กรุงเทพฯ 21 ก.ย.- อุกอาจมือปืนคล้ายทอมบอยโหดซัลโว 3 นัดดับแม่ค้าออนไลน์ในวัดขณะใส่บาตรแต่เช้า
เมื่อเวลา 07.00 น. พ.ต.อ.ลือศักดิ์ ดำเนินสวัสดิ์ ผกก.สน.ภาษีเจริญ กำลังปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการจราจรในพื้นที่ได้รับแจ้งเหตุยิงกันภายในวัดนิมมานรดี ถนนบางแค 1 เขตบางแค กทม.จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.ศิริชาติ จันทร์พรมมา รอง ผกก.ป.สนภาษีเจริญ พ.ต.ท.บริบูรณ์ จำปาดี สว.สส.สน.ภาษีเจริญ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราชและหน่วยกู้ภัยมูลธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณลานจอดรถหน้าพระอุโบสถเชื่อมกับทางเดินเข้า-ออก กุฏิพระสงฆ์ในวัดดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบศพนางลินลดา พัฒนพันธ์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111/12 หมู่ 3 ซอยเพชรเกษม 41 แขวงและเขตบางแค กทม. สภาพนอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว นุ่งกางเกงวอร์มขายาวสีดำ มีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะด้านหลัง 3-4 นัด ข้างกันพบรถเก๋งยี่ห้อมินิคูเปอร์ สีขาว ทะเบียน ญผ 5288 กรุงเทพมหานคร ของผู้ตายจอดอยู่โดยมีตะกร้าข้าวของที่ใช้ใส่บาตร ปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 4 ปลอก และหัวกระสุนปืนขนาด 9 มม. 1 นัด หล่นกระจัดกระจายเกลื่อนพื้น จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน น.ส.มณีรัตน์ ศรีธรราษฎร์ อายุ 52 ปี แม่บ้านของผู้ตายซึ่งเดินทางมาใส่บาตรด้วยกัน ให้การด้วยอาการตื่นตระหนก ว่าผู้ตายมีอาชีพค้าขายกระเป๋าและเสื้อผ้าทางออนไลน์ ออกจากบ้านพักมาพร้อมกับตนเมื่อช่วงเช้ามืดเพื่อมาใส่บาตรที่วัดแห่งนี้ โดยจังหวะที่มาถึงสังเกตเห็นรถเอนกประสงค์ 7 ที่นั่งสีดำ ไม่ทราบทะเบียนจอดติดเครื่องรออยู่ข้างรถผู้ตายอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร จนใส่บาตรกันเสร็จ ระหว่างกำลังจะเก็บของกลับขึ้นรถ ปรากฏมีคนร้ายซึ่งยังไม่แน่ใจว่าเป็นชายหรือเป็นผู้หญิงลักษณะคล้ายทอมบอย 1 คน อายุประมาณ 35-40 ปี สวมเสื้อแขนยาวสีทึบสวมหมวกแก๊ปอำพรางใบหน้า เดินลงมาจากรถ 7 ที่นั่ง ปรี่มาจับมือผู้ตายและล็อกคอจากด้านหลังยิงใส่ 4 นัดก่อนจะขึ้นรถเร่งเครื่องหลบหนีไปโดยตนก็ไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมมือปืนต้องมาดักยิงนายจ้างตนอย่างอุกอาจขนาดนี้
เบื้องต้นขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบข้อมูลว่าปัจจุบันผู้ตายยังไม่มีสามีและลูกแต่ใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนสาวคนสนิทที่บ้านพักและแม่บ้าน รวม 3 คน
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในวัดพบภาพรถของคนร้ายอยู่ไกลๆ อยู่ระหว่างติดตามล่าเบาะแสหาตัวมือปืนมาดำเนินคดีและกำลังประสานญาติพี่น้องของผู้ตายเข้าให้ปากคำเพื่อหาชนวนการตายในครั้งนี้ .-สำนักข่าวไทย
