จับสาวประเภทสองวางยารูดทรัพย์ชาวต่างชาติ

บช.น.11 พ.ค.-ตำรวจ สน.ลุมพินี จับสาวประเภทสองวางยารูดทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวคูเวต ได้ทรัพย์สินไปกว่า 2 แสนบาท พบก่อเหตุมาโชกโชนเจาะจงเลือกชาวต่างชาติ


พลตำรวจโท สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลการจับกุมนายชฎาพร ออมสิน อายุ 28 ปีและนาย ศิปาญ์ เทียนกระจ่างอายุ 26 ปี สาวประเภทสอง ที่ไปก่อเหตุมอมยานักท่องเที่ยวชาวคูเวตรายหนึ่ง ก่อนจะชิงทรัพย์ เมื่อปลายเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา โดยพฤติการณ์ของผู้ต้องหาทั้ง 2 คนจะออกไปตระเวนหาเหยื่อตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ โดยจะเลือกเจาะจงเป้าหมายเป็นกลุ่มชาวต่างชาติ ออกอุบายชักชวนให้ไปร่วมหลับนอนที่โรงแรมที่อยู่ใกล้เคียง จากนั้นจะชักชวนให้ดื่มเครื่องดื่มที่เตรียมไว้ ซึ่งภายในจะมีการผสมยานอนหลับเพื่อให้ง่ายต่อการขโมยทรัพย์สินโดยการก่อเหตุในครั้งล่าสุดผู้ต้องหาได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดจำนวน 6,000 ดอลลาร์หรือประมาณ 2 แสนบาทไป

โดยตอนนั้นผู้เสียหายไหวตัวทันเข้า แจ้งความที่ สน.ลุมพินี แต่ในขณะที่ผู้เสียหายกำลังไปแจ้งความอยู่นั้นได้เกิดอาการมึนงงจนหมดสติที่สถานีตำรวจ  เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจซึ่งแพทย์ได้ทำการตรวจเลือดและปัสสาวะพบยานอนหลับภายในร่างกาย จึงให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าไปตรวจสอบห้องที่เกิดเหตุและเก็บตัวอย่างแก้วน้ำที่ผู้เสียหายอ้างว่าดื่มไปก่อนจะหมดสติ พบมียานอนหลับชนิดเดียวกันผสมอยู่ในน้ำชา จึงได้เก็บเป็นพยานหลักฐาน ซึ่งนำภาพจากกล้องวงจรปิดและพยานหลักฐานที่เก็บได้ไปขอศาลอาญากรุงเทพฯใต้ออกหมายจับ


จากนั้นชุดสืบสวนได้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดต้นทราบว่าคนร้ายหลบหนี ไปที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งที่ตำบลบางรักพัฒนา อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี จึงนำกำลังไปจับกุมตัวได้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การภาคเสธว่าเป็นบุคคลตามหมายจับแต่ไม่ได้วางยา แต่ผู้เสียหายหมดสติไปเอง  ส่วนเงินที่หายไปก็ไม่ยอมรับว่าเป็นคนขโมยไป เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจก่อนจะนำตัวส่งฝากขังต่อศาลอาญากรุงเทพฯใต้ในเวลาต่อมา

จากการตรวจสอบประวัติและหมายจับของผู้ต้องหาพบว่า นายชฎาพรหนึ่งในผู้ต้องหาก่อเหตุแบบนี้มาแล้ว 3 ครั้ง โดยก่อเหตุในพื้นที่สน. ลุมพินีอีก 2 คดี เมื่อเดือนมกราคมและเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และครั้งที่ 3 ไปก่อเหตุในพื้นที่สน.พระโขนงเมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งจากการก่อเหตุทั้ง 3 ครั้งได้ทรัพย์สินไปรวมมูลค่าเกือบ 5 แสนบาท ผู้เสียหายทุกคนให้การว่าผู้ต้องหาก่อเหตุในลักษณะใกล้เคียงกันและมีการชี้ตัวยืนยันผู้ต้องหาตรงกันทุกราย และเมื่อตรวจสอบประวัติการต้องโทษพบว่าเคยต้องโทษคดีทำร้ายร่างกายมาแล้ว 2 ครั้งโดยได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำในปี 2562 และ 2564 ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 คนไม่พบประวัติการกระทำความผิด พลตำรวจโทสำราญเปิดเผยว่าหลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่โดยเฉพาะในพื้นที่ย่านสุขุมวิทและสีลมดำเนินการตรวจสอบคัดกรองสาวประเภทสองและนักท่องเที่ยว โดยจะจัดทำประวัติและลงทะเบียนเพื่อให้ง่ายต่อการสืบสวนติดตามจับกุมตัวหากเข้ามากระทำความผิดในพื้นที่ เนื่องจากปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นซึ่งอาจเป็นช่องทางให้คนร้ายก่อเหตุอาชญากรรมต่างๆ ซึ่งจะทำให้เสียภาพลักษณ์ของประเทศ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

“อัศนี” ประกาศชัยชนะนายกเล็กเชียงใหม่ หลังนับคะแนนผ่านไป 78%

เชียงใหม่ 11 พ.ค. – “อัศนี บูรณุปกรณ์” ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย ประกาศชัยชนะ หลังนับคะแนนผ่านไปกว่า 78% ทิ้งห่างคู่แข่งจากพรรคประชาชน 4,000 คะแนน นายอัศนี บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย พร้อมผู้สนับสนุน ต่างปรบมือแสดงความดีใจ หลังการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการผ่านไปเกินร้อยละ 78 ได้คะแนนกว่า 17,000 คะแนน ทิ้งห่างนายธีรวุฒิ แก้วฟอง จากพรรคประชาชน กว่า 4,000 คะแนน พร้อมประกาศชัยชนะ โดยขอบคุณทุกคะแนนเสียง รวมทั้งพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าชัยชนะครั้งนี้มาจากความใกล้ชิดประชาชนในพื้นที่ ยืนยันเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ไม่ใช่เก้าอี้ที่สืบทอดของบ้านใหญ่บูรณุปกรณ์ แต่มาจากการทำงานใกล้ชิดประชาชนจนมีความเชื่อมั่น ยืนยันพร้อมเดินหน้านโยบายเร่งด่วนใน 100 วันแรก เร่งป้องกันปัญหาน้ำท่วม เพราะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เมื่อถามว่า หนักใจกับการถูกร้องเรียนหลังเลือกตั้งหรือไม่ นายอัศนี ยืนยันว่า ทีมงานของตนมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และพร้อมจะดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป.-713-สำนักข่าวไทย

เฮลั่น “ธัญญก้าวหน้า” ชนะยกทีม เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี

ปทุมธานี 11 พ.ค. – นับคะแนนเสร็จสิ้นแล้วอย่างไม่เป็นทางการ เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี “นายกเบี้ยว” ประกาศลั่น “ธัญญก้าวหน้า” คว้าชัยชนะยกทีม “ยุพเยาว์” นั่งนายกเทศมนตรี ส่วน “ลูกพีช” ได้เป็น สท. -สำนักข่าวไทย

กกต.พอใจภาพรวมเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ

11 พ.ค. – กกต.พอใจภาพรวมการเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หวังมีผู้มาใช้สิทธิตามเป้า 70% พร้อมกำชับ จนท.ขานคะแนนให้ชัด และเตรียมแผนเผชิญเหตุกรณีฝนตก-ไฟดับ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจดูการใช้สิทธิของประชาชน ในการใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี พื้นที่เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะที่สถานการณ์ทั่วประเทศที่ได้รับรายงานพบบางจังหวัดมีข่าวซื้อเสียงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ไม่พบตามที่มีการแจ้ง และไม่น่าจะส่งผลกระทบให้ต้องเลือกตั้งใหม่ ประธาน กกต. เผยในการเลือกตั้งตรวจดูตามหน่วยเลือกตั้ง ได้กำชับกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเรื่องการนับคะแนน เพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนว่าขานคะแนนไม่ชัด หรือไม่ได้ยิน แสงสว่างน้อย จึงขอให้ขานคะแนนช้าๆ ชัดๆ เพื่อไม่ให้ผู้สังเกตการณ์เกิดความสงสัย และหากมีฝนตกก็ต้องมีแผนเผชิญเหตุ โดยเฉพาะหากไฟฟ้าดับ ส่วนผู้ใช้สิทธิจะมากกว่าครั้งที่แล้ว โดยครั้งนี้ตังเป้าไว้ร้อยละ 70 เพราะดูจากการมาใช้สิทธิตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความคึกคัก แต่ในแต่ละจังหวัดจะไม่เท่ากัน ขณะที่การนับคะแนน หลังปิดการลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง โรงเรียนหัวหินวิทยาคม ซึ่งมี 6 หน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่แจ้งหมดเวลาปิดการลงคะแนน และเริ่มการนับคะแนนทันที โดยเป็นการนับคะแนนนายกเทศมนตรี และมานับคะแนนสมาชิกสภาเทศบาล ท่ามกลางตัวแทนผู้สมัครมาเฝ้าสังเกตการณ์ สำหรับการเลือกตั้งเทศบาลมีจำนวน 2,463 แห่ง และหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]