กทม. 2 ต.ค.-บช.น. เตรียมพร้อมดูแลการชุมนุมวันนี้ 3 กลุ่ม ส่วนเมื่อวานมีชุมนุม 4 กลุ่ม รวบผู้ต้องสงสัย 2 คน เป็นเยาวชน พบหนักสติ๊ก ลูกแก้ว ตรวจสอบเบื้องต้นพบเชื่อมโยงม็อบ
พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมแถลงข่าวเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับสถานการณ์ การชุมนุมของกลุ่มเห็นต่างทางการเมือง การดำเนินงานในห้วงเวลาที่ผ่านมา
พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า วันนี้มีการนัดหมายชุมนุม 3 กลุ่ม ได้แก่กลุ่มเยาวชนทะลุแก๊ส นัดชุมนุมบริเวณใต้ด่วนดินแดง เวลา 17.00 2.กลุ่มพลเมืองโต้กลับ นัดชุมนุมที่ศาลฎีกา เวลา 17.00 และ 3.โมกหลวงริมน้ำ ชุมนุมหน้ากระทรวงศึกษาธิการ เวลา 16.00 อย่างไรก็ตามการชุมนุมวันนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้จัดเตรียมกำลังพลเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยแล้ว
ส่วนการชุมนุมเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา มีกลุ่มผู้ชุมนุม ทั้งหมด 4 กลุ่ม ซึ่งกลุ่มทะลุฟ้า กลุ่มพลเมืองโต้กลับ กลุ่มสลัม 4 ภาค ชุมนุมด้วยความสงบ ไม่มีเหตุรุนแรง แต่กลุ่มทะลุแก๊ส เริ่มมีการชุมนุมตั้งแต่เวลา 18.51 น. มีการใช้ระเบิดเพลิง ยิงพลุ และปาระเบิดเพลิงเข้าไปยังกรมดุริยางทหารบก ต่อมาในเวลา 23.00 น. ตำรวจสามารถเข้าไปยึดพื้นที่ และมีการจับกุมผู้ต้องสงสัย 2 คน เป็นกลุ่มเยาวชน ซึ่งทั้งสองได้ขับขี่รถจักรยานต์ ตำรวจจึงเข้าตรวจพบหนักสติ๊ก ลูกแก้ว จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ชุมนุม
ส่วนการดำเนินการทางกฎหมาย รวมคดีที่ดำเนินการแล้ว จำนวน 554 คดี สอบสวนเสร็จแล้ว 244 คดี อยู่ระหว่างสอบสวน 310 คดี มีการจับกุมตัวผู้ทำความผิด 706 คน
ขณะที่เส้นทางจราจรที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมในวันนี้ คือ ถนนอโศกดินแดง, ถนนวิภาวดี, ซอยพหลโยธิน 2, ทางลงด่วนดินแดง ตลอดจนอุโมงค์ดินแดง ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว
กองบัญชาการตำรวจนครยบาล ขอย้ำเตือนว่า การชุมนุมบริเวณใต้ด่วนดินแดง ซึ่งก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชน ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น หากไม่มีความจำเป็นไม่ควรออกจากบ้าน ส่วนประชาชนทั่วไปที่ต้องสัญจรในเส้นทางดังกล่าว ให้วางแผนการเดินทาง อย่างไรก็ตาม กทม. ยังเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ดังนั้นการชุมนุม หรือการรวมกลุ่ม ถือว่าเป็นความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค มีความผิดต่อ พ.ร.บ. ควบคุมโรค และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
สำหรับปัญหาการผู้ชุมนุมที่บริเวณแยกดินแดง พบปัญหาสำคัญคือ เรื่องความปลอดภัยและความหวาดระแวงของพี่น้องประชาชน ซึ่งตำรวจจะประสานกับการเคหะ เพื่อช่วยดูแลความปลอดภัย อย่างไรก็ตามตำรวจจะบังคับใช้กฎหมายเป็นหลัก เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มดังกล่าว ไม่ใช่คนเห็นต่างทางการเมือง หากก่อเหตุไม่สงบ ถือว่าเป็นคดีอาชญากรรม สามารถจับกุมได้ตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย
