ทส. ประสาน 17 จังหวัดภาคเหนือคุมเข้มไฟป่าหมอกควัน

กรุงเทพฯ 27 มี.ค.- ปลัดกระทรวงทส. เผย ประสานผู้ว่าราชการ 17 จังหวัดภาคเหนือลดจุดความร้อน ควบคุมไฟ และลดแหล่งกำเนิดฝุ่นละอองในพื้นที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะในอ.แม่สาย ค่าฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐานถึง 10 เท่า


นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า สั่งการให้กรมควบคุมมลพิษติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันอย่างใกล้ชิดและยกระดับการดำเนินงานในการป้องกันและแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 17 จังหวัดภาคเหนือซึ่งคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ส่งผลกระทบต่อสุขภาพหลายพื้นที่ต่อเนื่องหลายวัน

สำหรับรายงานการตรวจสอบคุณภาพอากาศของศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศประจำวันที่ 27 มีนาคม 2566 ณ 07:00 น. พบปริมาณฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐานใน 24 จังหวัดได้แก่ จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ จ.น่าน จ.แม่ฮ่องสอน จ.พะเยา จ.ลำพูน จ.ลำปาง จ.แพร่ จ.อุตรดิตถ์ จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก จ.ตาก จ.กำแพงเพชร จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ จ.อุทัยธานี จ.บึงกาฬ จ.หนองคาย จ.เลย จ.อุดรธานี จ.นครพนม จ.หนองบัวลำภู จ.ชัยภูมิ และจ. อุบลราชธานี


ส่วนผลการตรวจวัดตามรายภาคมีดังนี้

– ภาคเหนือเกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 37 – 537 มคก./ลบ.ม.

– ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเกินค่ามาตรฐาน 8 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 31 – 218 มคก./ลบ.ม.


– ภาคกลางและตะวันตก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 16 – 37 มคก./ลบ.ม.

– ภาคตะวันออก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 9 – 20 มคก./ลบ.ม.

– ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 12 – 23 มคก./ลบ.ม.

– กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ​ ​กทม. ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 13 – 39 มคก./ลบ.ม.

ทั้งนี้พื้นที่ที่น่าเป็นห่วงคือ ภาคเหนือ โดยเฉพาะที่อ. แม่สาย จ. เชียงรายซึ่งวัดปริมาณฝุ่น PM2.5 ได้สูงสุดถึง 537 มคก./ลบ.ม. เกิดจากไฟป่า การเผาในพื้นที่เกษตร การเผาในที่โล่งอื่นๆ และหมอกควันข้ามแดน ประกอบกับสภาพทางอุตุนิยมวิทยาที่ไม่เอื้อต่อการระบายของฝุ่นละออง โดยสภาพอากาศนิ่งและเพดานการลอยตัวต่ำ ส่งผลให้เกิดการสะสมของ PM2.5

ปลัดกระทรวงทส. กล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงทส. ไม่ได้นิ่งนอนใจ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและยกระดับการดำเนินงานในการป้องกันและแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งดำเนินการตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” และแผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองปี 2566 และนโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ในพื้นที่ภาคเหนือ ปี 2566 ของพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นอกจากนั้นยังบูรณาการการทำงานในทุกระดับ ดังนี้

  1. การดำเนินงานในระดับชาติ  กระทรวงทส. ได้เสนอยกระดับการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2566 ซึ่งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ มีมติเห็นชอบการยกระดับมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่นละอองในช่วงสถานการณ์วิกฤต ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ จำนวน 8 มาตรการ และแผนการดำเนินงาน/มาตรการระยะยาวสำหรับ ปี 2567 – 2570 จำนวน 11 มาตรการ

2.         การดำเนินงานในระดับภาค กระทรวงทส. ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับภาค (ศอ.ปกป. ภาค) โดยมี แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ และได้มีการประสานดำเนินงานป้องกันและควบคุมไฟร่วมกันอย่างใกล้ชิด

3.         การดำเนินงานในระดับภาค กระทรวงทส. ได้จัดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน (ส่วนหน้า ภาคเหนือ) ซึ่งประกอบด้วย กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ กรมควบคุมมลพิษ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ประสานการประสานดำเนินงานป้องกัน ควบคุมไฟ และลดแหล่งกำเนิน PM2.5 อย่างเข้มข้น

4.         การดำเนินงานในระดับจังหวัด ทุกหน่วยงาน ยังคงดำเนินการร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดอย่างต่อเนื่อง ในการติดตามสถานการณ์ คาดการณ์ ลดจุดความร้อน ควบคุมไฟ และลดแหล่งกำเนิดฝุ่นละอองในพื้นที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ โดย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบหมายให้ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ใน 17 จังหวัดภาคเหนือ ประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัด รวมทั้งคณะกรรมการและคณะทำงานในจังหวัดอย่างใกล้ชิด

5. ในการแก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดน ประเทศไทยได้อาศัยการเจรจาในเวทีอาเซียนภายใต้ข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน สร้างความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรายงานสภาพปัญหา ตามข้อกำหนดของข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน และได้รายงานสถานการณ์ปัญหาต่อสำนักเลขาธิการอาเซียน เป็นประจำทุกวัน เพื่อให้ประเทศสมาชิกเข้มงวดลดจุดความร้อน เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีหนังสือขอความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้านในการควบคุมไฟป่าและการเผาในที่โล่ง สำนักเลขาธิการอาเซียน จึงได้ยกระดับการแจ้งเตือนสถานการณ์หมอกควันข้ามแดนในอาเซียน เป็นระดับ 3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด เมื่อวันที 2 มีนาคม 2566

อย่างไรก็ตามในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างยั่งยืน จากทุกภาคส่วน แม้ว่าภาครัฐได้เฝ้าระวังสถานการณ์และยกระดับการดำเนินงานโดยตลอด แต่สถานการณ์ก็ยังมีความรุนแรง เนื่องจากยังมีผู้ฝ่าฝืนกฎหมายลักลอบจุดไฟเผาป่า จึงขอความร่วมมือจากประชาชน ให้ร่วมเฝ้าระวังสถานการณ์ หากพบเห็นไฟในพื้นที่ใด ขอความร่วมมือแจ้งหน่วยงานในพื้นที่ สายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 และสายด่วนนิรภัย 1784 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

จากการคาดการณ์ของกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษถึงสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ยังคงมีแนวโน้มที่ควรเฝ้าระวังในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนโดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านในวันที่ 28 มีนาคม- 3 เมษายน แต่ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม – 2 เมษายน  สถานการณ์อาจบรรเทาลงได้บ้างเนื่องจากสภาพอากาศที่เปิดมากขึ้น แระกอบกับสภาพอากาศที่ปิดลดลง

ส่วนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลระหว่างวันที่ 27 มีนาคม- 2 เมษายน มีแนวโน้มที่ดีขึ้นเป็นลำดับ เนื่องจากสภาพอากาศที่เปิดมากขึ้น เพดานการลอยตัวอากาศที่สูงขึ้น  ประกอบกับลมทางใต้ที่กำลังแรงช่วยพัดพาฝุ่นละอองออกจากพื้นที่ แต่ในวันที่ 3 เมษายน 2566 พื้นที่ กรุงเทพมหานครอาจได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองข้ามพื้นที่จากบริเวณทิศตะวันตกได้

สำหรับดัชนีคุณภาพอากาศที่อ. แม่สาย จ. เชียงรายซึ่งตรวจวัดฝุ่น PM2.5 มากถึง 537 มคก./ลบ.ม. เมื่อเทียบกับค่ามาตรฐานประเทศไทยที่ไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม. พบว่า สูงกว่าค่ามาตรฐานถึง 10.74 เท่า ส่วนรายงานผลการตรวจวัดโดย IQAir เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้พบว่า ดัชนีคุณภาพอากาศอ. แม่สายอยุ่ที่ 427 สหรัฐ AQI โดยความเข้มข้นของ PM2.5 เป็น 78.1 เท่าของค่าแนวทางคุณภาพอากาศประจำปีขององค์การอนามัยโลก

สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพ ขอให้ปฏิบัติตน ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข โดยประชาชนทั่วไปควรลดหรืองดการทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายนอกอาคาร เปลี่ยนมาออกกำลังกายในอาคาร สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นเมื่อออกนอกอาคารทุกครั้ง สำหรับกลุ่มเสี่ยงให้งดออกนอกอาคาร ผู้มีโรคประจำตัวควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างน้อย 5 วัน นอกจากนี้ ประชาชนควรเฝ้าระวังตนเองด้วยการประเมินอาการจากการรับสัมผัส PM2.5 พร้อมรับคำแนะนำในการดูแลสุขภาพเบื้องต้นได้ที่เว็บไซต์ “4HealthPM2.5” หรือ “คลินิกมลพิษออนไลน์” และหากมีอาการรุนแรง เช่น แน่นหน้าอก หายใจลำบาก เหนื่อยง่าย หายใจมีเสียงหวีด ให้รีบพบแพทย์ ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ สายด่วนกรมอนามัย 1478 สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422” และขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศจากแอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ Air4Thai และเฟสบุ๊คแฟนเพจ “ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) โดยท่านสามารถติดตามสถานการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]

“หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกแล้ว หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าเจรจา

26 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลัง “บิ๊กเต่า” ร่วมสอบปากคำคดียักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ อดีตพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ พระอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ กล่าวคำลาสิกขา ต่อหน้าพระสงฆ์ หลังถูกคุมตัวมาสอบปากคำที่กองปราบตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา โดยการสอบปากคำ เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณตี 5 จนถึงบ่าย 3 โมง อดีตพระอลงกต ให้ความร่วมมือให้ปากคำแต่ไม่ยอมลาสิกขา กระทั่ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เดินทางมาสอบปากคำด้วยตนเอง พร้อมเกลี้ยกล่อมให้อดีตพระอลงกต คิดถึงคุณงามความดี และการทำนุบำรุงพระศานาในอดีต ทำให้เจ้าตัวยอมสึกแต่โดยดี ทั้งนี้ ก่อนทำพิธีลาสิกขา อดีตพระอลงกต ยังได้เทศนาทิ้งทวนเป็นครั้งสุดท้ายนานกว่า 20 นาที โดยระบุว่า รู้สึกมีความสุข ที่ได้มีโอกาสบอกเล่าเรื่องราว ที่จะเป็นการรักษาซึ่งศรัทธาของญาติโยม พุทธศาสนิกชนด้วยเหตุที่ได้ทำงานที่เป็นประโยชน์มากว่า 30 ปี ซึ่งบางครั้ง บางเรื่องมีข้อผิดพลาด อยากให้เข้าใจว่า มันมี 2 ด้าน ทั้งเรื่องทางโลก และทางธรรม ซึ่งทั้ง 2 […]

ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ด้าน “แพทองธาร” หวังกลับมาทำงาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ขอ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี ด้าน “แพทองธาร” หวังได้กลับมาทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (26 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นครั้งแรก ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยสีหน้าสดใส โดยระหว่างการพิจารณาวาระสำคัญ เช่น การพิจารณารายชื่อนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น 69 ประจำปีการศึกษา 2569 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เคยเรียนหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ มินิ วปอ. ได้สอบถามและให้ความคิดเห็นในรายชื่อของนักศึกษาบางคน ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม ครม. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ประชุมฯ ได้เป็นตัวแทนรัฐมนตรีทุกคนกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และขอให้วันที่ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี นอกจากนี้ ข้าราชการที่เข้าร่วมประชุม […]

“ณัฐพล” สั่งแจ้งเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อลวดหนาม

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ณัฐพล” ฮึ่ม สั่งกองทัพ-ปชช.แจ้งความเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อรั้วลวดหนามที่บ้านหนองจาน ด้าน กต. ทำหนังสือประท้วง ย้ำ เป็นอธิปไตยของไทย เตรียมนำปัญหาทั้งหมดคุยวง GBC ก.ย.นี้ ย้ำหน่วยพื้นที่ยิงตอบโต้ได้ทันที ตามกฎการใช้กำลัง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนามและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ของไทย บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูงจังหวัดสระแก้ว ว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะมาพบกับประชาชนที่บริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ทำให้เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามมาวางเพิ่มเติม เพราะกังวลว่าชาวกัมพูชาจะมารบกวน จึงทำให้ชาวกัมพูชาตั้งใจจะมารื้อในส่วนที่เป็นรั้วเพิ่มเติม ไม่ใช่ส่วนที่วางไว้ตั้งแต่เดิม จึงได้ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ไปว่า เป็นการปักในพื้นที่ประเทศไทย จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอาญา ซึ่งกองทัพภาคที่หนึ่งหรือกองกำลังบูรพาก็สามารถดำเนินการ แจ้งความข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการได้ ซึ่งตนเองได้ย้ำว่าจะต้องไม่มีภาพแบบเมื่อวานเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ พลเอกณัฐพล ยอมรับว่าการนำชาวบ้านมากดดันทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมากขึ้น จึงมอบหมายให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ที่ไม่สามารถมาทำเช่นนี้ได้ ส่วนการปฏิบัติการ จะใช้มาตรการเดียวกับการปราบปรามการชุมนุมหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า การปฏิบัติการจะเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งขั้นแรกได้ใช้ เครื่องแอลแรท (LRAD) ไปแล้ว เราต้องเตรียมกำลังเพิ่มเติม โดยจะพิจารณาใช้กำลังตำรวจ เพราะหากใช้กำลังทหารจะรุนแรงเกินไป […]