พบเบาะแสคนร้ายฆ่าฝังดินสาวจีน หนีออกนอกประเทศแล้ว

ฉะเชิงเทรา 13 ก.ค. – ชายชาวจีนต้องสงสัยฆ่าสาวเพื่อนร่วมชาติ หลบหนีออกนอกประเทศแล้ว หลังพบศพฝังดินในพงหญ้าข้างทาง ตรวจสอบวงจรปิดพบขับรถเช่าจากซอยสุขุมวิท 16 มาทิ้งศพ ใน จ.ฉะเชิงเทรา


ความคืบหน้ากรณี ชายชาวจีน เข้าแจ้งความกับ ตร. สน.บางรัก ให้ช่วยตามตัวเพื่อนสาวนักศึกษาชาวจีน ดาวติ๊กต่อก วัย 38 ปี ที่หายตัวไป ครั้งสุดท้ายที่ติดต่อกัน เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา บอกว่าจะเดินทางไป จ.ภูเก็ต ในวันที่ 2 ก.ค. ก่อนจะขาดการติดต่อ และมีรายงานว่าหลังการหายตัวไปของเธอ มีบุคคลปริศนาติดต่อญาติว่าได้จับตัวเธอไว้ โดยข่มขู่เรียกค่าไถ่เป็นเงิน 1 ล้านหยวน หรือ คิดเป็นเงินไทย ประมาณ 5 ล้านบาท สั่งห้ามแจ้งตำรวจ และสถานทูตเด็ดขาด มิฉะนั้นจะไม่รับรองความปลอดภัย

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมกำลังสืบสวนนครบาล ลงพื้นที่หาเบาะแสหญิงชาวจีน ตามคำบอกเล่าของเพื่อนชาย ไล่ตรวจกล้องวงจรปิด กระทั่งพบเบาะแสชายชาวจีน ผู้ต้องสงสัย อยู่กับผู้เสียชีวิต เป็นคนสุดท้ายก่อนหายตัวไป จึงไล่ตรวจสอบจีพีเอส รถต้องสงสัย พบเป็นรถเช่า เดินทางไปพื้นที่เป้าหมายต่างๆ รวม 12 จุด โดยเฉพาะ 1 จุด ในพื้นที่ป่าหญ้ารกร้าง เป็นช่วงทางโค้ง ในพื้นที่ หมู่ 2 ต.บางพระ อ.เมือง ฉะเชิงเทรา ผู้ต้องสงสัยขับรถมาจอด และเปิดฝากระโปรงท้ายหยิบกระเป๋าท้าย รถออกไป โดยใช้เวลาในจุดนี้ประมาณนานปกติ เกือบ 40 นาที จึงสั่งการชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณดังกล่าวอย่างละเอียด


กระทั่งเมื่อช่วงสายที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ พบถุงดำ 2 ถุง ถูกทิ้งอยู่ข้างทางฝั่งตรงข้ามกับป่ารกตรงข้ามหมู่บ้านท่าอิฐ ภายในบรรจุเศษดิน เศษกระเบื้องจนแน่นถุง และถูกแพ็กอย่างดี แต่ยังได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากบริเวณกองเศษกระเบื้อง จึงประสานหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ลงมือขุดกองเศษกระเบื้องบริเวณดังกล่าว ขุดไป 20 เซนติเมตร ก็พบผ้าใบสีฟ้า ก่อนจะเปิดผ้าใบออก พบร่างของหญิงสาวจมอยู่ในน้ำ ในสภาพเน่าเปื่อย เนื่องจากถูกฝังไว้นานมากกว่า 10 วัน แต่ทุกชิ้นส่วนยังอยู่ในสภาพติดกัน ไม่ได้ถูกหั่นแต่อย่างใด และพบก้อนซิลิโคน 1 ก้อน อยู่ภายในน้ำ ส่วนซิลิโคนอีกก้อนยังคงติดอยู่กับหน้าอกฝั่งซ้าย

สำหรับผู้ต้องสงสัย ที่ก่อเหตุดังกล่าว พบข้อมูลว่าเดินออกนอกประเทศไปยังฮ่องกงก่อน จากนั้นไปต่อที่มาเก๊า โดยพบข้อมูลการใช้จ่ายผ่านโทรศัพท์มือถือของผู้สูญหายตั้งแต่วันที่ 4-6 กรกฎาคม ซึ่งตำรวจจะประสานกับ ตม. และสถานทูต เพื่อติดตามตัวมาสอบปากคำ

ขณะที่การตรวจสอบเส้นทางการเดินทางของผู้เสียชีวิต พบเดินทางจากประเทศมาเลเซีย เข้ามาไทยคนเดียว เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ส่วนฝ่ายชายเดินทางจากประเทศสิงคโปร์เข้าไทยวันที่ 30 มิถุนายน โดยผู้เสียชีวิต เคยเข้าไทยมาก่อนหน้านี้แล้ว 10 ครั้ง ส่วนผู้ก่อเหตุ เคยเข้ามาแล้ว 6 ครั้ง ซึ่งเชื่อว่าทั้ง 2 คน เคยรู้จักกันมาก่อน จากนั้นวันที่ 28-29 มิถุนายน ฝ่ายหญิงเดินทางไปพักที่พัทยา โดยเกิดอุบัติเหตุ มีการแจ้งความไว้ที่ สภ.พัทยา ก่อนจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ในวันที่ 30 มิถุนายน และเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งชั่วคราว ก่อนจะไปค้างกับเพื่อนที่บ้านย่านพระราม 9 จากนั้นวันที่ 1 กรกฎาคม พบว่าฝ่ายหญิงเรียกแกร็บไปส่งที่ซอยสุขุมวิท 12 โดยฝ่ายชายขับรถมารับที่จุดนัดพบ และพบว่าทั้งคู่ไปพักในซอยสุขุมวิท 16 ด้วยกัน กระทั่ง เวลา 23.00 น. ของวันเดียวกัน เพื่อนของผู้เสียชวิตมาแจ้งความ ก็ไม่สามารถติดต่อกับฝ่ายหญิงผ่านวีแชตได้ แต่พบว่าโทรศัพท์ยังเปิดเครื่องอยู่


จากการตรวจสอบภาพวงจรปิด พบว่าฝ่ายชายขับรถออกมาคนเดียวจากที่พักในซอยสุขุมวิท 16 มาที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยระหว่างทางมีการชะลอรถจอดเป็นระยะ โดยบางจุดก็จอดนิ่ง แต่ยังอยู่ในรถ และบางจุดลงจากรถ รวม 12 จุด จนกระทั่งมาถึงจุดสุดท้ายที่เป็นจุดเผากระเป๋า ลักษณะเป็นที่รกร้าง และมีบ่อน้ำบริเวณใกล้เคียง พบว่าผู้ต้องสงสัยลงจากรถและหายไป ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง 5 นาที ก่อนจะกลับมาที่รถ และขับออกจากจุดสุดท้าย ในวันที่ 2 กรกฎาคม เวลาประมาณเกือบ 05.00 น. ไปเช่าห้องพักย่านศรีนครินทร์ กรุงเทพฯ ก่อนจะนำรถไปคืน

ขณะที่ การตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐาน ในที่พักย่านศรีนครินทร์ พบคราบเลือดที่อ่างล้างหน้า จากการตรวจสอบรถเช่า พบคราบเลือดภายในรถทั้งบริเวณพื้นที่นั่งคนขับ เบาะหลัง ข้างประตู และกระโปรงรถ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

ระงับจ่ายไฟ

“ภูมิธรรม” สั่งระงับจ่ายไฟฟ้าชายแดน ยันไม่ต้องเข้า ครม.

“ภูมิธรรม” ใช้อำนาจรองนายกฯ ความมั่นคง สั่งระงับจ่ายไฟฟ้าชายแดน ยันทำได้ทันทีไม่ต้องเข้า ครม. พร้อมเปิดระเบียบ กฟภ.สั่งตัดไฟฟ้าเองได้ หากพบกระทบความมั่นคง ลั่นหากหน่วยไหนไม่ทำตาม จะดึงตัวมาช่วยราชการ ชี้ไม่ใช่แม่พระใจดี ที่จะนิ่งเฉยได้ หากเมียนมาไม่ดำเนินการภายใน ก็ต้องรับผลกระทบ

บ่อนนครนายก

ทลายบ่อนกลางทุ่งนานครนายก รวบนักพนันกว่า 200 คน

ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ร่วมกับ ชุดปฎิบัติพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดนครนายก เปิดปฏิบัติการหักเหลี่ยมเจ้าพ่อ บุกทลายบ่อนการพนันกลางทุ่งนาในพื้นที่ อ.องครักษ์ จ.นครนายก จับกุมนักพนันกว่า 200 คน

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช.สั่งหยุดจ่ายไฟ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช. สั่งหยุดจ่ายไฟ ชี้หากเพื่อนบ้านทำผิดกระทบความมั่นคง เตรียมหาแหล่งพลังงานใหม่ มอง กฟภ. ทำเกินหน้าที่ร่วมลงพื้นที่ บอกเป็นหน่วยงานรับปฏิบัติ

นายกฯ​ เปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025

นายกฯ​ ขอการท่องเที่ยวปีนี้ปังๆ ร่วมเปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025 ย้ำรัฐบาลหวังจีดีพีเติบโตจากการท่องเที่ยว มอบผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด จัดกิจกรรมดึงนักท่องเที่ยวทั้งปี ปลุกคนไทยช่วยแชร์ข่าวจริง หลังถูกบิดเบือน​ “สรวงศ์” ตั้งเป้าการท่องเที่ยว 35 ล้านคน