กรุงเทพฯ 3 ก.พ. – ตำรวจเปิดปฏิบัติการบูรพา 491 ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่งคนไทยข้ามไปเป็นคอลเซ็นเตอร์ฝั่งกัมพูชา ออกหมายจับยกแก๊ง 17 ราย โดยระหว่างดูจุดพรมแดน มีหนึ่งในแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับใจหนีรอดมาได้ สารภาพพร้อมเล่าชีวิตความเป็นอยู่ของเหยื่อ เผยถูกบังคับให้หลอกคนไทยด้วยกัน

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (PCT) พร้อมด้วยกำลังตำรวจ PCT ตำรวจภูธรภาค 2 ปูพรมตะเข็บชายแดนสระแก้ว บุกจับกุมเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ พร้อมออกหมายจับยกแก๊ง 17 ราย
จากการสืบสวนทราบว่า เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายนี้ มีสองสามีภรรยาอยู่ฝั่งประเทศไทย ทำหน้าที่ประสานงานกับชาวจีนหัวหน้าเครือข่าย และเป็นคนจัดหาคนไทยไปทำงานในประเทศกัมพูชา ผ่านเว็บไซต์จัดหางานประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะหลอกว่ามีรายได้ดี งานสบาย เมื่อมีคนหลงเชื่อจะขับรถไปรับถึงบ้าน และพาข้ามชายแดนไปยังประเทศกัมพูชา ชุดสืบสวนจึงเปิดปฏิบัติการบูรพา 491 ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตัดวงจร จับกุมนายณฐกร อายุ 28 ปี และ น.ส.อ้อยใจ อายุ 34 ปี สองสามีภรรยา พร้อมแจ้ง 5 ข้อหาหนัก “ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ข่มขืนใจผู้อื่น, หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นฯ, เอาคนลงเป็นทาส หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร, หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่”
จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพ โดยยอมรับว่า มีนายปอ หนวดงาม คนไทยเป็นขาใหญ่ควบคุมคอลเซ็นเตอร์ชาวไทยอยู่ที่ฝั่งกัมพูชา จุดที่พาคนไทยข้ามชายแดนไปยังประเทศกัมพูชา อยู่บริเวณทุ่งนาด้านหลังปราสาทสด๊กก๊อกธม โดยผู้ต้องหาให้การว่า เมื่อข้ามไปถึงประเทศกัมพูชาแล้ว จะมีคนฝั่งกัมพูชานำทางต่อ เพราะบริเวณแนวชายแดนมีกับระเบิดของทหารกัมพูชาอยู่ หากไม่ชำนาญเส้นทางจะทำให้ถูกกับระเบิดได้
ทั้งนี้ ขณะนำผู้ต้องหาชี้จุดเกิดเหตุ มีผู้เสียหายรายหนึ่งอ้างว่าเคยเป็นหนึ่งในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลบหนีกลับมาประเทศไทยได้ เข้าพบ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ พร้อมให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หลังจากส่งคนไทยข้ามแดนแล้วก็จะมีคนมารับต่อ เมื่อไปถึงฐานปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก็จะถูกจับเป็นทาส ให้ทำงานหลอกคนไทยให้โอนเงินให้ โดยบังคับให้ทำงานวันละ 15 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด ถูกกักขัง หากขัดขืนไม่ทำงานก็จะถูกทารุณต่างๆ นานา ทั้งกักขังและทำร้ายร่างกาย บางรายถูกขายต่อให้กับแก๊งอื่นๆ สภาพเหมือนตกนรก แต่บางรายก็เต็มใจในการหลอกคนไทย เพราะจะได้เงินส่วนแบ่งดี แต่ผู้เสียหายรับไม่ได้ที่จะหลอกคนไทยด้วยกัน จนมีผู้ถูกหลอกบางคนโทรกลับมาขอเงินคืน และถึงกับจะฆ่าตัวตาย
สำหรับคดีนี้ได้พยานหลักฐานมาพอสมควรแล้ว ออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมรวม 19 คน โดยเฉพาะนายปอ หนวดงาม ตัวการใหญ่คนไทยที่ควบคุมคนไทยหลอกคนชาติเดียวกันเอง โดยจะเร่งประสานความร่วมมือกับประเทศกัมพูชา เพื่อนำตัวมาดำเนินคดี
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ระบาดหนัก และมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หลากหลายรูปแบบ เช่น หลอกว่าเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด โดยปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลอกว่าได้รับรางวัล หลอกให้หลงรักและชวนลงทุน หลอกให้กู้เงินออนไลน์ และมีการพัฒนาไปถึงการหลอกให้โอนเงินเข้าเว็บเทรดเหรียญคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งเป็นเว็บเทรดผี โดยโอนเงินเข้าไปในรูปแบบสกุลเงินดิจิทัล (USDT) แล้วไม่สามารถถอนเหรียญได้ จึงฝากเตือนพี่น้องประชาชนอย่าตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อง่ายๆ หากพบเบาะแสสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ศูนย์ PCT 081-8663000 เวลาราชการ หรือสายด่วน บช.สอท. 1441. – สำนักข่าวไทย