คุมตัวทำแผนฯ คนร้ายใช้รถกู้ภัยขนยาบ้า

ปส.9 มิ.ย.- ตำรวจคุมตัว 3 คนร้ายก่อเหตุใช้รถกู้ภัยขนยาบ้า 2.4 ล้านเม็ด ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ขยายผลจับกุมเครือข่ายร่วมขบวนการ


ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ควบคุมตัวนายจิรายุทธ อายุ 22 ปี, นางสาวทิพวรรณ อายุ 20 ปี สองสามีภรรยา และนายชาญณรงค์ ายุ 31 ปี ที่ร่วมกันก่อเหตุใช้รถกู้ภัยขนยาบ้า 2,400,000 เม็ด หลบหนีการจับกุม ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพและชี้จุด 3 จุด

จุดแรก เป็นจุดที่ผู้ต้องหานำยาบ้าไปทิ้งบริเวณจุดทิ้งขยะ ซอยหนองระแหง 5 ถนนไทยรามัญ แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร


จุดที่ 2 เป็นจุดที่ผู้ต้องหานำรถตู้กู้ภัยไปจอดทิ้งที่ท้ายซอยราษฎร์อุทิศ 44/1 ถนนราษฎร์อุทิศ แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี และจุดที่ 3 เป็นจุดที่ผู้ต้องหานำรถกระบะกู้ภัยที่ใช้รับสองสามีภรรยาหลบหนี ไปจอดทิ้งในซอยลาดกระบัง 15 แขวงและเขตลาดกระบัง ใกล้กับโรงพยาบาล จากนั้นผู้ต้องหาทั้งสามก็ได้ว่าจ้างรถแท็กซี่ให้ไปส่งที่จังหวัดระยอง เพื่อหลบหนี

พลตำรวจตรีพรพิทักษ์ รู้ยืนยง ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาเป็นเพียงหนึ่งในเครือข่ายที่มีหน้าที่ขนยาบ้าตามคำสั่ง โดยได้รับค่าจ้างขนครั้งนี้เป็นเงิน 1 แสนบาท อ้างว่าทำครั้งแรก จากการสืบสวนพบว่าเกี่ยวข้องกับกระบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติที่นำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านด้านจังหวัดเลย โดยจะนำไปส่งให้ลูกค้าในย่านลาดพร้าว ซึ่งจะต้องมีการขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป

สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา นายจิรายุทธ และนางสาวทิพวรรณ ได้ใช้รถตู้กู้ภัยขนยาบ้า จำนวน 2,400,000 เม็ด หลบหนีการจับกุม และใช้อาวุธปืนยิงใส่ตำรวจบริเวณจุดตรวจในเขตพื้นที่จังหวัดสระบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากนั้นขับรถหลบหนีมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร นำยาบ้าและรถไปทิ้งก่อนหลบหนีไป ต่อมาตำรวจไปจับกุมนายชาญณรงค์ คนขับรถกู้ภัยที่มารับ 2 สามีภรรยา ได้ที่อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ตำรวจขยายผลไปจับกุมนายจิรายุทธ และนางสาวทิพวรรณ ได้ที่ห้องเช่าในตำบลชำฆ้อ อำเภอเขาชะเมา จังหวัดระยอง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย