กทม.13 พ.ย.- เปิดภาพวงจรปิด แผนประทุษกรรมโจรย่ามใจบุกเดี่ยวกินน้ำมนต์ก่อนวนเวียนก่อเหตุในวัดหนังนานเกือบ 2 ชั่วโมง
จากเหตุคนร้ายแอบย่องเบาเข้าไปงัดตู้เซฟดัดแปลงใส่เงินบริจาคภายในวิหารหลวงปู่เอี่ยม วัดหนังราชวรวิหาร ถนนวุฒากาศ ซอย 47 แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม. ก่อนทุบกระจกประตูทางเข้าศาลาบูชาวัตถุมงคลของทางวัด กวาดพระเครื่องกว่า 700 องค์ รวมมูลค่า 948,700 บาท หนีเหตุเกิดกลางดึกวันที่ 11 พ.ย.ต่อเนื่องเช้ามืดวันที่ 12 พ.ย.63
พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.น.9 พร้อม พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.9 สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน และตำรวจสืบสวนสอบสวนนครบาล 9 สนธิกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในวัดหนังฯ และตามร้านค้าข้างเคียงตลอด ตามแนวทางการสืบสวน พบว่าคนร้ายก่อเหตุเพียงลำพัง เป็นชาย รูปร่างผอม สูงประมาณ 170-175 เซนติเมตร สวมเสื้อคลุมสีดำ กางเกงยีนส์สีน้ำเงินขายาว สะพายเป้สีดำ และสลับสับเปลี่ยนหมวกที่ใช้ปิดบังใบหน้าระหว่างก่อเหตุจำนวน 2 ใบประกอบด้วยหมวกไหมพรมและหมวกแก๊ปสีทึบ
โดยแผนประทุษกรรมของคนร้ายคือ ช่วงเวลาประมาณ 23.30 น.ของวันที่ 11 พ.ย.เดินเท้าสะพายเป้สวมหมวกแก๊ป จากฝั่งวัดนางนองวรวิหารซึ่งอยู่หน้าปากซอยวุฒากาศ 42 ข้ามสะพานข้ามคลองด่านก่อนข้ามถนนมุ่งหน้าเข้าสู่วิหารหลวงปู่เอี่ยม เป็นจุดแรก จากนั้นได้เปลี่ยนเป็นหมวกไหมพรมคลุมหน้าก่อนงัดกลอนหน้าต่างด้านข้างเข้าไปใช้ชะแลงซึ่ง
อยู่ในกระเป๋าเป้ ออกมางัดทำลายช่องใส่เงินบริจาคที่ดัดแปลงมาติดตั้งบนฝาตู้เซฟแล้วกวาดเงินใส่ระเป๋าเป้ไปจนหมดตู้ โดยระหว่างที่ก่อเหตุยังดื่มน้ำมนต์จากบาตรสแตนเลสขนาดใหญ่ที่ทางวัดเตรียมไว้ให้ญาติโยมตักกลับบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคล
จากนั้นเวลาประมาณ 01.30 น.วันที่ 12 พ.ย.กล้องวงจรปิดภายในศาลบูชาวัตถุมงคล สามารถจับภาพคนร้ายใช้ของแข็งทุบกระจกตรงบานประตูทางเข้าก่อนมุดตัวเข้าไปโจรกรรมวัตถุมงคล ส่วนใหญ่เป็นเหรียญดีปีลึกของทางวัดหนังฯ ที่คนในวงการพระเครื่องรู้จักและนิยมเล่นหากัน ได้แก่ เหรียญปี พ.ศ.2515 เหรียญปี พ.ศ.2539 และเหรียญปี พ.ศ.2554 รวมถึงของที่มีค่าอื่นโดยไม่แตะต้องพระเครื่องที่สร้างใหม่ ซึ่งราคาเล่นหายังไม่สูงมากนัก โดยในจุดนี้คนร้ายใช้เวลาวนเวียนเข้าออกขนของถึง 2 รอบ ก่อนนำของที่ได้ยัดใส่กระเป๋าเป้และใส่ถุงพลาสติกขนาดใหญ่เดินเท้ากลับออกไปทางสะพานข้ามคลองด่านแล้วเลี้ยวหายไปทางลานจอดรถวัดนางนองวรวิหาร ที่อยู่ห่างจากวัดหนังราชวรวิหาร ไปประมาณ 300 เมตร
ชุดสืบสวนสอบสวน สันนิษฐานว่าคนร้ายต้องเคยมาที่วัดหนังฯ เพื่อสำรวจลาดเลาบ่อยครั้ง และต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ด้านพระเครื่องสายวัดหนังฯมากพอสมควร จึงเตรียมการนำอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุมาเป็นอย่างดี นอกจากนี้ น่าจะรู้เส้นทางการหลบหนีและน่าจะทราบความเคลื่อนไหวของคนภายในวัดด้วย เนื่องจากใช้เวลาก่อเหตุทั้ง 2 จุด นานเกือบ 2 ชั่วโมง กว่าจะหลบหนีออกนอกพื้นที่ไป ตำรวจกำลังติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีและนำวัตถุมงคลทั้งหมดกลับมาให้ได้โดยเร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย