กรุงเทพฯ 27 พ.ค.-ปลัด ทส. เผยจะส่งทีมสัตวแพทย์และผู้เชี่ยวชาญจากกรมอุทยานฯ และองค์การสวนสัตว์ฯ ไปเตรียมการด้านสุขภาพของ “พลายศักดิ์สุรินทร์” สำหรับนำกลับมารักษาอาการป่วยและฟื้นฟูสุขภาพที่ไทย โดยต้องซักซ้อมทุกขั้นตอนอย่างแม่นยำ ไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดเด็ดขาด
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า เตรียมส่งคณะสัตวแพทย์และผู้เชี่ยวชาญจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชและองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยไปยังประเทศศรีลังกาในระหว่างวันที่ 6-9 มิถุนายน 2566 เพื่อเตรียมการด้านสุขภาพอนามัยของ “พลายศักดิ์สุรินทร์” สำหรับการนำกลับมาประเทศไทย
ในระหว่างนี้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชว่า โดยกองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญากำลังเตรียมความพร้อมตามขั้นตอนต่างๆ ซึ่งจะเริ่มจากการตรวจสุขภาพ/กักกันโรค ณ ศรีลังกาตามระเบียบการนำเข้าช้างมาในราชอาณาจักรของกรมปศุสัตว์ การออกเอกสารใบอนุญาตไซเตสในการนำเข้า-ส่ง และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง การจัดทำกรงขนย้ายช้างให้มีความปลอดภัยและเหมาะสมต่อสวัสดิภาพของช้าง รวมถึงการฝึกช้างให้คุ้นชินกับการเข้ากรงระหว่างเคลื่อนย้าย ในขั้นตอนสุดท้าย คณะสัตวแพทย์จะตรวจความพร้อมของช้างก่อนขนย้ายมายังประเทศไทย โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบในการนำ “พลายศักดิ์สุรินทร์” กลับไทยมี 3 หน่วยงานคือ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคลัมโบ กระทรวงการต่างประเทศ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
นายจตุพรกล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงดำเนินการเรื่องขอนำ “พลายศักดิ์สุรินทร์” ช้างที่รัฐบาลไทยมอบให้รัฐบาลศรีลังกา กลับมารักษาอาการป่วยและฟื้นฟูสุขภาพที่ประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง ตามข้อสั่งการของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ห่วงใยเป็นอย่างมากและติดตามความคืบหน้ามาโดยตลอด ทั้งยังกำชับให้เตรียมการและซักซ้อมทุกขั้นตอนอย่างแม่นยำตามแผนการนำช้างกลับประเทศไทย ไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดเพื่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยสูงสุดของ “พลายศักดิ์สุรินทร์”
สำหรับการนำช้างกลับไทย จะขนย้ายช้างด้วยเครื่องบิน Ilyushin IL-76 ของสายการบินขนส่งทางอากาศ ออกเดินทางจากกรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกามายังท่าอากาศยานเชียงใหม่ จากนั้นจะขนย้ายไปรักษาอาการเจ็บป่วยที่สถาบันคชบาลแห่งชาติฯ จังหวัดลำปางซึ่งมีโรงพยาบาลช้างที่มีความพร้อมในการฟื้นฟูสุขภาพทุกด้าน.-สำนักข่าวไทย