“อุตุฯ” เตือนเกิดพายุฤดูร้อน-เฝ้าระวังไซโคลน

กรุงเทพฯ 6 พ.ค.- กรมอุตุนิยมวิทยาเตือน ตั้งแต่วันที่ 8-13 พ.ค. ประเทศไทยตอนบนอาจได้รับผลกระทบทั้งจากพายุฤดูร้อนและพายุไซโคลน ประกอบกับมีมวลอากาศเย็นจากจีนและทางด้านมหาสมุทรแปซิฟิกแผ่ปกคลุมด้านตะวันออกของภาคอีสาน รวมถึงมีหย่อมความกดอากาศต่ำก่อตัวบริเวณทะเลจีนใต้  ส่งผลให้เกิดฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและต้องระวังคลื่นสูง

นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนเรื่อง พายุฤดูร้อนที่ส่งผลกระทบต่อบริเวณประเทศไทยตอนบนในช่วงวันที่ 8-10 พ.ค. เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลให้ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้นในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด 

ดังนั้นจะมีลักษณะพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ไม่ควรสวมใส่โลหะ และหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือขณะเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงในช่วงวันและเวลาดังกล่าวไว้ด้วย 

ในห้วงเวลาเดียวกัน ยังต้องเฝ้าระวังหย่อมความกดอากาศต่ำที่ก่อตัวบริเวณทะเลอันดามัน ปกคลุมอ่าวเบงกอล มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไซโคลน คาดว่า จะเคลื่อนเข้าปกคลุมอ่าวเบงกอลตอนกลาง มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือ เข้าสู่ประเทศเมียนมาได้ โดยจะส่งผลให้ลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้มีกำลังแรง ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นโดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร จะส่งผลกระทบถึงวันที่ 13 พ.ค. ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว

นอกจากนั้นยังพบว่า หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางมีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้น คาดว่า จะเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศเวียดนามตอนกลางในวันที่ 10-11 พ.ค. และจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนฟ้าคะนองต่อเนื่อง

นางสาวชมภารีกล่าวว่า ตั้งแต่วันนี้ (6 พ.ค.) ทิศทางลมแปรปรวน  เริ่มมีสัญญาณการเปลี่ยนแปลงทิศทางของลมเป็นลมตะวันตกและตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งพัดจากทะเลอันดามันเข้าสู่ฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันตก กลุ่มฝนจะเริ่มเคลื่อนตัวจากทางด้านตะวันตกไปทางตะวันออก ในระยะนี้หากมีฝนตก ควรหาวิธีกักเก็บและสำรองน้ำฝนไว้ใช้ในช่วงที่มีฝนน้อย  ซึ่งมีแนวโน้มช่วงฤดูฝนปีนี้ฝนจะน้อยกว่าค่าปกติ 

ขอให้ประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดและสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง .-สำนักข่าวไทย