เปิดคลิปปาระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุม เจ็บ 2 คน

กรุงเทพฯ 26 พ.ย. – เปิดคลิปนาทีชุลมุน ผู้ก่อเหตุปาระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุมหน้า SCB สำนักงานใหญ่ บาดเจ็บ 2 คน และมีเสียงปืนดังตามมาอีก 4 นัด


เมื่อเวลาประมาณ 22.10 น. วานนี้ (25 พ.ย.) เกิดเหตุชุลมุนขึ้น หลังมีเสียงดังคล้ายระเบิด 1 ครั้ง และตามมาด้วยเสียงปืนอีก 4 นัด บริเวณหน้าร้านแมคโดนัลด์ อเวนิว รัชโยธิน พบมีผู้ถูกยิงบาดเจ็บ 2 คน และกลุ่มการ์ดจับตัวผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนได้ 1 คน โดยทั้งสองถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา ทราบชื่อ นายวันชัย อารีย์ อายุ 25 ปี ภูมิลำเนาเขตหนองจอก กทม. ถูกยิงบริเวณหน้าท้อง นำส่ง รพ.พระราม 9 และนายพายัพ เขียววิลัย อายุ 31 ปี ภูมิลำเนา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ (ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุ) นำส่ง รพ.เซนต์หลุยส์

ด้านนายสมบัติ ทองย้อย หนึ่งในหัวหน้าทีมการ์ดดูแลผู้ชุมนุม บอกว่า มีเสียงระเบิดและเสียงปืนดังขึ้น ขณะนั้นการ์ดได้เข้ามาช่วยคนเจ็บและรุมผู้ก่อเหตุ โดยในพื้นที่พบวัตถุมีลักษณะเป็นท่อพีวีซี คล้ายไปป์บอมบ์ที่ผลิตขึ้นมา แต่ไม่ทราบว่าใส่อะไรไปบ้าง และมีเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า มีการ์ดถูกยิง 2 นัด คาดว่าโดนบริเวณช่องท้อง แต่ไม่ฟันธงว่าเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องการเมือง


หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบจุดที่มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย จุดที่พบหัวกระสุนไม่ทราบขนาด และจุดที่พบกระเป๋าไม่ทราบเจ้าของวางทิ้งไว้ รวมถึงเป็นจุดที่กู้ภัยแจ้งว่ามีการระเบิดของวัตถุระเบิดบางชนิด ซึ่งเจ้าหน้าที่อีโอดี พร้อมด้วยหน่วยสุนัขตำรวจได้เข้าร่วมตรวจสอบในทุกจุด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนลูกโม่ไม่ทราบขนาด ซุกซ่อนที่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ของคนที่คาดว่าเป็นผู้ต้องสงสัย ขณะที่ตามจุดเกิดเหตุพบชิ้นส่วนระเบิด เร่งส่งตรวจ ส่วนสาเหตุอย่างเป็นทางการอยู่ระหว่างการสอบสวน

ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตจตุจักร ได้เข้าทำความสะอาดพื้นที่และทาสีทับข้อความบนกำแพง รวมถึงพื้นผิวการจราจร บนถนนรัชดาภิเษก บริเวณหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ภายหลังกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางกลับ

ส่วนความเคลื่อนไหวในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน ซึ่งมีการนำตู้คอนเทนเนอร์ แบริเออร์ และรั้วลวดหนาม มาสร้างเป็นเครื่องกีดขวางบนถนนหลายจุด เช่น ถ.สวรรคโลก ถ.ราชดำเนิน และ ถ.ประชาธิปไตย ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. เจ้าหน้าที่ได้นำรถโฟร์คลิฟท์และรถเครน เข้ามาเคลื่อนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ออกจากพื้นผิวการจราจร พร้อมกับรื้อแนวแผงกั้น รั้วลวดหนาม ที่ถูกนำมาวางตั้งปิดเส้นทางมุ่งหน้าสู่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ก่อนจะเปิดการจราจรตามปกติ ส่วนตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมด มีรายงานว่าถูกเคลื่อนย้ายไปเก็บไว้ที่สนามม้านางเลิ้งเก่า. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

กต.พร้อมพา 5 ตัวประกันไทยกลับบ้านเมื่อสุขภาพแข็งแรง

รมว.ต่างประเทศ เยี่ยม 5 ตัวประกันคนไทย พร้อมพาทุกคนกลับบ้านเมื่อสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีแล้ว ขณะที่ทุกคนขอบคุณที่ทำให้ได้ชีวิตใหม่

นายกฯ ฝากรายการใหม่เทปแรก ไล่เรียงนโยบายแบบ Exclusive

“โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” นักจัดรายการมือใหม่​ ฝากเนื้อฝากตัว หวังใจถึงใจกับประชาชน​ ไล่เรียงภารกิจนโยบายหลายเรื่องแบบเบื้องหลัง Exclusive 30 บาทรักษาทุกที่-บ้านเพื่อคนไทย-แก้ฝุ่น-พ.ร.ก.ไซเบอร์ ยันเงินหมื่นเฟส 3 มาแน่ รอคลังเคาะ นายกฯ รับเสียใจถูกบูลลี่เรื่องแต่งตัว​ แต่จะแต่งแบบนี้ไปทำงานให้ประชาชนมีความสุข

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุ่นขึ้น 1-2 องศาฯ ค่าฝุ่นมีแนวโน้มเพิ่ม

กรมอุตุฯ เผยมวลอากาศเย็นมีกำลังอ่อน ส่งผลให้ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ ขณะที่ค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่ม

กกต.ขอบคุณ ปชช.ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.

เลขาธิการ กกต. แถลงสถานการณ์หลังปิดหีบบัตรเลือกตั้ง อบจ.ทั่วประเทศ ขอบคุณประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ พร้อมชี้แจงกรณีบัตรเลือกตั้งหายที่จังหวัดบึงกาฬ