กรุงเทพฯ 9 ก.พ.-ตั้งกรรมการสอบวินัย ตำรวจ อคฝ. เมากร่าง ลวนลามเด็กเสิร์ฟ ชกต่อยพนักงานในร้าน ที่ จ.ลำพูน เบื้องต้นพบถูกสั่งพักราชการ เนื่องจากป่วยมีอาการทางจิตเวช คาดขาดยา เมา จึงก่อเหตุ
จากกรณีคลิปจากกล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์ที่ตำรวจควบคุมฝูงชนนายหนึ่ง ก่อเหตุใช้กำลังลวนลามพนักงานสาว และชกต่อยพนักงานชายในร้านบ่อตกกุ้งทุ่งหลวง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 4 กุมภาพันธ์ รวมถึงใช้มีดยาว 1 เมตร ฟันทรัพย์สินของร้านอาหาร หลังพนักงานแจ้งว่าร้านปิดแล้ว แต่ผู้ก่อเหตุรายนี้ ไม่ยอมกลับบ้าน ขอนั่งต่อ เมื่อทางร้านไม่ยอม ผู้ก่อเหตุก็เริ่มทะเลาะและลวนลามพนักงานสาว จนพนักงานชายคนอื่นๆไม่พอใจได้ตักเตือนและบอกให้กลับ แต่เกิดทะเลาะกันจนบานปลายชกต่อยกันชุลมุน แล้วออกจากร้านไป พนักงานจึงแยกย้ายกันกลับบ้าน แต่ผู้ก่อเหตุย้อนกลับมาในช่วงเวลาประมาณตี 5 พร้อมกับก้อนหินขนาดใหญ่ เข้ามาหน้าร้านแล้วขว้างใส่รถยนต์ที่จอดอยู่จนกระจกหน้ารถแตก แล้วยังไปนำมีดตัดหญ้ายาวกว่า 1 เมตร ที่อยู่ในร้านออกมาฟันซ้ำจนรถเสียหายไป 2 คัน กระจกห้องน้ำ กระจกห้องครัว และยังไปทุบข้าวของอื่นๆ เสียหายอีกจำนวนมาก ในขณะนั้นเจ้าของร้าน และพนักงานที่นอนเฝ้าร้าน ก็อยู่ภายในร้านแต่ก็ไม่กล้าออกมาห้ามปราม เนื่องจากกลัวว่าจะได้รับอันตราย
พลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. เปิดเผยความคืบหน้าว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าเป็นตำรวจ สังกัดกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (บก.อคฝ.) จริง โดยจากการตรวจสอบพบประวัติการรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อวันที่ 6 มกราคม โดยแพทย์วินิจฉัยว่ามีภาวะซึมเศร้า จึงส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลสวนปรุง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 28 มกราคม เพราะผู้ป่วยมีภูมิลำเนาอยู่ที่ จังหวัดลำพูน โดยแพทย์ลงความเห็นว่าผู้ป่วยควบคุมอารมณ์ไม่ได้ จำเป็นต้องมีคนดูแลอย่างใกล้ชิดและให้พักราชการตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม ถึง 3 มีนาคม โดยระหว่างเดินทางกลับไปพักที่บ้านอาจดูแลไม่ทั่วถึง จนเกิดเหตุดังกล่าว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำพูน ได้แจ้งข้อหา “ทำให้เสียทรัพย์” อยู่ระหว่างดำเนินคดี ส่วนทางด้านวินัย ทางหน่วยงานได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการทางวินัยไปแล้วส่วนหนึ่ง
พลตำรวจตรีจิรสันต์ กล่าวอีกว่า ผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ ผบ.ตร. ไปจนถึง ผบช.น. เป็นห่วงสุขภาพและสวัสดิการของข้าราชการตำรวจ และให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ตรวจสอบเรื่องความเป็นอยู่และสุขภาพจิตของข้าราชการตำรวจเพื่อทำการแก้ไขในเบื้องต้น.-สำนักข่าวไทย