กระแสโลกสวย สบช่องต่างชาติเปิดปางช้างในไทย

ชลบุรี 3 มี.ค. – “หมอช้าง” เผยการทำธุรกิจปางช้างของฝรั่งเตะหมอที่จังหวัดภูเก็ต เป็นโอกาสที่คนไทยจะได้รับรู้ว่าแนวคิดเลี้ยงช้างแบบโลกสวย “no hook, no chain” ไร้ตะขอ ไร้โซ่ ทำลายโอกาสทางเศรษฐกิจของคนไทย โดยปางช้างที่เลี้ยงแบบปล่อยอิสระ หรือ Sanctuary Park มักเลือกเฉพาะช้างที่เชื่องมากๆ ช้างเด็ก ช้างแก่ และช้างป่วย คิดค่าเข้าชมสูง ทั้งยังจัดตั้งมูลนิธิหาเงินบริจาคเป็นช่องทางการหาเงินจากความสงสารของชาวต่างชาติ


นายสัตวแพทย์เผด็จ ศิริดำรงหรือ “หมอหนึ่ง” สัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลสัตว์เนินพลับหวาน อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรีซึ่งเป็นสัตวแพทย์ที่รักษาทั้งสัตว์เล็ก สัตว์ป่า และช้างมา 29 ปีกล่าวว่า ประเด็นชาวต่างชาติมาทำปางช้างในไทยได้รับความสนใจเป็นวงกว้างจากกรณีที่ชาวต่างชาติทำร้ายแพทย์หญิงที่จังหวัดภูเก็ต จึงต้องการให้โอกาสนี้คนไทยได้รับรู้ถึงเบื้องหลังของการทำธุรกิจประเภทนี้ของชาวต่างชาติ โดยอาศัยกระแสโลกสวยที่ต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในยุโรปต่อต้านการมาเที่ยวเมืองไทย โดยเฉพาะหากมีโปรแกรมมาเที่ยวปางช้างซึ่งถือว่า เป็นการส่งเสริมการทารุณกรรมสัตว์เนื่องจากใช้ขอในการควบคุมช้าง ใช้โซ่ล่าม หรือแม้กระทั่งการนั่งช้างบนกูบหรือแหย่ง รวมถึงการขี่ช้างและการให้ช้างแสดงความสามารถพิเศษก็ถูกมองว่า เป็นการทารุณกรรมช้าง

การปลุกกระแสนักท่องเที่ยวชาวยุโรปให้ต่อต้านการมาเที่ยวปางช้างในไทยรุนแรงขึ้นช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 จึงเป็นโอกาสให้นักธุรกิจต่างชาติสบช่องสร้างกระแสการเลี้ยงช้างแบบใหม่คือ “no hook, no chain” หรือเลี้ยงช้างแบบอิสระ “Sanctuary Parkไม่ใช้ขอ ไม่ล่ามโซ่ ไม่ขี่ช้างเพราะไม่สนับสนุนการทรมานสัตว์


หมอหนึ่งกล่าวว่า ปางช้างประเภท Sanctuary Park หรือเรียกว่า กึ่งอนุรักษ์ โดยจะเลือกเฉพาะช้างที่เชื่องมากๆ ช้างเด็ก ช้างแก่ ช้างผอม หรือช้างป่วยเรื้อรัง ยิ่งสภาพทรุดโทรมมากเท่าไร ยิ่งกระชากเงินจากความสงสารได้มากเท่านั้น เห็นได้ว่า จะเลือกเฉพาะช้างเพศเมีย ไม่เลี้ยงช้างเพศผู้หรือช้างงา ค่าเข้าชมและทำกิจกรรมเช่น ให้อาหารช้าง อาบน้ำให้ช้าง จะสูงกว่าปางช้างของคนไทย อีกทั้งจัดตั้งมูลนิธิหาเงินบริจาคโดยอ้างเพื่อส่งเสริมการเลี้ยงช้างแบบไม่ทารุณกรรมสัตว์ ลักษณะดังกล่าว เป็นการทำลายโอกาสทางเศรษฐกิจของผู้ประกอบการปางช้างไทย

จากที่ได้ไปรักษาช้างในปางต่างๆ ทั่วประเทศ พบว่า ปางช้างแบบ Sanctuary Park ที่ว่า เลี้ยงปล่อยอิสระ กลับปรากฏว่า กลางวันปลดโซ่ กลางคืนล่ามโซ่ เจ้าของปางอาจไม่มีช้างเป็นของตัวเอง แต่ใช้วิธีเช่าช้าง โดยให้ราคาสูงกว่าปางช้างของคนไทย จากประมาณเดือนละ 10,000 – 30,000 บาทขึ้นอยู่กับความสามารถของช้างและกิจกรรมในปาง แต่ปางช้างชาวต่างชาติจะให้สูงถึง 40,000 – 50,000 บาทต่อเดือนเพื่อจูงใจเจ้าของช้าง

ลักษณะการเลี้ยงช้างหรือทำปางช้างมีหลายลักษณะเช่น ช้างโชว์ ช้างชักลากไม้ ช้างแห่งานเทศกาล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ออกประกาศมาตรฐานปางช้างซึ่งมีข้อกำหนดมาตรฐานการเลี้ยงช้างตามวันถุประสงค์การเลี้ยง โดยพิจารณาถึงส่วนที่เกี่ยวข้องหมดประกอบด้วย ช้าง คนทำงานกับช้าง และผู้ใช้บริการ นอกจากนี้กรมปศุสัตว์ยังกำกับดูแลตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ด้วย


ทั้งนี้ช้างสมควรได้รับการเลี้ยงดูโดยไม่ถูกทารุณกรรมและมีสวัสดิภาพที่ดี แต่ต้องไม่โลกสวยจนเกินไปเนื่องจากช้างมีน้ำหนัก 4-5 ตัน การไม่ควบคุมช้างเลย อาจทำร้ายคนถึงแก่ชีวิตได้ในพริบตา แม้แต่ควาญเองก็ตายมาหลายคนแล้ว ส่วนตัวเองซึ่งเป็นหมอ เมื่อไปรักษาช้างที่ไม่ล่ามโซ่ หากควาญไม่อยู่ จะไม่เข้าไปหาช้างเด็ดขาด ตั้งแต่ทำงานมา ช่วยชีวิตช้างที่มีโอกาสตายสูงมากเป็นหลักหลายร้อยตัว คงไม่ต้องพูดว่า ตัวหมอรักและสงสารช้างแค่ไหน แต่รักต้องมีสติด้วยเพราะหมอยังเกือบตายหลายครั้ง

หมอหนึ่งกล่าวย้ำว่า ไม่ได้โจมตีปางช้างประเภทเลี้ยงปล่อยอิสระ หากมีจิตเมตตารับช้างผอม ช้างป่วย ช้างแก่ไปดูแลก็เป็นการดี แต่ต้องไม่โจมตีปางช้างหรือคนที่เลี้ยงช้างเพื่อวัตถุประสงค์อื่นว่า การให้ช้างทำงานเช่น แสดงโชว์หรือร่วมงานแห่เป็นการทารุณกรรมสัตว์ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงช้างแต่ละเชือกนั้นสูงมาก แต่การให้ทำงานมีกฎหมายกำหนดไว้แล้วว่า อะไรที่เรียกว่า ทารุณกรรมสัตว์และการจัดสวัสดิภาพสัตว์ที่ดีต้องเป็นอย่างไร ตลอดจนกำหนดชัดเกี่ยวกับการใช้งานช้างแต่ละวัตถุประสงค์เช่น กำหนดขนาดและน้ำหนักตัวช้าง น้ำหนักกูบหรือแหย่ง รวมถึงระยะเวลาทำงานในแต่ละวัน เป็นต้น . – 512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย