กทม.-23 มิ.ย.- สุดเศร้า ครอบครัวรับศพ”น้องนาเดียร์”วัย 2 ขวบ โดยพี่สะใภ้อยู่กับเด็กก่อนพบเป็นศพ โดยไม่สามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตได้
นางสาวสุรินทร์ แอบเสมา อายุ 30 ปี และนายอัมพล ลือบางใหญ่ อายุ 34 ปี แม่และพ่อ ของ ด.ญ.ธาราลักษ์ ลือบางใหญ่ อายุ 2 ปี น้องนาเดียร์ พร้อมนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เดินทางเข้ารับศพน้องนาเดียร์ ที่ นิติเวช รพ.ตำรวจ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ
พันตำรวจเอกวาที อัศวุตมางกุร โฆษกสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เปิดเผยผลการชันสูตรเบื้องต้นว่า ไม่สามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตได้ เนื่องจากสภาพศพมีการเปลี่ยนแปลงหลังการตายอย่างมาก เพราะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 วัน และไม่พบความผิดปกติที่ปอดและอวัยวะอื่นๆ ซึ่งทำให้ไม่สามารถระบุได้ว่าจมน้ำเสียชีวิตหรือไม่ โดยตัดชิ้นเนื้ออวัยวะภายใน อาทิ ปอด ตับ หัวใจ ไปตรวจพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการอย่างละเอียด เพื่อให้ทราบสาเหตุว่าเป็นการจมน้ำเสียชีวิตหรือไม่ จะดูว่าพบสิ่งแปลกปลอม เช่น เศษดิน หรือ ตะไคร่น้ำหรือการสำลักน้ำหรือไม่ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 30 วัน ส่วนสภาพร่างกายภายนอกเท่าที่ตรวจสอบไม่พบบาดแผลที่นำไปสู่การเสียชีวิต
ด้านบิดาและมารดาน้องนาเดียร์ เผยหลังทราบผลการชันสูตรของลูก โดยยอมรับว่ายังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูก เพราะพฤติกรรมของนางเจี๊ยบพี่สะใภ้น่าสงสัย หลังน้องนาเดียร์เสียชีวิต เหตุใดพี่สะใภ้ไม่พาน้องนาเดียร์ไปส่งโรงพยาบาล แต่กลับนำไปฝังดิน และตอนพาออกจากบ้านก็ไม่บอกว่าจะพาไปไหนซึ่งผิดสังเกต
นอกจากนี้ หลังเกิดเหตุคนข้างบ้านได้มาพูดทำนองว่า ทำไมจึงฝากให้คนนี้เลี้ยงลูก ไม่รู้เหรอว่าเขาเป็นคนอย่างไร ก็รู้สึกยังเอะใจว่าทำไมพูดแบบนี้
ทั้งนี้หลังเกิดเหตุพี่สะใภ้ ได้โทรศัพท์มาขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ตนและครอบครัวไม่พร้อมที่จะให้อภัยไม่อยากพูดคุยด้วยอีกแล้ว ที่ผ่านมาพี่สะใภ้เลี้ยงลูกให้ไม่เคยมีปัญหาอะไรและไม่เคยเห็นมีแผลหรือได้รับบาดเจ็บหนัก เคยเห็นเพียงรอยฟกช้ำที่อาจเกิดจากการหกล้ม อย่างไรก็ตามไม่ปักใจเชื่อว่าพี่สะใภ้จะก่อเหตุคนเดียว การจะทำแบบนี้ได้จะไม่มีใครรู้เห็นเลยเป็นไปไม่ได้ หรือถ้าเข้าสามารถฝังเด็กคนหนึ่งได้ ด้วยตัวคนเดียวถือว่าเก่งมาก
ด้าน นางปวีณา เปิดเผยว่า จะติดตามคดีนี้และให้การช่วยเหลือครอบครัวของน้องนาเดียร์ เบื้องต้นได้มอบเงินช่วยฌาปนกิจจำนวน 10,000 บาท ให้แม่น้องนาเดียร์ และวางแผนว่าหลังจากงานฌาปนกิจเสร็จสิ้น นางสุรินทร์ จะรับน้องโมเดล ลูกสาววัย 4 ขวบ มาดูแลเองในกรุงเทพฯซึ่งตน จะประสานกระทรวงศึกษาธิการจัดหาสถานศึกษาให้ พร้อมทั้งประสานกระทรวงยุติธรรมเพื่อยื่นขอรับเงินเยียวยา และประสานหัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จังหวัดราชบุรี เข้าช่วยเหลือ ส่วนเรื่องคดีความจากการได้พูดคุยเจ้าของคดี ทราบว่าตอนนี้คดีอยู่ระหว่างสืบสวนและสอบปากคำพี่สะใภ้อีกครั้งและอาจต้องให้สหวิชาชีพสอบพี่สาววัย 4 ขวบของน้องนาเดียร์ด้วย เนื่องจากเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ และต้องรอหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งนี้ครอบครัวของน้องนาเดียร์ประสงค์ที่จะนำพี่สาวคนโตวัย 4 ขวบ มาเลี้ยงเองที่กรุงเทพฯ ซึ่งทางมูลนิธิฯจะเป็นผู้ประสานงานทั้งเรื่องการเป็นอยู่และการศึกษา และยังจะเป็นตัวกลางในการติดตามความคืบหน้าของคดีต่อไปด้วย
สำหรับร่างไร้วิญาณของน้องนาเดียร์ ทางพ่อและแม่จะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดหลักหก อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี .-สำนักข่าวไทย