กทม.3 พ.ย.-อัยการมั่นใจสั่งคดีทัน 17 พฤศจิกายนตามกรอบระยะเวลาที่เหลืออีก 1 ฝากขัง หลังพนักงานสอบสวนกองปราบปราม นำสำนวนพร้อมความเห็นสั่งฟ้องผู้กำกับโจ้ กับพวกมาส่งให้พิจารณา
ที่สำนักงานอัยการสูงสุด รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางและหัวหน้าพนักงานสอบสวนนำสำนวน 6 แฟ้ม 2,540 หน้า พร้อมความเห็นฟ้องอดีตผ็กำกับโจ้กับพวกรวม 7 คน ส่งให้อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต เพื่อพิจารณษให้ความเห็นทางคดี
นายอิทธิพร แก้วทิพย์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมนายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ , พลตำรวจตรีสุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และพันตำรวจเอกเอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม แถลงความคืบหน้าคดีพันตำรวจเอกธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ และพวก ร่วมกันซ้อมทรมานผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิต ที่จังหวัดนครสวรรค์ หลังจากที่ คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน สรุปสำนวนคดีและมีความเห็นสมควรสั่งฟ้อง พันตำรวจเอกธิติวรรค์ และพวก ซึ่งเป็นตำรวจ รวม 7 นาย ในความผิด 4 ข้อหาหลัก ฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ร่วมกันปฎิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย และ ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือไม่กระทำการใด โดยใช้กำลังประทุษร้าย
นายอิทธิพร เปิดเผยว่า คดีนี้ผู้ถูกกล่าวหาจะครบกำหนดฝากขังผัด 6 ในวันที่ 5 พฤศจิกายน จำนวน 5 คน ส่วนอีก 2 คน จะครบกำหนดฝากขังผัด 6 ในวันที่ 6 พฤศจิกายน หลังจากรับสำนวนคดีนี้ อัยการสูงสุด จะใช้ระยะเวลาในการพิจารณาสั่งคดีตามกฎหมาย พร้อมยอมรับว่า จะเหลือเวลาในการพิจารณาสำนวนคดีนี้ อีก 14 วัน ซึ่งจะครบในวันที่ 17 พฤศจิกายน จึงมั่นใจว่า จะมีความเห็นทางคดีได้ทันตามกรอบ เพราะหากมีความเห็นคดีไม่ทันตามกำหนดระยะเวลา ตามกฎหมายระบุว่า ต้องปล่อยตัวผู้ถูกกล่าวหา และเมื่อมีความสั่งคดีได้เมื่อไรนั้น ให้นำตัวผู้ต้องหา มาส่งฟ้องได้ในภายหลัง
นายประยุทธ เปิดเผยว่า สำหรับคดีนี้แยกเป็น 2 สำนวน คือ สำนวนคดีหลักที่ส่งฟ้อง ส่วนอีกสำนวนเป็นการไต่สวนสำนวนคดีการเสียชีวิตที่อยู่ระหว่างการควบคุมของเจ้าหน้าที่ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของอัยการจังหวัดนครสวรรค์ และสำนวนนั้น จะถูกนำมารวมไว้กับสำนวนคดีที่ส่งฟ้อง ขั้นตอนหลังจากนี้จะมีการแต่ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลสำนวนคดีและส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดลงความเห็นชี้ขาดสั่งฟ้องหรือไม่
ด้านพลตำรวจตรีสุวัฒน์ ยืนยันคดีนี้พนักงานสอบสวน ทำงานประสานข้อมูลกับอัยการมาโดยตลอด ดังนั้น การสอบสวนจึงเป็นไปตามกรอบระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนดอย่างแน่นอน ทั้งนี้จนถึงตอนนี้ผู้กำกับโจ้ยังไม่รับสารภาพในทุกข้อหา เพียงแต่ยอมรับว่ากระทำจริงแต่ไม่ได้ตั้งใจ แต่มั่นใจมีพยานหลักฐานที่ชัดเจนมัดตัวผู้กำกับโจ้ โดยเฉพาะคลิปการก่อเหตุ และพยานยืนยันส่วนคดีการครอบครองรถยนต์หรูและคดีที่เกี่ยวกับทรัพย์สินและการฟอกเงิน พนักงานสอบสวน ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพราะมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก
สำหรับคดีนี้พันตำรวจเอกธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผู้กำกับโจ้ อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ และพวก อดีตชุดปราบปรามยาเสพติด จ.นครสวรรค์ ก่อเหตุใช้ถุงดำคลุมศีรษะ นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ หรือมาวิน ผู้ต้องหาคดียาเสพติด อ้างเพื่อเค้นข้อมูล จนเสียชีวิต เหตุเกิดที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยคดีนี้มี น.ส.จันทร์จิรา ธนะพัฒน์ แม่ของนายมาวิน และ พ.ต.อ.สุทธินันท์ คงแช่มดี ผกก.สส.ภ.จว. นครสวรรค์ เป็นผู้กล่าวหา พร้อมผู้ต้องหา 7 คน ประกอบด้วย พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล พ.ต.ต.รวีโรจน์ ดิษทอง ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น และ ส.ต.ต.ปวีณ์กร คำมาเร็ว โดยคดีนี้สอบสวนพยาน 35 ปาก พยานเอกสาร 14 รายการ วัตถุพยาน 7 รายการ .-สำนักข่าวไทย