fbpx

ปฏิบัติการ 25 ชม. กู้ร่างผู้ติดใต้ซากบ้านถล่มครบ 5 ราย

กรุงเทพฯ 4 เม.ย.-25 ชั่วโมงสำหรับการค้นหาร่างผู้รอดชีวิตและเสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้และบ้านถล่ม ล่าสุดช่วง 8 โมงเช้า เจ้าหน้าที่สามารถนำร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดออกมาได้แล้ว

พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ เปิดเผยว่า การค้นหาร่างผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่บ้านกฤษดานคร31 ถนนบรมราชชนนี เขตทวีวัฒนาที่ถูกเพลิงไหม้และถล่มลงมา ตลอดทั้งวันและทั้งคืน แม้เป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่การทำงานอย่างหนัก ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถนำร่างผู้เสียชีวิต คือ นายธนภพ ประไพ อายุ 44 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยออกมาได้เป็นคนแรก ก่อนทยอยนำร่างอีก 4 คน คือ นายสมัชชา นิลธง อายุ 48 ปี นายอรรถพล ท้วมทอง อายุ 26 ปี นายสุทัศน์ เปลี่ยนกลัด อายุ 38 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัย และนายเกียรติ แพทเตอร์สัน ผู้ที่อาศัยอยู่ภายในบ้าน ออกมาได้แล้ว


หากไล่เรียงเหตุการณ์ตั้งแต่เวลา 05.1 น.ของวานนี้ (3 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีบ้าน 3 ชั้นเกิดเหตุเพลิงไหม้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงระดมกำลังเข้าฉีดน้ำสกัดเพลิง และประสานกู้ภัยเข้าช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ภายใน แต่กลับเกิดเหตุไม่คาดคิด เพราะขณะกำลังฉีดน้ำและช่วยเหลือผู้ติดค้างได้เกิดมีเสียงปูนดังลั่นขึ้น และเพียงเสี้ยววินาที บ้านทั้งหลังได้พังถล่มลงมา ทำให้เจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายนอกวิ่งหนีตาย ขณะที่อาสามัครกู้ภัยที่ยังอยู่ในตัวบ้านถูกตัวบ้านถล่มทับร่างเจ้าหน้าที่ต้องใช้โดรนบินตรวจจับความร้อนหาผู้รอดชีวิต อย่างไรก็ตาม ใช้เวลาไม่นาน เจ้าหน้าที่สามารถนำร่างไร้ลมหายใจของนายธนภพ ประไพ หนึ่งในเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยที่เข้าปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณด้านหลังบ้านออกมาได้ 1 คน

จากนั้นเวลา 11.39 น. การใช้อุปกรณ์ชนิดพิเศษตรวจจับความเคลื่อนไหวและสัญญาณเสียงภายในตัวบ้านที่พังถล่ม พร้อมแจ้งให้ทุกคนที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ หยุดการเคลื่อนไหว ห้ามใช้เสียง เพื่อทำให้บริเวณดังกล่าวเงียบที่สุด ได้พบสัญญาณชีพของผู้ที่ติดอยู่ในบ้าน ทำให้เจ้าหน้าที่เริ่มมีความหวังในการกู้ชีพ แต่ในช่วงเวลาดังกล่าวยังบอกไม่ได้ว่าคนที่สื่อสารเป็นใคร เพราะการโต้ตอบใช้การเคาะส่งสัญญาณเท่านั้น


12.00 น. วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย เข้ามาช่วยใช้กล้องวัดมุม และประเมินองศาการเคลื่อนตัวของบ้าน เพื่อป้องกันการถล่มซ้ำกรณีที่กู้ภัยเข้าไปค้นหาผู้รอดชีวิต ซึ่งตอนนั้น มีการห้ามเคลื่อนย้ายอิฐหรือผนังที่ขวางทับกันอยู่ออก ป้องกันบ้านขยับตัว แต่ได้ใช้การเจาะชนิดพิเศษ และกล้องส่อง ค้นหาผู้ติดอยู่ใต้ซากด้วย

จากนั้น ตลอดทั้งวัน เจ้าหน้าที่ยังพยายามค้นหาสัญญาณชีพของผู้ติดอยู่ใต้ซากอย่างต่อนื่อง จนถึงช่วงหัวค่ำเจ้าหน้าที่ไม่พบสัญญาณชีพเพิ่มเติม จึงได้ตัดสินใจหยุดปฏิบัติการค้นหาสัญญาณชีพ และเริ่มเดินหน้าค้นหาผู้เสียชีวิตภายในบ้านแทน โดยมีการนำรถแบ็คโฮขนาดใหญ่เข้ามาเคลียร์พื้นที่

ช่วง 23.00 น. ผู้ว่าฯ อัศวิน กางแผนที่ตรวจดูจุดที่คาดว่าผู้เสียชีวิตจะติดค้างอยู่อีกครั้ง และสันนิษฐานว่า น่าจะอยู่ส่วนกลางของตัวบ้าน เจ้าหน้าที่จึงระดมสรรพกำลังวางแผนเปิดปฏิบัติการค้นหาอีกครั้ง ทั้งส่งผู้เชี่ยวชาญในการค้นหาผู้ติดอยู่ในอาคารถล่ม และทีมกู้ภัย กู้ชีพ ระดมค้นหา พร้อมกับนำอุปกรณ์ตรวจจับสัญญาณต่างๆ มาใช้ และตี 1 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถพบร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 4 คนที่ติดอยู่ในตัวบ้านได้แล้ว แต่การนำร่างออกมายังเสี่ยงต่อการทรุดตัวของบ้าน เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้มือขุดเป็นโพรงแล้วนำเครื่องตัดถ่างเข้าไปง้างเหล็กที่ทับร่างผู้เสียชีวิตให้ถ่างออก กระทั่งได้ความกว้างพอที่จะนำร่างผู้เสียชีวิตหลุดออกมาได้ จึงค่อยๆ ลำเลียงออกมาจากตัวบ้าน โดยคนแรกที่พบในช่วงกลางคืนนี้ คือ นายสุทัศน์ เปลี่ยนกลัด อายุ 38 ปี อาสาสมัครกู้ภัย ซึ่งผู้ว่าฯ อัศวิน ได้นำธงชาติมาคลุมร่างให้อย่างสมเกียรติ โดยยกย่องเป็นวีรบุรุษผู้กล้า ส่วนร่างของผู้เสียชีวิตที่เหลืออีก 3 คน ประกอบด้วยอาสามัครกู้ภัย 2 คน และคนที่อาศัยอยู่ในบ้านอีก 1 คนติดอยู่ในชั้นที่ลึกกว่ารายอื่น ๆ อุปสรรคสำคัญคือไม่สามารถนำเครื่องจักรหนักเข้าไปยังจุดที่กำหนดได้ เพราะมีคานปูนวางทับอยู่ ประกอบกับแผ่นปูนวางเป็นลักษณะคล้ายกับขนมชั้น วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย จึงห่วงว่าหากเคลื่อนย้ายออกอาจกระทบกับร่างผู้เสียชีวิต จึงสั่งเพิ่มความระมัดระวังในการทำงานมากขึ้น


ทั้งนี้หลังการทุ่มเทอย่างหนัก 06.28 น. รถแบ็กโฮสามารถเปิดแผ่นปูนนำร่างผู้เสียชีวิต 2 คน ประกอบด้วย นายสมัชชา นิลธง อายุ 48 ปี อาสาสมัครกู้ภัย และนายอรรถพล ท้วมทอง อายุ 26 ปี อาสาสมัครกู้ภัย ออกมาได้สำเร็จ และเวลา 08.25 น. ผู้เสียชีวิตที่ติดค้างอยู่เป็นรายสุดท้ายภายในบ้าน คือ นายเกียรติ แพตเตอร์สัน อายุ 35 ปี ผู้พักอาศัย เจ้าหน้าที่ก็สามารถลำเลียงออกมาจากซากบ้านที่ถล่มได้แล้ว โดยทั้งหมดถูกนำส่งสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลศิริราช รอให้ญาติมารับร่างกลับไปบำเพ็ญกุศล

เหตุการณ์นี้ นายธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย หรือ วสท. ยอมรับว่า สาเหตุที่บ้านถล่ม ยังยืนยันไม่ได้ว่า เกิดจากการที่เพลิงไหม้เป็นสาเหตุหลักหรือไม่ แต่เบื้องต้นยืนยันได้แน่นอนว่า เปลวเพลิงเป็นชนวนนำไปสู่การถล่ม เพราะการตรวจสอบเบื้องต้นพบค่าความร้อนไม่ต่ำกว่า 70 องศาเซลเซียส ทำให้ต้องพรมน้ำช่วยเป็นระยะ แต่จะไม่ฉีดน้ำเด็ดขาด ส่วนบ้านเรือนข้างเคียงให้อพยพชั่วคราว

ขณะที่ นายพรเลิศ เพ็ญพาส ผู้อำนวยการเขตทวีวัฒนา ระบุว่าเขตกำลังตรวจสอบใบขออนุญาตและการออกเลขบ้าน เพื่อตรวจสอบว่า บ้านนี้ปลูกสร้างมาปีไหน แต่เบื้องต้นทราบแน่ๆ ว่าบ้านหลังนี้มีอายุมากกว่า 10 ปี และแจ้งเป็นลักษณะบ้านพักอาศัย แต่ทำธุรกิจลักษณะขายอุปกรณ์ว่ายน้ำ ชุดว่ายน้ำ รวมถึงไม่พบการต่อเติมบ้าน ส่วนเจ้าของบ้านก็ไม่อาศัยอยู่ที่นี่ ให้ลูกจ้างเฝ้า สาเหตุเชื่อว่าไม่ใช่เป็นเพราะบ้านเก่าอย่างเดียวแต่อาจมีเรื่องความร้อน การขยายตัวของเหล็ก น้ำหนักการฉีดน้ำ การก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ต้องให้วิศวกรรมสถานเข้าตรวจสอบอีกครั้ง

ด้าน ผู้ประสบภัยที่พักอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว และรอดชีวิตออกมาได้ก่อนที่ตึกจะถล่ม ให้ข้อมูลว่า ต้นเพลิงอยู่ที่ตู้พัก รปภ.เก่า ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นห้องเก็บของ เก็บที่นอนเก่า และติดตั้งปั๊มลมสำหรับฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ ซึ่งเสียบปลั๊กไว้ตลอดเวลา แต่ส่วนตัวไม่ทราบสาเหตุการเกิดประกายไฟ เห็นเพียงว่าประกายไฟลุกลามเร็วมาก พร้อมยืนยันว่าบ้านหลังดังกล่าวในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้ต่อเติมดัดแปลงตัวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เรือสินค้าชนสะพานพังในสหรัฐ

บัลติมอร์ 26 มี.ค.- สื่อในสหรัฐรายงานว่า เกิดเหตุเรือสินค้าชนสะพานสำคัญในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ ทำให้สะพานพังลงไปในแม่น้ำ เว็บไซต์บิสซิเนสส์ อินไซเดอร์รายงานว่า มีผู้โพสต์คลิปผ่านเอ็กซ์ (X) ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เป็นภาพเหตุการณ์ขณะที่เรือลำใหญ่ชนกับคานรองรับของสะพานฟรานซิส สกอตต์ คีย์ (Francis Scott Key Bridge) เห็นกลุ่มควันลอยขึ้นจากเรือ จากนั้นสะพานได้ทยอยพังลงไปในแม่น้ำ ขณะที่สำนักงานเครื่องกลเบย์แอเรียถ่ายทอดสดทางยูทูบเมื่อเวลา 01:28 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เห็นเรือลำใหญ่ชนสะพานดังกล่าว จากนั้นเมื่อเวลา 03:00 น.เห็นโครงสร้างสะพานแตกเป็นส่วน ๆ และจมอยู่ในแม่น้ำ บิสซิเนสส์ อินไซเดอร์ได้ตรวจสอบแผนที่การเดินเรือในเว็บไซต์เวสเซิล ไฟน์เดอร์ (VesselFinder) พบว่า เมื่อเวลา 02:50 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เรือดาลี (Dali) ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าติดธงชาติสิงคโปร์ ยังคงจอดนิ่งอยู่ใต้สะพาน สะพานแห่งนี้เปิดใช้งานเมื่อเดือนมีนาคม 2520 มีความยาวทั้งหมด 2,632.3 เมตร.-814.-สำนักข่าวไทย

ศาลยกฟ้อง “ชวน หลีกภัย” หมิ่นประมาท “ทักษิณ”

“ชวน” อดีตนายกรัฐมนตรี เผยศาลยกฟ้องคดี “ทักษิณ” ฟ้องหมิ่นประมาท ชี้มีสิทธิ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่ได้ประสบมาเพราะเป็นนักการเมืองและเป็นอดีตนายกรัฐมนต

“ทนายตั้ม” แฉเส้นทางเงินเว็บพนันโยง “ส่วยตัวท็อป” น็อก “บิ๊ก ตร.”

“ทนายตั้ม” นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ตั้งโต๊ะเปิดหลักฐานแฉขบวนการส่วยตัวท็อปแบบม้วนเดียวจบ โยงบิ๊กตำรวจรับเงินเว็บพนัน

ข่าวแนะนำ

ออกหมายเรียก “บิ๊กโจ๊ก” รอบ 3 หากไม่มา ชงศาลออกหมายจับ

คณะพนักงานสอบสวนชุดทำคดีเว็บพนันออนไลน์ “BNK Master” ออกหมายเรียก “บิ๊กโจ๊ก” รอบ 3 กำหนดเข้าพบ 1 เม.ย.นี้ หากยังไม่มาเตรียมขอศาลออกหมายจับ

รถไฟฟ้าสายสีเหลืองแจงเหตุขัดข้อง ชิ้นส่วนตัวยึดรางร่วง

รถไฟฟ้าสายสีเหลือง แจงเหตุหยุดเดินรถและมีเศษวัสดุตกหล่น พบชิ้นส่วนตัวยึดรางร่วงหล่นลงมา ช่วงสถานีกลันตัน-สวนหลวง ร.9 มีรถยนต์ 9 คัน และจักรยานยนต์ 3 คัน ได้รับความเสียหาย ไม่มีผู้บาดเจ็บ

ให้ประกันตัว “จักรภพ” นัดพบพนักงานสอบสวน 22-23 เม.ย.

ตำรวจกองปราบฯ อนุญาตประกันตัว “จักรภพ เพ็ญแข” วางหลักทรัพย์ข้อหาละ 200,000 บาท นัดหมายพบพนักงานสอบสวน 22-23 เม.ย.นี้

“ทนายตั้ม” มอบหลักฐานแฉเส้นทางการเงินเว็บพนันโยง “บิ๊ก ตร.” ให้ “บิ๊กเต่า”

“ทนายตั้ม” นายษิทรา เบี้ยบังเกิด นำหลักฐานมอบให้กับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลังออกมาแฉเส้นทางการเงินเว็บพนันโยงถึงบิ๊กตำรวจ