ตำรวจสลายกลุ่มผู้ชุมนุมแยกดินแดง

กรุงเทพฯ 7 ส.ค.- การเผชิญหน้าระหว่างตำรวจและผู้ชุมนุมกลุ่ม “Redem” เป็นไปอย่างตึงเครียด เพราะมีการใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยาง เพื่อสกัดกั้นผู้ชุมนุมไม่ให้เดินทางไปที่หน้าบ้านพักของนายกรัฐมนตรี และล่าสุดบานปลายมีการเผารถตำรวจแล้ว


เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยาง เพื่อสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ให้เคลื่อนขบวนไปยังบริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 1 ถนนวิภาวดี-รังสิต ซึ่งเป็นบ้านพักของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เบื้องต้นพบผู้บาดเจ็บจากแก๊สน้ำตาและกระสุนยางน้อย 3 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นกลุ่มผู้ชุมนุม 

สำหรับจุดสกัดกั้นของตำรวจอยู่ที่บริเวณทางโค้งเข้าสู่ถนนวิภาวดี-รังสิต โดยมีการวางตู้คอนเทนเนอร์ไว้ในชั้นแรก พร้อมกับนำรถเครื่องขยายเสียงเข้าไปจอดบริเวณใต้ทางด่วนดินแดง ก่อนถึงจุดปะทะประมาณ 100 เมตร โดยมีการประกาศแจ้งเตือนให้ผู้ชุมนุมสลายการชุมนุมอย่างต่อเนื่อง


ทั้งนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ตำรวจได้เดินหน้าสลายการชุมนุม โดยมีการยิงแก๊สน้ำตาอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดบริเวณถนนวิภาวดี-รังสิต ฝั่งขาออกได้ปิดการจราจร และตำรวจได้จัดกำลังพลเข้าสนับสนุนแนวกั้น รวมถึงมีรถฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าไปสแตนด์บาย ส่วนที่หน้ากองพันทหารราบที่ 1 มหาดเล็กพระองค์ได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งคอยเฝ้าดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ขณะที่แกนนำประกาศให้ผู้ชุมนุมระมัดระวังตัว พร้อมประกาศจุดยืนที่ชัดเจนว่าการมารวมตัววันนี้ (7 ส.ค.) เพื่อขับไล่นายกรัฐมนตรีและเปิดทางให้บุคคลที่มีความสามารถมาบริหารบ้านเมืองแทน พร้อมกันนี้ยังเรียกร้องให้นำเงินมาจัดหาซื้อวัคซีนชนิด mRNA มาฉีดให้ประชาชนทั่วประเทศโดยไม่ต้องลงทะเบียน 

ปรากฏว่าเวลา 17.15 น. ผู้ชุมนุมได้ประกาศถอยร่อนออกจากสามเหลี่ยมดินแดงจุดที่มีการปะทะ ก่อนไปปักหลักทำกิจกรรมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ส่วนตำรวจ​ประกาศ​ให้นักข่าวออกจากแนวปะทะ พร้อมยิงแก๊สน้ำตาต่อเนื่อง จากนั้นปรากฏว่าชุดควบคุม​ฝูงชน​ได้ตั้งแนวหน้ากระดานผลักดันผู้ชุมนุมกลับไปรวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยมีการตีโอบ 3  ด้านทั้งที่สามเหลี่ยม​ดินแดง, พญาไท และราชปรารภ ก่อนใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดใส่ผู้ชุมนุม 


ล่าสุดสถานการณ์เริ่มบานปลาย เพราะที่แยกราชปรารภ พบผู้ชุมนุมบางส่วนไม่พอใจได้ทำการเผายางรถยนต์ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยิงแก๊สน้ำตาใส่ ก่อนที่ผู้ชุมนุมจะถอยรถออกมาจากถนนราชปรารภไปรวมกับผู้ชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิปรากฏว่ากลุ่มผู้ชุมนุมได้เผารถควบคุมผู้ต้องหาของตำรวจอีกด้วย

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเที่ยง ได้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างผู้ชุมนุม และตำรวจมาแล้วครั้งหนึ่งที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยตำรวจได้ตั้งแถวเดินเรียงหน้าเข้ากดดันผู้ชุมนุมให้ถอยร่อนออกจากพื้นที่ ก่อนที่ผู้ชุมนุมจะออกไปตั้งหลักที่สะพานชมัยมรุเชษฐ

จากนั้นผู้ชุมนุมได้นัดหมายเดินไปยังทำเนียบรัฐบาล ซึ่งในเวลาต่อมาได้แจ้งปรับเปลี่ยนเส้นทางไม่ไปทำเนียบรัฐบาล แต่ให้ไปรวมพลที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก่อนมุ่งหน้าไปที่บริเวณหน้าบ้านพักของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ภายในกรมทหารราบที่ 1 ถนนวิภาวดี-รังสิต 

ขณะที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา 8 คน พร้อมของกลางเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล 1 คัน และรถพยาบาล 1 คัน จากกลุ่มการ์ด “วีโว่” รวมถึงของกลางอื่นๆ อาทิ พลุไฟ สิ่งเทียมวัตถุระเบิด หัวน๊อต หนังสติ๊ก วิทยุสื่อสาร เกราะอ่อนพลาสติก รวมถึงหมวกนิรภัย หน้ากากป้องกันแก๊สน้ำตา และน้ำเกลือ

พลตำรวจโทภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงว่าเจ้าหน้าที่ยึดรถได้ที่วัดมหรรณพารามวรวิหาร และตรอกข้าวสาร คาดว่าเตรียมใช้ก่อเหตุในการชุมนุม จึงให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นและจับกุมผู้ชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ 

อย่างไรก็ตาม ตำรวจเตรียมดำเนินคดีในข้อหาผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และเป็นอั้งยี่ซ่องโจร พร้อมขยายผลหาผู้กระทำผิดคนอื่นๆ นอกเหนือจากผู้ต้องหา 8 คนดังกล่าว โดยอุปกรณ์ที่ได้ทำการจับกุมไว้นั้น เชื่อว่าจะใช้สำหรับเตรียมก่อเหตุรุนแรงกับเจ้าหน้าที่จริง และเมื่อช่วงเช้ามีการยึดรถบรรทุกสิ่งปฏิกูล 5 คันเตรียมเข้ามาในพื้นที่ชุมนุม แต่ได้ควบคุมไว้แล้วและยังอยู่ระหว่างสอบสวน.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สีสันวันมงคล ครม.

26 ก.ย. – นายกรัฐมนตรีถือฤกษ์ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเข้าไปปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการครั้งแรก ขณะที่ยังมีรัฐมนตรีอีกหลายคนเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน แต่ละคนถือเคล็ดต่างกันไป สีสันวันมงคล ครม. -สำนักข่าวไทย

จารึกนาม “16 ทหารกล้า” แนวหน้าชายแดนไทย-กัมพูชา

26 ก.ย. – กองทัพบก จัดพิธีจารึกนาม และสดุดีกำลังพล ผู้สละชีพเพื่อชาติ จากกรณีพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชา อย่างสมเกียรติ.-สำนักข่าวไทย

รอปูนแข็งตัว 6 ชม. แล้วเทซ้ำ วนไปจนถึงวันอาทิตย์

กทม. 26 ก.ย. – ผู้รับเหมาปรับแผน การเทปูนลงหลุมยักษ์ เป็นการเทตามวงรอบ 6 ชั่วโมง เว้น 6 ชั่วโมง เพื่อให้ปูนแข็งตัว โดยปูนที่เทลงไปก่อนหน้าได้ไปอุดช่องโหว่ในจุดที่จะเสี่ยงให้เกิดดินสไลด์ได้ทั้งหมด 100% แล้ว คาดการเทปูน จะจบตามแผนภายในวันอาทิตย์นี้.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย