“บิ๊กต่าย” ยันตำรวจจำเป็นต้องฝึกทบทวนยุทธวิธีในการเข้าระงับเหตุ

บก.สปพ. 5 ส.ค. – “บิ๊กต่าย” เผยเหตุสูญเสีย 2 ตำรวจ จากการเข้าระงับเหตุ จำเป็นต้องฝึกทบทวนยุทธวิธีตำรวจ ให้มีทักษะความชำนาญ พร้อมรับชมสาธิตยุทธวิธีตำรวจในการเข้าระงับเหตุจับกุมคนร้าย


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รองผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เป็นประธานในพิธีเปิด “โครงการฝึกอบรมการประเมินสถานการณ์ในระดับผู้บริหารขั้นต้นหน้างานป้องกันปราบปรามของ บช.น.” โดยมี พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา รอง ผบช.น., พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ. รวมทั้งผู้แทนระดับ รอง ผบก. บก.น.1-9 รอง ผกก.ป. ทั้ง 88 สน. และผู้เข้ารับการฝึกอบรมฯ รุ่นที่ 1 จำนวน 49 นาย ทั้งนี้มีการสาธิตยุทธวิธีตำรวจในการเข้าระงับเหตุจับกุมคนร้าย

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์การสูญเสียเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ สภ.นาหวาย และเกิดเหตุสูญเสีย “รองหรั่ง” ในพื้นที่ สน.ท่าข้าม จะเห็นได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหากขาดการประเมิน ผู้ที่ได้รับผลกระทบคือทางรองผู้กำกับและสารวัตรเอง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ที่ระดับต่ำกว่านั้นได้มีการฝึกทบทวนยุทธวิธีตำรวจไปแล้ว ทั้งนี้ ทางรองผู้กำกับและสารวัตรจะต้องประเมินนำพาชุดปฏิบัติให้ปลอดภัยไม่ได้รับการอันตรายใด ๆ และสำเร็จในภารกิจนั้นตามหลักยุทธวิธีตำรวจและกฎหมายที่บัญญัติไว้


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณ ผบช.น. รวมไปถึงผู้บังคับการทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องจัดทำโครงการนี้ขึ้นมาสำหรับรองผู้กำกับและสารวัตรภายใต้การกำกับการของ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ซึ่งตนก็ได้พูดคุยกับ พล.ต.ท.สำราญ ตลอดเวลา สิ่งเหล่านี้เป็นการลงทุนงบประมาณจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่คุ้มค่า เพื่อให้ผู้บริหารชั้นต้นในหน้างานป้องกันปราบปรามเกิดทักษะความชำนาญและมีการตัดสินใจที่ส่งประสิทธิภาพที่สุด หวังว่าช่วงเวลาในการอบรมทบทวนโครงการนี้จะต้องเกิดความสำเร็จ แต่ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้จากการที่ทางผู้ฝึกตั้งใจ ยืนยันว่าไม่ต้องการให้ผู้ฝึกมาเพื่อพักผ่อน แต่ให้มาเพื่อฝึกทบทวนถึงองค์ความรู้ทั้งทางด้านภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า โครงการนี้ตนได้กำชับให้ทาง พล.ต.ท.สำราญ ให้คอยกำกับดูแล โดยที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการทบทวนอยู่บ่อยครั้ง แต่ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับข้าราชการตำรวจที่ได้รับอันตรายถึงชีวิต จึงคิดว่าควรมีการฝึกทบทวนยุทธวิธีให้ผู้บริหารชั้นต้นได้ทราบรายละเอียดและการประเมินการปฎิบัติสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะวางแผนเข้าปฎิบัติการในสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่ง เพื่อให้เกิดทักษะความชำนาญในการตัดสินใจ และร่วมปฏิบัติกับผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้ทำการฝึกไปแล้วนั้น ซึ่งตอนนี้ได้ให้ทางสำนักงานกำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำรวจในเรื่องเสื้อเกราะ อาวุธประจำกาย ประจำหน่วย และประจำชุด ซึ่งทางสำนักงานกำลังพลได้นำข้อมูลจัดเตรียมไว้แล้ว และจะเข้าสู่กระบวนการในการจัดทำคำของบประมาณในปี 68

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า สำหรับปืนเทเซอร์ประจำกายของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติการนั้น มีข้อจำกัดในการจัดทำอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องของงบประมาณ โดยจะต้องบริหารงบประมาณที่มีอยู่กับโครงการที่จัดทำให้สอดคล้องกัน ดังนั้นแนวคิดนี้กำลังให้ทางสำนักงานกำลังพลฯ พิจารณาโดยมีแนวคิดปีต่อปี เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความพร้อมในการปฎิบัติหน้าที่และความมั่นใจในการเข้าระงับเหตุ


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า สำหรับการเข้าระงับเหตุที่มีความล่าช้านั้น การเข้าปฎิบัติจำเป็นต้องมีการประเมินสถานการณ์ หากตัดสินใจผิดพลาดแม้แต่เพียงเล็กน้อย อาจจะทำลายสถานการณ์ต่างๆ และประกอบกับกฎหมายที่บัญญัติไว้ในเรื่องสิทธิมนุษยชน จึงทำให้การปฏิบัติการต้องอาศัยเวลาที่ยืดออกไป เพื่อให้เกิดการปฏิบัติที่ลดความเสี่ยงและอันตรายลดลง และในสถานการณ์บางอย่างประชาชนอาจจะมองว่าทางตำรวจปล่อยเวลาให้เนิ่นนาน สิ่งเหล่านี้ตนต้องขออภัย แต่สิ่งนี้คือยุทธวิธีในการประเมินของการปฎิบัติสำหรับเหตุการณ์ก่อเหตุของผู้ก่อเหตุ ที่ต้องคำนึงถึงอาวุธ พฤติกรรม และสภาพแวดล้อม เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสีย

ทั้งนี้ผู้บัญชาการในตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่อยู่ในสถานที่เกิดเหตุ นับว่าเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ดังนั้นการฝึกอบรมทบทวนในโครงการนี้ จึงมีความจำเป็นที่จะทำให้ผู้บัญชาเหตุการณ์ในเวลานั้นตัดสินใจวางแผนและทำให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด โดยสิ่งที่เกิดขึ้นที่ผ่านมาเป็นบทเรียนที่ควรนำมาพิจารณาและฝึกอบรมทบทวนฯ ให้เกิดการลดระยะเวลาและใช้กำลัง รวมไปถึงเกิดความรวดเร็วในการตัดสินใจที่ถูกต้องในการปฏิบัติการครั้งต่อๆ ไป

ด้าน พล.ต.ต.ชรินทร์ กล่าวว่า เนื่องด้วยปัจจุบันปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีความสลับซับซ้อนตามสภาพเศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป การก่อเหตุของคนร้าย มีรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้ยากต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจสายป้องกันปราบปราม ซึ่งรอง ผกก.ป. และ สวป. แต่ละ สน. ถือเป็นผู้บริหารเหตุการณ์ขั้นต้นในกรณีหากเกิดเหตุการณ์ที่มีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการระงับเหตุ จึงจำเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และได้รับการพัฒนาฝึกทบทวนยุทธวิธีอย่างสม่ำเสมอ บช.น. จึงได้จัดให้มีโครงการฝึกอบรมการประเมินสถานการณ์ฯของ บช.น. ขึ้น โดยให้ บก.น. 1-9 พิจารณาคัดเลือกระดับ รอง ผกก.ป. และ สวป. ในสังกัดจำนวน 88 สถานี รวมทั้งสิ้น 245 นาย แบ่งการฝึกทบทวนออกเป็น 5 รุ่น เพื่อให้ผู้สำเร็จการฝึกทบทวน สามารถกลับไปถ่ายทอดยุทธวิธีตำรวจให้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชาประจำสถานีตำรวจได้อีกด้วย โดยกำหนดการฝึกทบทวนตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค. จนถึง 4 ก.ย. 67 รวม 15 วัน ซึ่งมีคณะวิทยากรและเจ้าหน้าที่จาก กก.สายตรวจ บก.สายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ เป็นเจ้าภาพ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดย บช.น. เน้นย้ำให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ ยึดหลักกฎหมาย และเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน ตามนโยบาย ลดอาชญากรรม สร้างความปลอดภัย ใส่ใจบริการ.-419-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

South Korea's presidential election voting place

เกาหลีใต้เลือกตั้ง ปธน.หลังการเมืองวุ่นหลายเดือน

โซล 3 มิ.ย.- ชาวเกาหลีใต้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันนี้ หลังจากการเมืองตกอยู่ในความวุ่นวาย นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีประกาศใช้กฎอัยการศึกเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง 44.39 ล้านคน ในเกาหลีใต้เริ่มออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีตามหน่วยเลือกตั้งต่าง ๆ ทั่วประเทศในวันนี้ ที่เปิดให้ลงคะแนนตั้งแต่เวลา 06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติของเกาหลีใต้ส่งกำลังตำรวจทั้งหมด 28,590 นายไปประจำการตามคูหาเลือกตั้งทั้ง 14,295 แห่งทั่วประเทศเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย การลงคะแนนจะเสร็จสิ้นในเวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น คาดว่าจะทราบผลเลือกตั้งได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังปิดหีบ โดยเมื่อวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่แล้ว มีการจัดให้ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า มีผู้ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนมากกว่า 15 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 34.74 สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่เริ่มให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าได้ตั้งแต่ปี 2557 การเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ต้องจัดขึ้นก่อนกำหนดเดิมที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 มีนาคม 2570 หลังเกิดความวุ่นวายทางการเมืองนานหลายเดือน จากการที่นายยุน ซ็อก ยอล อดีตประธานาธิบดี ประกาศใช้กฎอัยการศึกเป็นเวลาสั้นๆ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ทำให้เขาถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งในเวลาต่อมา หลายฝ่ายมองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการลงประชามติต่อการกระทำของนายยุน มากกว่าการชูนโยบายแข่งขันกันของผู้สมัครชิงตำแหน่ง […]

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

นายกฯ นำทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.- นายกฯ เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ตักบาตรพระสงฆ์ 148 รูป ถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เมื่อเวลา 07.30 น. ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 148 รูป เพื่อถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 ณ บริเวณท้องสนามหลวง โดยมีคณะองคมนตรีและภริยา ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรอิสระและคู่สมรส รองนายกรัฐมนตรีและภริยา รัฐมนตรีว่าการผู้บริหารหน่วยราชการในพระองค์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการทหารและตำรวจ พร้อมภริยา และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมด้วย ทั้งนี้ เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงปะรำพิธี พระสงฆ์จำนวน 10 รูป ในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ขึ้นนั่งอาสน์สงฆ์ จากนั้น […]

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง-ตกหนักบางแห่ง

กทม. 3 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือนมรสุมพัดปกคลุมประเทศไทย ส่งผลให้ยังมีฝนฟ้าคะนองและตกหนักบางแห่ง ทะเลอันดามันคลื่นสูง 2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง .-สำนักข่าวไทย