กรุงเทพฯ 9 ต.ค.- ตำรวจเตรียมใช้การเจรจาขอความร่วมมือกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ให้ขัดขวางเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ พร้อมเตรียมกำลังตำรวจดูแลการชุมนุมใกล้เคียงกับวันที่ 19-20 กันยายนที่ผ่านมา
พลตำรวจเอกดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงแผนการรับมือการชุมนุมของกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า คณะราษฎร ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ บริเวณอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย ว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการประสานขออนุญาตจัดการชุมนุมดังกล่าวกับทางตำรวจ ซึ่งเป็นไปได้ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมอาจรอถึงช่วงใกล้วันที่ 14 ตุลาคมก่อน เพราะตามกฏหมายแล้วต้องมีการขออนุญาตล่วงหน้าก่อนการชุมนุม 24 ชั่วโมง
ส่วนแผนการรับมือการชุมนุม คาดใช้แผนดูแลความเรียบร้อยในลักษณะใกล้เคียงกับแผนการรักษาความปลอดภัยการชุมนุมเมื่อวันที่ 19-20 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างเฝ้าสังเกตและติดตามสถานการณ์ข่าวอย่างใกล้ชิด จะเตรียมกำลังตำรวจให้เพียงพอต่อการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีการเตรียมกำลังมากกว่าปกติ เป็นเพราะต้องมีการหมุนเวียนระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ และต้องจัดวางกำลังให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริง เช่น หากกลุ่มผู้ชุมนุมจะมีกิจกรรมเคลื่อนไหวหรือดาวกระจายไปจัดกิจกรรมในจุดอื่นๆ อาจต้องใช้กำลังตำรวจไปดูแลความเรียบร้อย จัดการจราจรไม่ให้กระทบกับการใช้ชีวิตของประชาชนทั่วไป
นอกจากนี้ ต้องมีการกำหนดจุดตั้งด่านคัดกรองเพื่อป้องกันการนำอาวุธเข้าพื้นที่การชุมนุมและคัดกรองโรค เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วย
ส่วนกรณีที่ในวันนัดชุมนุม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงเสด็จพระราชดำเนินไปที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อทรงตั้งเปรียญธรรม 9 ประโยค และ 6 ประโยค ที่อาจมีการใช้เส้นทางผ่านกลุ่มที่มีการชุมนุมนั้น เรื่องดังกล่าวตำรวจจะใช้การเจรจาเป็นหลักกับกลุ่มผู้ชุมนุม เพราะตำรวจมีหน้าที่ถวายการอารักขาพระมหากษัตริย์ให้มีความปลอดภัยสูงสุด
ทั้งนี้ ยังฝากถึงกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ให้กระทำการที่ผิดกฏหมาย ส่วนประเด็นที่มีการแถลงว่าจะมีการรื้อต้นไม้บริเวณรอบอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตยออก ต้องดูว่ากิจกรรมดังกล่าวทำให้ทรัพย์สินของทางราชการเสียหายหรือไม่เพราะหากมีทรัพย์สินเสียหาย ตำรวจก็ต้องมีหน้าที่ดำเนินการทางกฏหมาย .-สำนักข่าวไทย