กรุงเทพฯ 22 ต.ค.- ศาลแพ่งมีคำสั่งรับฟ้องสำนวนคดีกรณี “นพ.ชลน่าน” และพวกรวม 4 คน ยื่นฟ้องให้ศาลคำสั่งเพิกถอนประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรงพื้นที่ กทม.
ตามที่ปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณะว่านายชลน่าน ศรีแก้ว กับพวกรวม 4 คน ยื่นฟ้อง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กับพวกรวม 3 คน เป็นคดีต่อศาลแพ่ง ในคดีหมายเลขดำที่ พ5327/2563 โดยศาลแพ่งนัดฟังคำสั่งรับหรือไม่รับฟ้องในวันนี้เวลา 09.00 น.นั้น
บัดนี้ ศาลแพ่งในคดีหมายเลขดำที่ พ5327/2563 มีคำสั่งว่า “พิเคราะห์แล้วคดีนี้ โจทก์ทั้งสี่ฟ้องขอให้เพิกถอนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงรวมถึงข้อกำหนดและคำสั่งต่างๆ ที่ออกตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โดยบรรยายฟ้องอ้างถึงเหตุที่โจทก์ทั้งสี่ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย หรืออาจได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง รวมถึงข้อกำหนดและคำสั่งต่างๆ ดังกล่าว เห็นว่าประกาศดังกล่าวเป็นคำสั่งทางปกครองที่ใช้บังคับต่อประชาชนทั่วไป แต่เนื่องด้วยพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 16 บัญญัติว่า “ข้อกำหนด ประกาศ คำสั่ง หรือการกระทำตามพระราชกำหนดนี้ไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง และกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง” อันทำให้การฟ้องร้องคดีนี้ไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง ทั้งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 188 บัญญัติว่า “การพิจารณาพิพากษาอรรถคดีเป็นอำนาจของศาล” และมาตรา 194 บัญญัติว่า “ศาลยุติธรรมมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีทั้งปวง เว้นแต่คดีที่รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายบัญญัติให้อยู่ในอำนาจของศาลอื่น” อันแสดงให้เห็นว่าศาลยุติธรรมเป็นศาลที่มีเขตอำนาจทั่วไป
ดังนั้น คดีนี้จึงอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม เมื่อโจทก์ทั้งสี่กล่าวอ้างว่าประกาศของจำเลยมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชน กรณีมีเหตุให้รับฟ้องของโจทก์ทั้งสี่ไว้พิจารณา”.-สำนักข่าวไทย