BIG STORY : ไทม์ไลน์สาวใหญ่เมาแล้วขับ ซิ่งเบนซ์ชนแหลก

กทม. 12 ส.ค. – ย้อนเหตุการณ์สาวใหญ่ขับเบนซ์ป้ายแดงเมา เฉี่ยวชนรถแล้วหนี ขอโทษก่อเหตุเพราะเครียดธุรกิจถูกอายัดทรัพย์ ล่าสุดถูกดำเนินคดี 4 ข้อหา


เหตุการณ์ที่ น.ส.วิชาดา วิทยสินธนา อายุ 37 ปี เมาขับเบนซ์ป้ายแดง รุ่น E220d สีดำ ทะเบียน ฐ 0710 กรุงเทพมหานคร เฉี่ยวชนรถหลายคันแล้วหลบหนี จนทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย มีรถยนต์ 2 คัน และจักรยานยนต์อีก 4 คัน เสียหาย

รถเบนซ์คันดังกล่าวเริ่มชนแล้วหนีตั้งแต่เวลา 23.00 น. ขับชนรถของประชาชนบริเวณแยกแคราย จ.นนทบุรี มุ่งหน้าเข้าถนนวิภาวดี-รังสิต ก่อนเลี้ยวเข้าถนนพหลโยธิน จากนั้นมุ่งมายังถนนกำแพงเพชร และสิ้นสุดลงที่ถนนพระราม 6 รวมเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ระหว่างทางมีประชาชน อาสาสมัครกู้ภัยและตำรวจพยายามช่วยกันติดตามปิดล้อมและสกัดจับแต่ไม่เป็นผล กระทั่งรถเบนซ์คันดังกล่าวไปชนเข้ากับรถที่จอดอยู่ด้านหน้าบริษัทคงอุดม สภาพด้านหน้ารถเฉี่ยวชนจนพังยับเยิน กระจกด้านหลังถูกทุบจนแตกเสียหาย ระหว่างนั้น นายชัชวาลย์ คงอุดม หรือ “ชัช เตาปูน” ได้ออกมาช่วยเหลือและเจรจาเกลี้ยกล่อมให้คนขับรถเบนซ์ลงมาจากรถและอยู่ในความสงบ


นายชัชวาลย์ บอกว่า เมื่อคืนระหว่างคุยธุระอยู่ในที่พักย่านเตาปูน ช่วง 4 ทุ่ม ได้ยินเสียงดังคล้ายคนทะเลาะกันที่หน้าบ้าน จึงออกไปดู พบรถเบนซ์สภาพพังยับเยินจอดอยู่ และมีกลุ่มคนที่ขับตามมาใช้หมวกกันน็อกพยายามทุบรถ เพื่อให้คนขับลงมาจากรถ ในฐานะที่ตนเป็นเจ้าของบ้าน จึงเข้าไปช่วยเจรจา เมื่อเปิดประตูรถได้ พบ น.ส.วิชาดา สวมชุดเดรสลายดอกสีฟ้า มีแผลแตกเลือดไหลบริเวณคิ้วขวา จึงพยายามเข้าช่วยเกลี้ยกล่อม ระหว่างพูดคุย น.ส.วิชาดา อยู่ในอาการเมาสุรา จึงพยายามพูดคุย “บอกให้หยุดหลบหนี” กระทั่งทราบว่าที่ น.ส.วิชาดา หลบหนีมาบริเวณนี้เนื่องจากพ่อของ น.ส.วิชุดา พักอาศัยอยู่ที่เตาปูนแมนชั่น ตนจึงติดต่อพ่อของ น.ส.วิชาดา จนทราบว่า น.ส.วิชุดา มีอาการเครียดเพราะถูกโกงเงินจากการทำธุรกิจเสียหายนับล้านบาท และเรียนจบบัญชีจากมหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐ ส่วนรายละเอียดไม่ทราบว่ารถคันดังกล่าวเริ่มต้นขับรถมาจากที่ใด และมาจอดตรงจุดนี้ได้อย่างไร พร้อมยืนยันไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวกับครอบครัวผู้ก่อเหตุ เพียงแค่ออกมาเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณหน้าบ้านของตนเท่านั้น

นายจรัสพงษ์ อนุชาติบุตร อาสาสมัครกู้ภัยวชิรพยาบาล หนึ่งในผู้ที่ไล่ตาม บอกว่า รับแจ้งเหตุดังกล่าวช่วง 23.30 น. จึงนำกำลังเข้าไปช่วยสกัด แต่กลับถูกผู้ก่อเหตุขับชนรถจักรยานยนต์ของตัวเองได้รับความเสียหาย ที่บริเวณแยกสะพานแดง ถนนพระราม 5

นายธีรศักดิ์ ศิลปกิจ อายุ 23 ปี พลเมืองดี หนึ่งในผู้เสียหาย บอกว่า รถเบนซ์คันดังกล่าวตั้งใจขับรถไล่ชนโดยไม่ยอมลงมาดูผู้บาดเจ็บและเจรจากับผู้เสียหาย มองว่าหากลงมาดูผู้บาดเจ็บและลงมาพูดคุย เหตุการณ์ก็อาจจะไม่เลวร้ายขนาดนี้ ขณะนั้นจึงตัดสินใจยื่นมือเข้าไปหักพวงมาลัยรถหรูคันดังกล่าวให้พุ่งชนรถอีกคัน เพื่อไม่ให้ขับต่อไปได้ โดยนายธีรศักดิ์ถูกกระจกบาดได้รับบาดเจ็บที่ข้อมือ


สาวซิ่งเบนซ์ ขอโทษ อ้างเครียดธุรกิจถูกอายัดทรัพย์
ล่าสุดตำรวจคุมตัว น.ส.วิชาดา ไปตรวจร่างกายซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ที่โรงพยาบาลตำรวจ หลังเมื่อคืนตรวจพบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดสูงถึง 257 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ น.ส.วิชาดา และสามี เปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจและไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดความเครียดสะสม มาจากเรื่องที่ถูกคู่ค้าดำเนินคดีจนถูกอายัดทรัพย์สิน ไม่สามารถนำเงินไปบริหารธุรกิจ ทั้งที่ผู้ก่อเหตุคือหุ้นส่วนบริษัท ซึ่งได้แจ้งความดำเนินคดีไปแล้วฐานยักยอกทรัพย์และลักทรัพย์ แต่คู่ค้าก็ไม่ยอมแก้ต่างให้ อีกทั้งปัจจุบันหุ้นส่วนรายนี้ก็ยังไม่ถูกดำเนินคดีแต่อย่างใด

ดำเนินคดี 4 ข้อหา สาวใหญ่ขับเบนซ์ชนแหลก
ด้าน พล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ระบุว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาเบื้องต้นพบว่า มีอาการเครียดและตกใจ กลัวจะถูกคู่กรณีทำร้ายร่างกายจึงขับรถหลบหนี และเพื่อให้ปราศจากข้อสงสัยเรื่องการเสพยาเสพติด จึงให้ตำรวจส่งตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อดูสารแปลกปลอมในร่างกาย รวมถึงอาการบาดเจ็บอื่นๆ เพื่อนำไปประกอบในสำนวนคดี ส่วนเรื่องที่ถูกคนพยายามสกัดหยุดรถและทำให้รถเสียหาย ต้องสอบถามผู้ต้องหาอีกครั้งว่าจะดำเนินคดีหรือไม่ แต่ขณะนี้จะเน้นไปที่การดำเนินคดีกับผู้ต้องหาก่อน ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในท้องที่อื่น ต้องรอให้ตำรวจในพื้นที่ทำเรื่องมาขออายัดตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ตำรวจยังได้เรียกผู้ได้รับความเสียหายอีก 3-4 คน เข้าให้การเพื่อประกอบการดำเนินคดีเพิ่มเติมภายในวันนี้ เบื้องต้นมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว 3 คน ประกอบด้วย ผู้ขับขี่รถยนต์ยี่ห้อมาสด้า 2 สีขาว ซึ่งได้รับบาดเจ็บ ตัวรถเสียหาย เหตุเกิดบริเวณถนนกำแพงเพชร 1 ขาออก มุ่งหน้าแยกรัชโยธิน ตรงห้าแยกลาดพร้าว ผู้เสียหายอีกรายขับขี่รถจักรยานยนต์ ได้รับบาดเจ็บ ตัวรถพังเสียหาย เหตุเกิดบริเวณทางลงสะพานข้ามแยกกำแพงเพชร จากถนนพหลโยธินขาเข้า มุ่งหน้ากำแพงเพชร และผู้เสียหายอีกรายขี่รถจักรยานยนต์ เหตุเกิดบริเวณหน้าธนาคารทหารไทย ถนนพหลโยธิน

น.ส.พิชญา ลากูล เจ้าของรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า 2 สีขาว ทะเบียน กท 9069 ร้อยเอ็ด หนึ่งในผู้เสียหายที่เข้าให้ปากคำกับตำรวจ พร้อมตรวจสอบสภาพรถยนต์ที่ได้รับความเสียหาย เล่าว่า กำลังขับรถมุ่งหน้าแยกรัชโยธิน ตรงห้าแยกลาดพร้าว แขวงจตุจักร เขตจตุจักร เพื่อกลับหอพัก จู่ๆ รถคันนี้ก็พุ่งมาชนท้ายอย่างแรง จนท้ายรถบุบ กระจกหลังแตกละเอียดทั้งหมด ได้รับบาดเจ็บฟกช้ำช่วงขาและเข่า ยอมรับว่าโกรธกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตนเพิ่งเรียนจบและได้งานต่างจังหวัด ต้องใช้รถคันนี้ขนของไปทำงานในวันศุกร์นี้ แต่รถกลับมาถูกชน ประกันแจ้งว่าต้องใช้เวลาซ่อมอย่างน้อย 20 วัน แม้ผู้ก่อหตุจะขอโทษและอ้างว่าเครียดก็ตาม แต่ทุกคนก็มีปัญหาเป็นของตัวเอง ไม่ควรทำแบบนี้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]