กทม.25 ธ.ค.- “อัจริยะ” ร้อง ตร.ปปป.เอาผิด ทหาร-ตำรวจ 16 นาย อ้าง เอายาเสพติดของกลางจากกรมการปกครองไปแถลงตัดหน้า หวังรางวัลนำจับ
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จังหวัดหนองคาย เข้าพบ พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดและประพฤติมิชอบในวงราชการ หรือ ปปป. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีอาญาทหารเรือจังหวัดหนองคายกับพวก รวม 16 นาย ใน 7 ข้อหา ในความผิดฐานร่วมกันค้ายาเสพติด , ร่วมกันปล้นของกลาง , ร่วมกันแถลงข่าวอันเป็นเท็จเพื่อมุ่งหวังรับสินบนนำจับ , ร่วมกันแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวน , ร่วมกันสร้างและทำพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ , ร่วมกันจดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และร่วมกันละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยมีคลิปภาพและไฟล์เสียงเป็นหลักฐาน
นายอัจฉริยะ บอกว่า ได้รับการร้องเรียนจากฝ่ายปกครอง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคายว่า เมื่อเวลา 2 นาฬิกา 20 นาที ของวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา ฝ่ายปกครองได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีเรือลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านทางแม่น้ำโขง เจ้าหน้าที่กรมการปกครองจึงเข้าทำการจับกุมยาเสพติดของกลางยาบ้า 2 ล้านเม็ดและไอซ์ 116 กิโลกรัมได้ โดยผู้ต้องหาหลบหนีไป แต่จากนั้นประมาณ 20 กว่านาที มีชาย 2 คน อ้างเป็นทหารเรือได้มาชิงเอาของกลางไป เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้เจรจากับกลุ่มคนที่อ้างว่าเป็นทหารเรือเพื่อนำของกลางคืนมาแล้วแต่ไม่สำเร็จ จึงไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.บางบ่อ ต่อมาทราบว่ากลุ่มทหารเรือได้เตรียมแถลงผลการจับกุมดังกล่าว โดยสร้างพยานหลักฐานเท็จขึ้นมาว่า มีผู้ชาย 2 คน เดินทางจากกรุงเทพฯ เพื่อมารับยาเสพติดดังกล่าวและถูกจับกุมได้พร้อมเรือขนยาเสพติด โดยได้ทำบันทึกจับกุมขึ้นมาใหม่ ระบุว่าจับได้เมื่อ เวลา 2 นาฬิกาในคืนวันเดียวกัน โดยในการแถลงข่าวก็พบว่ามีเพียงเจ้าหน้าที่ทหารเรือเท่านั้น ไม่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจมาร่วมแถลงด้วย และได้ยกเลิกการแถลงข่าวในเวลาต่อมา
สำหรับพยานหลักฐานที่ชี้ได้ว่ามีการจัดฉากเรื่องต่างๆ ขึ้นมา มีพยานบุคคลอย่างน้อย 3 คน 1 ใน 3 ตนได้พามาให้ปากคำกับตำรวจ ส่วนอีก 2 คนซึ่งเป็นสามีภรรยากัน ที่เดิมตั้งใจว่านะพามาให้ปากคำกับตำรวจ
ด้วย เพราะเป็นผู้ที่มีข้อมูลความเคลื่อนไหวของกลุ่มทหาร พบว่าได้ขาดการติดต่อไป นอกจากนี้ยังพบว่ามีพยานอีกหลายรายที่ข่มขู่ นอกจากนี้ยังมีหลักฐานคลิปเสียงการแจ้งเบาะแสข้อมูลให้เจ้าหน้าที่กรมการปกครอง หลักฐานการติดต่อสนทนาระหว่างผู้ต้องหาที่ทหารเรือนำมาจัดฉาก และแผนผังความเชื่อมโยงลำดับรายระเอียดเหตุการณ์ทั้งหมดมามอบให้ตำรวจนำไปพิจารณาด้วย ทั้งนี้ตนร้องขอให้ตำรวจทำการคุ้มครองพยานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ส่วนของกลางยาเสพติด ขณะนี้ยังคงเก็บรักษาไว้ที่ สภ.ท่าบ่อ และทราบว่ามีการระงับเรื่องการมอบเงินรางวัลนำจับในคดีนี้ไว้ เนื่องจากพบพิรุธในหลายประเด็น
ด้านพันตำรวจเอกประสงค์ เผยว่า ปปป. จะรับเรื่องนี้ไว้ตรวจสอบ ซึ่งเบื้องต้นต้องเริ่มจากการตรวจสอบก่อนว่าผู้ที่ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐจริงหรือไม่ จากนั้นจะลงพื้นที่สอบปากคำผู้เสียหายและผู้เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานส่ง ป.ป.ช. พิจารณาต่อไปภายใน 30 วัน.-สำนักข่าวไทย