเถียงตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย ผมจึงขอเรียนชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลและกองทัพมีความเป็นเอกภาพ และมีพันธะสัญญาที่มั่นคงในการรักษาความสงบสุขให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และความปลอดภัยมากที่สุด ขอให้มั่นใจว่าเราจะหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้งที่จะนำไปสู่ความสูญเสียทั้งสองฝ่ายในทุกด้าน ที่ผ่านมา เราร่วมกันใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ทั้งการประชุม หารือ […]

แผ่นดินไหวเชียงใหม่ ขนาด 4.5 รอยเลื่อนแม่ทาขยับ

เชียงใหม่ 2 มิ.ย.- ระทึก! แผ่นดินไหว ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ลึก 1 กม. ประชาชนแจ้งรู้สึกสั่นไหว 4 จังหวัด สาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง แผ่นดินไหวที่ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ฉบับที่ 1/2568 กอง​เฝ้า​ระวัง​แผ่นดินไหว​ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​รายงาน​ว่า​ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2568 เวลา 14.07 น. เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ความลึก 1 กิโลเมตร ได้รับแจ้งรู้สึกสั่นไหวบริเวณ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา ลำปาง และแม่ฮ่องสอน โดยสาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการอำเภอพร้าว และอำเภอใกล้เคียง ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตและความเสียหาย […]

ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง

2 มิ.ย.- ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง ย่านท่าเรือคลองเตย ส่วนคนขับรถชน รปภ. เสียชีวิต โดนฆ่าคนตาย เพิ่มอีก 1 ข้อหา 13.00 น. ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา การดำเนินคดี 6 ทรชนผู้ก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้าของกลางของกรมศุลกากรและก่อเหตุถอยรถตู้พุ่งชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข้อมูลว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับทั้ง 6 คนถูกดำเนินคดีในข้อหา 4 ข้อหา ในแก่ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และซ่องโจร ขณะที่นายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์ ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนหรือหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ ทั้งนี้ หลังศาลอนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว […]