กรุงเทพฯ 6 พ.ค. – ศาลอาญาตลิ่งชันอนุมัติหมายจับ “เด่นภูมิ” แอบอ้างตัวเป็นโมเดลลิ่ง ล่อลวงพริตตี้สาวไปบังคับเสพยาก่อนขืนใจ และถ่ายคลิปวิดีโอเหยื่อไว้หลายคน
พ.ต.อ.โชคชัย คณะเจริญ ผกก.สน.บวรมงคล เปิดเผยว่า ศาลอาญาตลิ่งชันได้อนุมัติหมายจับนายเด่นภูมิ วัฒนโชติภิญโญ อายุ 39 ปี ผู้แอบอ้างตัวเป็นโมเดลลิ่ง ล่อลวงพริตตี้สาวไปบังคับเสพยาก่อนขืนใจ และถ่ายคลิปวิดีโอเหยื่อไว้หลายคน โดยตำรวจแจ้ง 4 ข้อหา คือ ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น, ข่มขืนใจให้กระทำใดโดยไม่ยินยอม, ทำร้ายร่างกายผู้อื่น และหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพ
นี่เป็นหมายจับนายเด่นภูมิในคดีที่ไปก่อเหตุกับผู้เสียหายในท้องที่ สน.บวรมงคล นอกจากนี้ยังมีพริตตี้ที่ตกเป็นเหยื่อเข้าแจ้งความที่ สน.ประชาชื่น โดยพนักงานสอบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับนายเด่นภูมิเช่นกัน และวันเสาร์นี้ (8 พ.ค.) มีหญิงสาวผู้เสียหายที่ถูกนายเด่นภูมิหลอกในลักษณะเดียวกันจะเข้าแจ้งความที่ สน.บางขุนเทียน เช่นกัน
ขณะเดียวกันตำรวจทั้ง 3 สน. และกองสืบนครบาล ได้ประสานแลกเปลี่ยนข้อมูลในการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา เพื่อเร่งติดตามคนร้ายให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะมีพฤติการณ์เป็นภัยสังคม
ทั้งนี้ พบว่านายเด่นภูมิเคยมีคดีเเล้ว 5 คดี แบ่งเป็นพื้นที่ สน.บางพลัด 3 คดี ได้เเก่ คดีเสพยาเสพติด กรรโชกทรัพย์ เเละชิงทรัพย์, สน.พหลโยธิน คดีเสพยาเสพติด และ สภ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ข้อหานำเข้าภาพลามกอนาจารสู่ระบบคอมพิวเตอร์
ส่วนการตามล่าตัวนายเด่นภูมิ เบื้องต้นพบว่ายังวนเวียนอยู่ในพื้นที่นนทบุรี และฝั่งธนบุรี และยังพบว่าในห้วงเวลาที่นายเด่นภูมิหลบหนีอยู่ ได้ตระเวนขอเงินทั้งญาติและคนที่รู้จัก เพื่อใช้ในการหลบหนี จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่านายเด่นภูมิได้เข้าไปกดเงินภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านบางพลัด ตำรวจคาดว่านายเด่นภูมิยังคงวนเวียนอยู่ในละแวกฝั่งธนบุรี กรุงเทพมหานคร และ จ.นนทบุรี เนื่องจากนายเด่นภูมิเคยถูกดำเนินคดีมาหลายครั้ง จึงพอรู้ทางหนีทีไล่ ทำให้ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมตัวได้
นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่อ้างถึงตำรวจนายหนึ่งปล่อยตัวนายเด่นภูมิไป เเลกกับเงิน 20,000 บาท ในวันที่นางสาวฟ้า (นามสมมติ) หนึ่งในผู้เสียหาย เข้าเเจ้งความเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม โดยนาวสาวฟ้าระบุว่าในวันนั้นตำรวจได้นำตัวนายเด่นภูมิมาสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น จากนั้นก็ปล่อยตัวไป ไม่ดำเนินคดี จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าตำรวจนายดังกล่าวเป็นตำรวจฝ่ายสอบสวน สังกัด สน.บางขุนเทียน ซึ่งวันที่ผู้เสียหายมาเเจ้งความ ตำรวจนายนี้ได้พูดคุยกับผู้เสียหายจริง เนื่องจากเห็นว่าผู้เสียหายเเสดงความไม่พอใจ เพราะเข้าใจว่าตำรวจไม่ดำเนินคดี เเถมยังปล่อยตัวนายเด่นภูมิไป ตำรวจนายดังกล่าวจึงอาสาเป็นคนกลางโทรศัพท์ไปหาผู้ต้องหา ซึ่งผู้ต้องหายืนยันว่าไม่ได้หนี แต่กำลังนำทองไปขาย เพื่อนำเงิน 20,000 บาท มาชดใช้ให้ผู้เสียหาย ตำรวจนายดังกล่าวจึงเเจ้งกับผู้เสียหายไปเช่นนั้น เเต่เเล้วมาทราบภายหลังว่าไม่เป็นไปตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง
ตำรวจนายดังกล่าวยังยืนยันว่า ไม่มีการเรียกรับเงินเเลกกับการปล่อยตัวผู้ต้องหาตามที่เข้าใจ โดยในวันเกิดเหตุก็ไม่ได้เข้าเวร เเต่เพียงต้องการช่วยหาทางออกปัญหาที่เกิดขึ้นเท่านั้น ซึ่งตำรวจนายดังกล่าวจะเข้าชี้เเจงกับพันตำรวจเอกวิศิษฐ์ สังขนันท์ ผู้กำกับการ สน.บางขุนเทียน ในวันพรุ่งนี้.-สำนักข่าวไทย