กทม. 13 ส.ค.-ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันตำรวจไม่มีเจตนาทำร้ายประชาชน ย้ำทำตามขั้นตอนของกฎหมาย เตือนผู้ชุมนุมอย่าฝ่าฝืน พร้อมขอโทษประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง
พลตำรวจโทภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมพลตำรวจตรีปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล และพันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจเเห่งชาติ ร่วมกันแถลงเตรียมพร้อมรับมือการชุมนุมของกลุ่มเห็นต่างทางการเมือง และประชาสัมพันธ์เส้นทางการจราจร
พลตำรวจโทภัคพงศ์ กล่าวว่าตามที่มีประกาศของกลุ่มผู้ชุมนุมทะลุฟ้า นัดหมายการชุมนุมเวลา 15.00 น. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หลังจากนั้นจะเคลื่อนขบวนไปทำกิจกรรมที่ถนนวิภาวดีรังสิต ตำรวจได้จัดกำลังเตรียมรับรับมือและดูแลความสงบเรียบร้อยโดยไม่ขอบอกรายละเอียดในยุทธวิธี เเต่ยืนยันว่าจะปฏิบัติตามขั้นตอนเเละกรอบของกฎหมายโดยจะให้กระทบกับประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม ต้องขอโทษที่มีบางกรณีที่อาจทำให้ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงได้รับผลกระทบ ขอยืนยันว่าทางตำรวจไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายประชาชน
ดังนั้นวันนี้ขอความร่วมมือประชาชน หลีกเลี่ยงเส้นทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ต่อเนื่องไปจนถึงถนนวิภาดีรังสิต เเละสามเหลี่ยมดินเเดง เนื่องจากที่ผ่านมาจะมีความรุนเเรงเเละมีการชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ขอเตือนไปยังผู้ที่จะเข้าร่วมการชุมนุม ซึ่งอาจมีความผิดทั้ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เเละ พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ อีกทั้งตอนนี้มีผลตรวจยืนยันว่าผู้ชุมนุมบางรายติดเชื้อไวรัสโควิด -19 ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้ชุมนุมรายอื่น
พลตำรวจโทภัคพงศ์ กล่าวอีกว่า หากผู้ชุมนุมไม่ใช้ความรุนเเรง ทางตำรวจจะพยายามรักษาความสงบเรียบร้อย ที่ผ่านมาได้รับรายงานว่ามีการสะสมอาวุธจึงมีความจำเป็นต้องระงับเหตุก่อน อย่างวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา ผู้ชุมนุมมีการปิดถนนเเละวางเพลิงเผาทรัพย์ พกพาอาวุธหลายรายการ จึงต้องเคลื่อนกำลังออกมาระงับเหตุ หลังจากเหตุสงบก็กลับเข้าที่ตั้ง ยืนยันว่าการปฏิบัติการทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน เเละอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย เน้นรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นหลัก
ด้านพลตำรวจตรีปิยะ กล่าวสรุปการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมว่า ตอนนี้มีการดำเนินคดีไปกว่า 300 คดี สอบสวนเสร็จสิ้นเเล้ว 199 คดี อยู่ระหว่างการสอบสวน 105 คดีส่วนกรณีการเผารถตำรวจ มีการจับผู้ต้องหา เเละวันนี้ได้นำตัวไปฝากขังเเล้ว โดยหลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อนำตัวผู้ก่อเหตุที่เหลือมาดำเนินคดี
อย่างไรก็ตาม ฝากเตือนไปถึงผู้ที่เชิญชวนร่วมชุมนุมผ่านโซเชียลมีเดีย เเละเเจ้งให้ผู้ชุมนุมคล้องเเขนกันเป็นเเนว ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเเพร่ระบาดของเชื้อโรค จะมีความผิด พ.ร.บ.โรคติดต่อ, พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯเเละความผิดอื่น
ขณะที่พันตำรวจเอกกฤษณะ กล่าวว่า วันที่ 15 สิงหาคม ที่มีการนัดชุมนุมคาร์ปาร์คในกรุงเทพฯ เเละมีการชุมนุมในต่างจังหวัดคู่ขนาน นอกจากจะเป็นการกระทำผิดกฎหมายเเล้ว ยังผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เละ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ซึ่งทางตำรวจมีการเตรียมความพร้อมรับมือ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย หากพบการกระทำผิดกฎหมาย ก็ต้องถูกดำเนินคดี ถึงเเม้จะยังไม่ดำเนินคดีในทันที เเต่ตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานเเละดำเนินคดีภายหลัง.-สำนักข่าวไทย