ปฏิบัติการ 25 ชม. กู้ร่างผู้ติดใต้ซากบ้านถล่มครบ 5 ราย

กรุงเทพฯ 4 เม.ย.-25 ชั่วโมงสำหรับการค้นหาร่างผู้รอดชีวิตและเสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้และบ้านถล่ม ล่าสุดช่วง 8 โมงเช้า เจ้าหน้าที่สามารถนำร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดออกมาได้แล้ว

พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ เปิดเผยว่า การค้นหาร่างผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่บ้านกฤษดานคร31 ถนนบรมราชชนนี เขตทวีวัฒนาที่ถูกเพลิงไหม้และถล่มลงมา ตลอดทั้งวันและทั้งคืน แม้เป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่การทำงานอย่างหนัก ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถนำร่างผู้เสียชีวิต คือ นายธนภพ ประไพ อายุ 44 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยออกมาได้เป็นคนแรก ก่อนทยอยนำร่างอีก 4 คน คือ นายสมัชชา นิลธง อายุ 48 ปี นายอรรถพล ท้วมทอง อายุ 26 ปี นายสุทัศน์ เปลี่ยนกลัด อายุ 38 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัย และนายเกียรติ แพทเตอร์สัน ผู้ที่อาศัยอยู่ภายในบ้าน ออกมาได้แล้ว


หากไล่เรียงเหตุการณ์ตั้งแต่เวลา 05.1 น.ของวานนี้ (3 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีบ้าน 3 ชั้นเกิดเหตุเพลิงไหม้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงระดมกำลังเข้าฉีดน้ำสกัดเพลิง และประสานกู้ภัยเข้าช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ภายใน แต่กลับเกิดเหตุไม่คาดคิด เพราะขณะกำลังฉีดน้ำและช่วยเหลือผู้ติดค้างได้เกิดมีเสียงปูนดังลั่นขึ้น และเพียงเสี้ยววินาที บ้านทั้งหลังได้พังถล่มลงมา ทำให้เจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายนอกวิ่งหนีตาย ขณะที่อาสามัครกู้ภัยที่ยังอยู่ในตัวบ้านถูกตัวบ้านถล่มทับร่างเจ้าหน้าที่ต้องใช้โดรนบินตรวจจับความร้อนหาผู้รอดชีวิต อย่างไรก็ตาม ใช้เวลาไม่นาน เจ้าหน้าที่สามารถนำร่างไร้ลมหายใจของนายธนภพ ประไพ หนึ่งในเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยที่เข้าปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณด้านหลังบ้านออกมาได้ 1 คน

จากนั้นเวลา 11.39 น. การใช้อุปกรณ์ชนิดพิเศษตรวจจับความเคลื่อนไหวและสัญญาณเสียงภายในตัวบ้านที่พังถล่ม พร้อมแจ้งให้ทุกคนที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ หยุดการเคลื่อนไหว ห้ามใช้เสียง เพื่อทำให้บริเวณดังกล่าวเงียบที่สุด ได้พบสัญญาณชีพของผู้ที่ติดอยู่ในบ้าน ทำให้เจ้าหน้าที่เริ่มมีความหวังในการกู้ชีพ แต่ในช่วงเวลาดังกล่าวยังบอกไม่ได้ว่าคนที่สื่อสารเป็นใคร เพราะการโต้ตอบใช้การเคาะส่งสัญญาณเท่านั้น


12.00 น. วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย เข้ามาช่วยใช้กล้องวัดมุม และประเมินองศาการเคลื่อนตัวของบ้าน เพื่อป้องกันการถล่มซ้ำกรณีที่กู้ภัยเข้าไปค้นหาผู้รอดชีวิต ซึ่งตอนนั้น มีการห้ามเคลื่อนย้ายอิฐหรือผนังที่ขวางทับกันอยู่ออก ป้องกันบ้านขยับตัว แต่ได้ใช้การเจาะชนิดพิเศษ และกล้องส่อง ค้นหาผู้ติดอยู่ใต้ซากด้วย

จากนั้น ตลอดทั้งวัน เจ้าหน้าที่ยังพยายามค้นหาสัญญาณชีพของผู้ติดอยู่ใต้ซากอย่างต่อนื่อง จนถึงช่วงหัวค่ำเจ้าหน้าที่ไม่พบสัญญาณชีพเพิ่มเติม จึงได้ตัดสินใจหยุดปฏิบัติการค้นหาสัญญาณชีพ และเริ่มเดินหน้าค้นหาผู้เสียชีวิตภายในบ้านแทน โดยมีการนำรถแบ็คโฮขนาดใหญ่เข้ามาเคลียร์พื้นที่

ช่วง 23.00 น. ผู้ว่าฯ อัศวิน กางแผนที่ตรวจดูจุดที่คาดว่าผู้เสียชีวิตจะติดค้างอยู่อีกครั้ง และสันนิษฐานว่า น่าจะอยู่ส่วนกลางของตัวบ้าน เจ้าหน้าที่จึงระดมสรรพกำลังวางแผนเปิดปฏิบัติการค้นหาอีกครั้ง ทั้งส่งผู้เชี่ยวชาญในการค้นหาผู้ติดอยู่ในอาคารถล่ม และทีมกู้ภัย กู้ชีพ ระดมค้นหา พร้อมกับนำอุปกรณ์ตรวจจับสัญญาณต่างๆ มาใช้ และตี 1 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถพบร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 4 คนที่ติดอยู่ในตัวบ้านได้แล้ว แต่การนำร่างออกมายังเสี่ยงต่อการทรุดตัวของบ้าน เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้มือขุดเป็นโพรงแล้วนำเครื่องตัดถ่างเข้าไปง้างเหล็กที่ทับร่างผู้เสียชีวิตให้ถ่างออก กระทั่งได้ความกว้างพอที่จะนำร่างผู้เสียชีวิตหลุดออกมาได้ จึงค่อยๆ ลำเลียงออกมาจากตัวบ้าน โดยคนแรกที่พบในช่วงกลางคืนนี้ คือ นายสุทัศน์ เปลี่ยนกลัด อายุ 38 ปี อาสาสมัครกู้ภัย ซึ่งผู้ว่าฯ อัศวิน ได้นำธงชาติมาคลุมร่างให้อย่างสมเกียรติ โดยยกย่องเป็นวีรบุรุษผู้กล้า ส่วนร่างของผู้เสียชีวิตที่เหลืออีก 3 คน ประกอบด้วยอาสามัครกู้ภัย 2 คน และคนที่อาศัยอยู่ในบ้านอีก 1 คนติดอยู่ในชั้นที่ลึกกว่ารายอื่น ๆ อุปสรรคสำคัญคือไม่สามารถนำเครื่องจักรหนักเข้าไปยังจุดที่กำหนดได้ เพราะมีคานปูนวางทับอยู่ ประกอบกับแผ่นปูนวางเป็นลักษณะคล้ายกับขนมชั้น วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย จึงห่วงว่าหากเคลื่อนย้ายออกอาจกระทบกับร่างผู้เสียชีวิต จึงสั่งเพิ่มความระมัดระวังในการทำงานมากขึ้น


ทั้งนี้หลังการทุ่มเทอย่างหนัก 06.28 น. รถแบ็กโฮสามารถเปิดแผ่นปูนนำร่างผู้เสียชีวิต 2 คน ประกอบด้วย นายสมัชชา นิลธง อายุ 48 ปี อาสาสมัครกู้ภัย และนายอรรถพล ท้วมทอง อายุ 26 ปี อาสาสมัครกู้ภัย ออกมาได้สำเร็จ และเวลา 08.25 น. ผู้เสียชีวิตที่ติดค้างอยู่เป็นรายสุดท้ายภายในบ้าน คือ นายเกียรติ แพตเตอร์สัน อายุ 35 ปี ผู้พักอาศัย เจ้าหน้าที่ก็สามารถลำเลียงออกมาจากซากบ้านที่ถล่มได้แล้ว โดยทั้งหมดถูกนำส่งสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลศิริราช รอให้ญาติมารับร่างกลับไปบำเพ็ญกุศล

เหตุการณ์นี้ นายธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย หรือ วสท. ยอมรับว่า สาเหตุที่บ้านถล่ม ยังยืนยันไม่ได้ว่า เกิดจากการที่เพลิงไหม้เป็นสาเหตุหลักหรือไม่ แต่เบื้องต้นยืนยันได้แน่นอนว่า เปลวเพลิงเป็นชนวนนำไปสู่การถล่ม เพราะการตรวจสอบเบื้องต้นพบค่าความร้อนไม่ต่ำกว่า 70 องศาเซลเซียส ทำให้ต้องพรมน้ำช่วยเป็นระยะ แต่จะไม่ฉีดน้ำเด็ดขาด ส่วนบ้านเรือนข้างเคียงให้อพยพชั่วคราว

ขณะที่ นายพรเลิศ เพ็ญพาส ผู้อำนวยการเขตทวีวัฒนา ระบุว่าเขตกำลังตรวจสอบใบขออนุญาตและการออกเลขบ้าน เพื่อตรวจสอบว่า บ้านนี้ปลูกสร้างมาปีไหน แต่เบื้องต้นทราบแน่ๆ ว่าบ้านหลังนี้มีอายุมากกว่า 10 ปี และแจ้งเป็นลักษณะบ้านพักอาศัย แต่ทำธุรกิจลักษณะขายอุปกรณ์ว่ายน้ำ ชุดว่ายน้ำ รวมถึงไม่พบการต่อเติมบ้าน ส่วนเจ้าของบ้านก็ไม่อาศัยอยู่ที่นี่ ให้ลูกจ้างเฝ้า สาเหตุเชื่อว่าไม่ใช่เป็นเพราะบ้านเก่าอย่างเดียวแต่อาจมีเรื่องความร้อน การขยายตัวของเหล็ก น้ำหนักการฉีดน้ำ การก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ต้องให้วิศวกรรมสถานเข้าตรวจสอบอีกครั้ง

ด้าน ผู้ประสบภัยที่พักอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว และรอดชีวิตออกมาได้ก่อนที่ตึกจะถล่ม ให้ข้อมูลว่า ต้นเพลิงอยู่ที่ตู้พัก รปภ.เก่า ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นห้องเก็บของ เก็บที่นอนเก่า และติดตั้งปั๊มลมสำหรับฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ ซึ่งเสียบปลั๊กไว้ตลอดเวลา แต่ส่วนตัวไม่ทราบสาเหตุการเกิดประกายไฟ เห็นเพียงว่าประกายไฟลุกลามเร็วมาก พร้อมยืนยันว่าบ้านหลังดังกล่าวในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้ต่อเติมดัดแปลงตัวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

น้ำทะลักท่วม 4 ชุมชนริมน้ำแม่สาย เดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน

เชียงราย 28 ก.ค. – สถานการณ์น้ำท่วมแม่สายยังวางใจไม่ได้ หลังมวลน้ำจากต้นน้ำแม่สายที่เมียนมา สูงขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งวัน จนน้ำสายทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชน 4 ชุมชน ชาวบ้านเดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน บริเวณสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 เจ้าหน้าที่นำรถแบ็กโฮแขนยาวมาตักเศษไม้เศษสวะที่ขวางทางน้ำ ซึ่งระดับน้ำในลำน้ำสายที่กั้นพรมแดนไทย-เมียนมา เพิ่มสูงจนเกือบล้นขึ้นมาบนสะพานแล้ว แต่ยังอยู่ต่ำกว่าแนวป้องกันน้ำท่วมที่ทางกรมการทหารช่างสร้างไว้ แต่น้ำไหลเชี่ยวกราก พัดเอาเศษไม้เศษขยะซัดกระแทกสะพานอย่างอย่างต่อเนื่อง โดยน้ำในลำน้ำสายทรงตัวสูงมาหลายชั่วโมงแล้ว หลังทะลักเข้าท่วมหลายชุมชนชายแดนแม่สายซ้ำรอยปีที่แล้ว แม้ระดับน้ำและสถานการณ์ยังไม่หนักเท่า แต่ต้องเฝ้าระวัง ขณะที่ทางฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็ก ของเมียนมา กำลังถูกน้ำท่วมหนัก จนต้องปิดด่านชายแดนไปก่อน และน้ำที่ผ่านไหลสะพานตอนนี้ ถือว่าเป็นมวลน้ำก่อนใหญ่ก้อนสุดท้ายที่ไหลมาจากต้นน้ำที่หมู่บ้านโจตาดา ประเทศเมียนมา ที่อยู่ห่างจากสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 ไปกว่า 30 กิโลเมตร หากผ่านพ้นค่ำคืนนี้ไปได้และไม่มีฝนตกหนักทางต้นน้ำน่าจะพอเบาใจได้ นายอำเภอแม่สายบอกว่า ตอนนี้อพยพประชาชนกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงไปอยู่ตามศูนย์พักพิงและพื้นที่ปลอดภัยแล้ว.-สำนักข่าวไทย

น้ำยืนเดือด ระเบิดตก 8 ลูก วัวตาย 1 ตัว

อุบลราชธานี 28 ก.ค. – ตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมา พื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ยังมีรายงานเสียงปืนใหญ่ดังต่อเนื่อง จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ข้ามตกข้ามมายังฝั่งไทย ทำให้พื้นที่การเกษตรเสียหาย วัวของชาวบ้านตาย 1 ตัว ช่วงบ่ายที่ผ่านมา จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ตกยังพื้นที่สวนปาล์ม จากนั้นเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปตรวจสอบพบความเสียหายจากแรงระเบิดหลายจุด อีกทั้งยังทำให้วัวตาย 1 ตัว ด้านเจ้าของวัวได้ให้ข้อมูลว่า แถวหมู่บ้านไม่เคยพบกระสุนเข้ามาตกในพื้นที่ ขณะเกิดเหตุตนกำลังเกี่ยวหญ้าให้วัว ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น รู้สึกตกใจมาก รีบวิ่งไปดูวัว ซึ่งต่อมาได้ตายระหว่างเคลื่อนย้ายอพยพ อีกทั้งเป็นที่น่าสังเกตว่าเวลา 15.00 น. ซึ่งมีการเริ่มการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา ที่ประเทศมาเลเซีย เสียงปืนได้สงบลงประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นเมื่อเวลา 16.00 น. ก็เริ่มได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังกึกก้องต่อเนื่องอีกครั้ง ส่วนบรรยากาศในตลาดสดแห่งหนึ่งในพื้นที่ปะทะ ยังมีกลุ่มพ่อค้าจิตอาสาช่วยกันจัดเตรียมอาหาร เพื่อนำอาหารไปแจกจ่ายแก่ผู้นำชุมชนรวมถึงเจ้าหน้าที่ โดยได้ตั้งโรงครัว […]

ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องหยุดยิงคืนนี้เวลา 24.00 น.

มาเลยเซีย 28 ก.ค.-ผลหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เห็นพ้องหยุดยิงคืนนี้ เวลา 24.00 น. และกลับไปใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง แถลงการณ์ร่วมต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับการประชุมพิเศษที่มาเลเซียเป็นเจ้าภาพ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันระหว่างกัมพูชาและไทย รัฐบาลของประเทศมาเลเซีย กัมพูชา และไทย ได้ออกแถลงการณ์ร่วมฉบับนี้ ภายหลังจากการประชุมพิเศษที่จัดขึ้น ณ เมืองปูตราจายา ประเทศมาเลเซีย โดยมีนายกรัฐมนตรี ดาโต๊ะ ซรี อันวาร์ อิบราฮิม เป็นประธาน เจ้าภาพ และผู้ร่วมสังเกตการณ์ พร้อมด้วยนายกรัฐมนตรีสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนด แห่งกัมพูชา และรองนายกรัฐมนตรีรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย โดยมีสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ร่วมจัด และสาธารณรัฐประชาชนจีนเข้าร่วมอย่างแข็งขัน เพื่อส่งเสริมการแก้ไขสถานการณ์ด้วยสันติวิธี นายกรัฐมนตรีฮุน มาแนด และรองนายกรัฐมนตรีภูมิธรรม เวชยชัย ได้แสดงจุดยืนและความตั้งใจที่จะหยุดยิงโดยทันที และคืนสู่สภาวะปกติ ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ติดต่อกับผู้นำของทั้งสองประเทศเพื่อเรียกร้องให้หาทางออกอย่างสันติ ส่วนฝ่ายจีนก็ได้ติดต่ออย่างใกล้ชิดกับกัมพูชา ไทย มาเลเซีย และประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมการเจรจา การหยุดยิง และการฟื้นฟูสันติภาพ การมีส่วนร่วมและความร่วมมือของทุกฝ่ายสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในการสร้างสันติภาพ […]

ทหารไทยบึ้มเสาสัญญาณเครือข่าย smart

ศรีสะเกษ 28 ก.ค.-เปิดภาพทหารไทยบึ้มเสาสัญญาณเครือข่าย smart ใช้โดรนทิ้งบอมบ์ที่ตั้งทางทหารกัมพูชา พื้นที่ภูมะเขือ เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ภายหลังทหารไทยเข้ายึดพื้นที่ได้ทั้งหมด และมีการทำลายกระเช้าและบันได ที่ทหารกัมพูชาใช้เป็นเส้นทางในการขึ้นมาบนภูมะเขือ ล่าสุดทหารไทยใช้ระเบิดทำลายเสาสัญญาณเครือข่าย smart ของกัมพูชาบนยอดภูมะเขือ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ กองทัพบก ยังเผยแพร่คลิปการใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีที่ตั้งทางทหารของฝ่ายกัมพูชา บริเวณด้านล่างภูมะเขือ.-313.-สำนักข่าวไทย