กทม.25 ก.ย.- “บิ๊กแป๊ะ” ห่วงม็อบเยาวชน เชื่อมีคนอยู่เบื้องหลัง ดังสุภาษิต “เชือกจูงควาย น้ำลายจูงคน”ระบุ กำลังต่อจิ๊กซอว์หากลุ่มผู้อยู่เบื้องหลัง
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวก่อนการเกษียณอายุราชการวันที่ 30 กันยายนนี้ว่า ไม่มีคดีอะไรที่ห่วง เพราะ ผบ.ตร. ท่านใหม่ ทำได้อยู่แล้ว และพูดคุยกันมาตลอด ส่วนการชุมนุมที่เกิดขึ้นตอนนี้ ตำรวจเจอมาทุกรูปแบบและปรับตัวตาม แต่อยากเตือนเรื่องไปทำอะไรที่สุ่มเสี่ยงข้อกฎหมายต่างๆ อยากให้ผู้มาชุมนุมไปย้อนดูเรื่องเก่าๆ อย่าทำด้วยอารมณ์ ซึ่งตนไม่ต้องฝากอะไรถึงผู้ชุมนุม เขารู้อยู่แล้วว่าควรทำตัวอย่างไร บางครั้งเราไม่อนุญาตให้ชุมนุม เขาบอกว่าชุมนุมโดยสงบ แต่เมื่อวาน(24 ก.ย.)ตนไม่เห็นภาพว่าชุมนุมโดยสงบ พูดไปเดี๋ยวจะเป็นประเด็นอีก ตนเชื่อว่าผู้ชุมนุมทราบว่ามาชุมนุมโดยสงบหรือไม่สงบ กรณีผู้ชุมนุมพูดจาจาบจ้วงไม่เหมาะสมกระทบความรู้สึก ตำรวจก็เก็บรวบรวมพยานหลักฐานทุกครั้งตั้งแต่เริ่มจนจบ
เมื่อถามว่า ผบ.ตร. ผ่านม็อบการเมืองมาหลายครั้ง มองม็อบช่วงนี้แตกต่างจากอดีตที่ผ่านมาอย่างไร พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ม็อบใหม่ๆ มีเกี่ยวเรื่องการเมือง สักระยะก็แปลงร่างเป็นเรื่องสถาบัน ให้ตนมองและตอบเร็วๆใหม่ๆจะเป็นนักเรียน นักศึกษา หลังๆเป็นเรื่องอื่นไปแล้ว ตนอยู่กับม็อบมาหลายสมัยเชื่อว่ามีการแทรกแซงและเบี่ยงประเด็นโดยกลุ่มอื่น สาเหตุที่ทำให้ม็อบเปลี่ยนไปจากเยาวชน เพราะเป็นการชี้นำน้องๆเหมือนสุภาษิต “เชือกจูงควาย น้ำลายจูงคน” เป็นลักษณะมีผู้ชักจูงอยู่เบื้องหลัง ส่วนใครที่อยู่เบื้องหลังเรากำลังต่อจิ๊กซอว์ บางเรื่องพูดไม่ได้ก็ขอสงวนไว้
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์การเมืองตอนนี้ ตนห่วงน้องๆ เพราะม็อบสมัยก่อนจะไม่มีใครเป็นตัวประกัน แต่ที่ผ่านมามีการเอานักศึกษา น้องๆ ชั้นประถม มัธยม มาเป็นตัวประกัน ตนพูดไปไม่เกินชั่วโมงจะเป็นประเด็นอีก แต่ที่พูดไม่ได้มีอคติ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง แต่พูดในฐานะที่มีประสบการณ์ และไม่อยากให้เเกิดเหมือนในอดีต ตนพูดมาตลอดว่ากฎหมายคือกฎหมาย อยากให้น้องๆ ทุกคนที่ชอบมาร่วมชุมนุมให้ดูที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นแกนนำ ผู้สนับสนุนที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม หากตนไม่ดำเนินการอะไร ก็จะมีอีกพวกหนึ่งตำหนิว่าทำไมตำรวจไม่ทำอะไร โดน 157 บ้าง ตนพูดด้วยความห่วงใยจริงๆ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พูดมาตลอดว่า ให้ดูแลความปลอดภัยผู้มาชุมนุมและให้กฎหมายให้ดี หลีกเลี่ยงการปะทะ ให้อดทน อดกลั้น ซึ่งตำรวจทำมาตลอด วันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา เหตุการณ์จบลงด้วยดี ไม่ได้นำอาวุธยุทโธปกรณ์ไปเลย อย่างไรก็ตาม ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป.-สำนักข่าวไทย