บช.สอท. 16 พ.ค. – ตำรวจไซเบอร์จับเพจขายยาแก้ไอเถื่อน เปิดร้านทุกอย่าง 20 บังหน้า ยึดของกลางกว่า 7,600 ขวด มูลค่ากว่า 700,000 บาท และรวบทรงเอสมุทรปราการ เปิดเพจขายบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์ พร้อมด้วยตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 แถลงจับเพจขายยาแก้ไอเถื่อนเปิดร้านทุกอย่าง 20 บังหน้า ยึดของกลางกว่า 7600 ขวดมูลค่ากว่า 700,000 บาท และรวบทรงเอสมุทรปราการ เปิดเพจขายบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์
ด้าน พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปานหินพุฒ ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 (ผกก.4 บก.สอท.2) กล่าวว่า คดีแรกสืบเนื่องจากกองกำกับการ 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 ได้สืบสวนพบการลักลอบจำหน่ายยาแก้ไอทางออนไลน์ ผ่านทางเพจเฟซบุ๊กชื่อ “คลังยา สมใจนึก” เพจ “tico tawan” จึงได้สืบสวนกระทั่งพบหลักฐานเชื่อมโยงไปยังสถานที่จัดเก็บและจัดส่ง ต่อมาได้นำหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรสาคร เข้าตรวจค้นร้านขายของทุกอย่าง 20 บาทแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 6 ตำบลสวนหลวง อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร

จากการตรวจค้นพบนายสุธี อายุ 39 ปี พร้อมด้วยยาแก้ไอบรรจุอยู่ในลังกระดาษ อยู่ภายในห้องพักวางกระจายอยู่ในจุดต่าง ๆ ภายในร้านค้า รวมจำนวน 7,600 ขวด เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง อาทิ ยาไดเฟนนิล, ยาดาทิสซิน, ยาอาชาค็อก, ยาอเลอร์นิน
พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า การขายยาเหล่านี้จะต้องขายโดยเภสัชกรและต้องมีการควบคุมการขาย ทั้งนี้ เภสัชกรเวลาขายยาจะต้องมีการจดบันทึกในบัญชีว่าได้ขายไปให้กับผู้ใดบ้าง แต่คดีนี้ไม่ได้ขายโดยเภสัชกรและจดบัญชีการขาย
นายสุธี รับว่าตัวเองจำหน่ายของกลางดังกล่าวในราคาขวดละ 80-100 บาทโดยอ้างว่าเภสัชกรได้ของกลางดังกล่าวมาจากแหล่งผลิตโดยสั่งมาเดือนละไม่เกิน 600 ขวด แต่ยังไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลแหล่งผลิตรวมถึงข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ได้แจ้งข้อหา จำหน่ายยาแผนปัจจุบัน (ยาแก้ไอ) โดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
การจำหน่ายยาดังกล่าวต้องมีใบอนุญาตขายยาแผนปัจจุบันของกระทรวงสาธารณะสุข มิฉะนั้นจะเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 มาตรา 12 “ห้ามผู้ใดผลิต ขาย หรือนำสั่งเข้ามาในราชอาญาจักรซึ่งยาแผนปัจจุบัน” ผู้ฝ่าฝืนมีโทษตามมาตรา 101 “ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท”
อีกคดีได้สืบสวนพบเบาะแสการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านบัญชีเฟซบุ๊ก ชื่อ “เดชาธร…” โดยได้โพสต์ขายสินค้าประเภทบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ส่วนควบอย่างต่อเนื่อง อาทิ บุหรี่ไฟฟ้า, น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า, พอท และสินค้าอื่นๆ โดยให้ลูกค้าที่สนใจติดต่อสอบถามและสั่งสินค้าผ่านช่องทาง Messenger เจ้าหน้าที่สืบสวนจนทราบตัวเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว คือ นายเดชาธร อายุ 34 ปี จากการตรวจสอบประวัติ พบอีกว่า นายเดชาธร เคยตกเป็นผู้ต้องหาในคดี “ครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แอมเฟตามีน หรือ อนุพันธ์แอมเฟตามีน) ปัจจุบันได้เป็นบุคคลพ้นโทษจากรมราชทัณฑ์แล้ว หลังรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออำนาจศาลออกหมายค้นเป้าหมายเข้าตรวจค้น บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ที่ 6 ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ พบผู้ต้องหาพร้อมของกลาง หัวพอตแบบใช้แล้วทิ้ง จำนวน 137 ชิ้น, เครื่องบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมสูบใช้แล้วทิ้ง จำนวน 51 ตัว อุปกรณ์ส่วนควบ(คอยน์) จำนวน 9 ชิ้น และเครื่องบุหรี่ไฟฟ้า (เครื่องเปล่า) จำนวน 8 ตัว
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “ขายสินค้าที่คณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการสั่งห้ามขาย เพราะสินค้านั้นเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค (อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 มาตรา 29/9 ประกอบ มาตรา 56/4) คำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้า และบริการที่ 24/2567 ลงวันที่ 8 ก.ค.67 ) ช่วย ซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใดๆ ซึ่งของที่มิได้ผ่านพิธีการศุลกากร ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ม.246” ผู้ต้องหายอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งสืบสวน ขยายผลไปยังแหล่งที่มาของบุหรี่ไฟฟ้าและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดต่อไป. -419-สำนักข่าวไทย