“บิ๊กต่าย” ยันตำรวจจำเป็นต้องฝึกทบทวนยุทธวิธีในการเข้าระงับเหตุ

บก.สปพ. 5 ส.ค. – “บิ๊กต่าย” เผยเหตุสูญเสีย 2 ตำรวจ จากการเข้าระงับเหตุ จำเป็นต้องฝึกทบทวนยุทธวิธีตำรวจ ให้มีทักษะความชำนาญ พร้อมรับชมสาธิตยุทธวิธีตำรวจในการเข้าระงับเหตุจับกุมคนร้าย


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รองผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เป็นประธานในพิธีเปิด “โครงการฝึกอบรมการประเมินสถานการณ์ในระดับผู้บริหารขั้นต้นหน้างานป้องกันปราบปรามของ บช.น.” โดยมี พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา รอง ผบช.น., พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ. รวมทั้งผู้แทนระดับ รอง ผบก. บก.น.1-9 รอง ผกก.ป. ทั้ง 88 สน. และผู้เข้ารับการฝึกอบรมฯ รุ่นที่ 1 จำนวน 49 นาย ทั้งนี้มีการสาธิตยุทธวิธีตำรวจในการเข้าระงับเหตุจับกุมคนร้าย

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์การสูญเสียเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ สภ.นาหวาย และเกิดเหตุสูญเสีย “รองหรั่ง” ในพื้นที่ สน.ท่าข้าม จะเห็นได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหากขาดการประเมิน ผู้ที่ได้รับผลกระทบคือทางรองผู้กำกับและสารวัตรเอง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ที่ระดับต่ำกว่านั้นได้มีการฝึกทบทวนยุทธวิธีตำรวจไปแล้ว ทั้งนี้ ทางรองผู้กำกับและสารวัตรจะต้องประเมินนำพาชุดปฏิบัติให้ปลอดภัยไม่ได้รับการอันตรายใด ๆ และสำเร็จในภารกิจนั้นตามหลักยุทธวิธีตำรวจและกฎหมายที่บัญญัติไว้


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณ ผบช.น. รวมไปถึงผู้บังคับการทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องจัดทำโครงการนี้ขึ้นมาสำหรับรองผู้กำกับและสารวัตรภายใต้การกำกับการของ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ซึ่งตนก็ได้พูดคุยกับ พล.ต.ท.สำราญ ตลอดเวลา สิ่งเหล่านี้เป็นการลงทุนงบประมาณจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่คุ้มค่า เพื่อให้ผู้บริหารชั้นต้นในหน้างานป้องกันปราบปรามเกิดทักษะความชำนาญและมีการตัดสินใจที่ส่งประสิทธิภาพที่สุด หวังว่าช่วงเวลาในการอบรมทบทวนโครงการนี้จะต้องเกิดความสำเร็จ แต่ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้จากการที่ทางผู้ฝึกตั้งใจ ยืนยันว่าไม่ต้องการให้ผู้ฝึกมาเพื่อพักผ่อน แต่ให้มาเพื่อฝึกทบทวนถึงองค์ความรู้ทั้งทางด้านภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า โครงการนี้ตนได้กำชับให้ทาง พล.ต.ท.สำราญ ให้คอยกำกับดูแล โดยที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการทบทวนอยู่บ่อยครั้ง แต่ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับข้าราชการตำรวจที่ได้รับอันตรายถึงชีวิต จึงคิดว่าควรมีการฝึกทบทวนยุทธวิธีให้ผู้บริหารชั้นต้นได้ทราบรายละเอียดและการประเมินการปฎิบัติสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะวางแผนเข้าปฎิบัติการในสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่ง เพื่อให้เกิดทักษะความชำนาญในการตัดสินใจ และร่วมปฏิบัติกับผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้ทำการฝึกไปแล้วนั้น ซึ่งตอนนี้ได้ให้ทางสำนักงานกำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำรวจในเรื่องเสื้อเกราะ อาวุธประจำกาย ประจำหน่วย และประจำชุด ซึ่งทางสำนักงานกำลังพลได้นำข้อมูลจัดเตรียมไว้แล้ว และจะเข้าสู่กระบวนการในการจัดทำคำของบประมาณในปี 68

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า สำหรับปืนเทเซอร์ประจำกายของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติการนั้น มีข้อจำกัดในการจัดทำอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องของงบประมาณ โดยจะต้องบริหารงบประมาณที่มีอยู่กับโครงการที่จัดทำให้สอดคล้องกัน ดังนั้นแนวคิดนี้กำลังให้ทางสำนักงานกำลังพลฯ พิจารณาโดยมีแนวคิดปีต่อปี เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความพร้อมในการปฎิบัติหน้าที่และความมั่นใจในการเข้าระงับเหตุ


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า สำหรับการเข้าระงับเหตุที่มีความล่าช้านั้น การเข้าปฎิบัติจำเป็นต้องมีการประเมินสถานการณ์ หากตัดสินใจผิดพลาดแม้แต่เพียงเล็กน้อย อาจจะทำลายสถานการณ์ต่างๆ และประกอบกับกฎหมายที่บัญญัติไว้ในเรื่องสิทธิมนุษยชน จึงทำให้การปฏิบัติการต้องอาศัยเวลาที่ยืดออกไป เพื่อให้เกิดการปฏิบัติที่ลดความเสี่ยงและอันตรายลดลง และในสถานการณ์บางอย่างประชาชนอาจจะมองว่าทางตำรวจปล่อยเวลาให้เนิ่นนาน สิ่งเหล่านี้ตนต้องขออภัย แต่สิ่งนี้คือยุทธวิธีในการประเมินของการปฎิบัติสำหรับเหตุการณ์ก่อเหตุของผู้ก่อเหตุ ที่ต้องคำนึงถึงอาวุธ พฤติกรรม และสภาพแวดล้อม เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสีย

ทั้งนี้ผู้บัญชาการในตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่อยู่ในสถานที่เกิดเหตุ นับว่าเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ดังนั้นการฝึกอบรมทบทวนในโครงการนี้ จึงมีความจำเป็นที่จะทำให้ผู้บัญชาเหตุการณ์ในเวลานั้นตัดสินใจวางแผนและทำให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด โดยสิ่งที่เกิดขึ้นที่ผ่านมาเป็นบทเรียนที่ควรนำมาพิจารณาและฝึกอบรมทบทวนฯ ให้เกิดการลดระยะเวลาและใช้กำลัง รวมไปถึงเกิดความรวดเร็วในการตัดสินใจที่ถูกต้องในการปฏิบัติการครั้งต่อๆ ไป

ด้าน พล.ต.ต.ชรินทร์ กล่าวว่า เนื่องด้วยปัจจุบันปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีความสลับซับซ้อนตามสภาพเศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป การก่อเหตุของคนร้าย มีรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้ยากต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจสายป้องกันปราบปราม ซึ่งรอง ผกก.ป. และ สวป. แต่ละ สน. ถือเป็นผู้บริหารเหตุการณ์ขั้นต้นในกรณีหากเกิดเหตุการณ์ที่มีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการระงับเหตุ จึงจำเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และได้รับการพัฒนาฝึกทบทวนยุทธวิธีอย่างสม่ำเสมอ บช.น. จึงได้จัดให้มีโครงการฝึกอบรมการประเมินสถานการณ์ฯของ บช.น. ขึ้น โดยให้ บก.น. 1-9 พิจารณาคัดเลือกระดับ รอง ผกก.ป. และ สวป. ในสังกัดจำนวน 88 สถานี รวมทั้งสิ้น 245 นาย แบ่งการฝึกทบทวนออกเป็น 5 รุ่น เพื่อให้ผู้สำเร็จการฝึกทบทวน สามารถกลับไปถ่ายทอดยุทธวิธีตำรวจให้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชาประจำสถานีตำรวจได้อีกด้วย โดยกำหนดการฝึกทบทวนตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค. จนถึง 4 ก.ย. 67 รวม 15 วัน ซึ่งมีคณะวิทยากรและเจ้าหน้าที่จาก กก.สายตรวจ บก.สายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ เป็นเจ้าภาพ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดย บช.น. เน้นย้ำให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ ยึดหลักกฎหมาย และเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน ตามนโยบาย ลดอาชญากรรม สร้างความปลอดภัย ใส่ใจบริการ.-419-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

กัมพูชา ทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก

กัมพูชา 19 ก.ค.-กัมพูชาทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก ลั่นยึดมั่นอนุสัญญาออตตาวา ประณามคัดค้าน การผลิต และแสดงความเสียใจผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมผลักดันสู่กระบวนการพิสูจน์ เพื่อรักษามิตรภาพ ความปลอดภัย ไม่กล่าวหาซึ่งกัน เมื่อวันที่ 19 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชอาณาจักรกัมพูชา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้ทำหนังสือ ถึงทางการไทย เรื่อง การปฏิเสธต่อการนําเสนอของสื่อมวลชนไทยจำนวนหนึ่ง กรณีทหารไทย 3 นาย ได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) สำานักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิคและช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (สํานักงานทุ่นระเบิด) ขอแจ้งว่า เมื่อไม่นานมานี้ มีสื่อมวลชนไทยจํานวนหนึ่งได้อ้างอิงแหล่งข้อมูลจากข้าราชการระดับสูงของไทย และเผยแพร่เกี่ยวกับทหารไทย 3 นายได้รับบาดเจ็บจากระเบิด เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 บริเวณพิกัด WA 220861 (ยืนยันโดยฝ่ายไทย) อยู่ในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) การเผยแพร่ดังกล่าว มีเจตนา กล่าวหาโดยไม่มีมูลความจริงและไม่มีการตรวจสอบที่ชัดเจนว่ากัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ ในการนี้สํานักงานทุ่นระเบิด ขอชี้แจงดังนี้ 1.สํานักงานทุ่นระเบิดขอปฏิเสธและปัดตกทั้งหมดต่อเนื้อหาข่าวที่เผยแพร่โดยมีเจตนากล่าวหาว่า กัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ 2.กัมพูชา […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 19 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2568) ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรีภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี […]

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย