กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – เค้นสอบ 8 ลูกเรือน้ำมันเถื่อนของกลางทั้งคืน ให้การเป็นประโยชน์ สาวถึงคนบงการ-ยันไม่ใช่ “เสี่ยโจ้” เตรียมส่งฝากขังผัดแรก
เมื่อคืนนี้ (18 มิ.น.) ลูกเรือ 8 คนที่ลักเรือของกลาง 3 ลำ ถูก พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และตำรวจหนุมานกองปราบ พาขึ้นเครื่องบินจาก จ.สงขลา มาเค้นสอบต่อที่กองปราบฯ พร้อมของกลางที่ตำรวจเอามาเป็นหลักฐาน พร้อมกับ 8 ลูกเรือ มีทั้ง GPS, วิทยุสื่อสาร และเสื้อผ้าที่ลูกเรือสวมใส่ในวันหลบหนี
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันคำเดิมว่าการสอบปากคำ 8 ลูกเรือในพื้นที่ จ.สงขลา ทุกคนให้การเป็นประโยชน์ ส่วนการเค้นสอบต่อ ตำรวจกองปราบฯ เค้นสอบตลอดคืน โดยเน้นขยายผลไปถึงคนบงการและผู้ว่าจ้าง ก่อนคุมตัวส่งศาลฝากขังวันนี้ (19 มิ.ย.)
ส่วนความคืบหน้าทางคดี ตำรวจ บก.ปอศ., ตำรวจกองบังคับการปราบปราม และอัยการคดีเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน ที่เมื่อวานหารือประเด็นการเอาผิดกับผู้ต้องหาและผู้เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุปว่าจะยังไม่ออกหมายจับใครเพิ่ม แต่หลักฐานในการเอาผิดต้องเร่งรวบรวม เพื่อเอาผิดคนสั่งการ 1 คน โดยต้องพิสูจน์ทราบตัวบุคคลให้ชัดเจนว่า “นาย จ.” เป็นใคร เพราะข้อมูลขณะนี้ยืนยันไม่ใช่ “เสี่ยโจ้ ปัตตานี”
ด้านลูกเรือ 7 คนที่หายไปขณะพาเรือหลบหนี หากตามจับได้ต้องถูกเอาผิดใน 2 คดีหลัก คือ คดีน้ำมันเถื่อน และลักเรือของกลาง ล่าสุดตำรวจมีข้อมูลว่าหลังมีการนํานํ้ามันไปขายให้เรือลําหนึ่ง ลูกเรือบางส่วนได้ขึ้นเรือลํานั้นไป ซึ่งหากหนีไปประเทศเพื่อนบ้านคงต้องออกหมายแดงตํารวจสากล เพื่อติดตามตัวกลับมาดําเนินคดี ส่วนน้ำมันที่หายไปยืนยันไม่กระทบต่อสำนวนคดี เพราะตำรวจได้ตรวจสอบน้ำมันของกลางไปแล้วก่อนที่เรือจะหายไป และสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไปกว่า 10 ปาก
ยังอุบชื่อ “จ.” บงการขโมยเรือ-สัปดาห์หน้าออกหมายจับตัวการใหญ่
ด้าน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม ให้ข้อมูลสอดคล้องกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ คือ 8 ลูกเรือให้การเป็นประโยชน์ เพราะถูกจับได้พร้อมเรือของกลาง การจะปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็น ไม่เกี่ยวข้อง เป็นไปได้ยาก แต่ประเด็นเรื่องบุคคลอักษรย่อ “จ.” ยังเปิดเผยในรายละเอียดไม่ได้ แต่คาดว่าไม่เกินสัปดาห์หน้าหลายเรื่องจะกระจ่าง และมีการออกหมายจับตัวการใหญ่ในคดีนี้ รวมถึงยืนยันชุดสืบพบข้อมูลว่าคดีนี้มีการวางแผนล่วงหน้า และมีคนเกี่ยวข้องมากกว่า 1 คนแน่นอน
กองปราบฯ โบ้ย ตร.น้ำ สอบข้อเท็จจริง “แชทลับ”
ส่วนกรณีมีบุคคลใกล้ชิด “นาย จ.” เปิดเผยว่ามีตํารวจเรียกรับส่วย โดยอ้างเป็นผู้กํากับ น. ในพื้นที่นั้น พ.ต.อ.เอนก บอกคงต้องไปถามผู้บังคับการตํารวจนํ้า เนื่องจากมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะกองปราบฯ รับผิดชอบเพียง 2 เรื่อง คือ การสืบสวนในคดีเดิมเกี่ยวกับการจับกุมเรือทั้ง 5 ลํา และเรื่องเรือหาย รวมถึงการสืบสวนขยายผลเพิ่ม
เปิดแชทลับ “โจ้ ปัตตานี” คุย ตร. ถามจ่ายแล้วทำไมยังโดนจับ
พูดถึงแชทลับ นี่เป็นแชทที่แหล่งข่าวคนใกล้ชิด “โจ้ ปัตตานี” ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าของเรือของกลางอีก 2 ลำที่ยังจอดลอยลำ ไม่ได้ถูกขโมยไป ได้เปิดหลักฐานให้นักข่าวดู พบว่าแชทดังกล่าวเป็นการพูดคุยกับตำรวจยศผู้กำกับนายหนึ่ง ที่ถูกเรียกว่าแม่บ้านตำรวจน้ำ
การสนทนาเริ่มตั้งแต่ก่อนถูกจับกุมเดือนมีนาคม ตำรวจได้ติดต่อมาแนะนำตัวกับโจ้ว่าเป็นคนมารับไม้ต่อจากตำรวจอีกนาย โดยมีการสนาทนาเรื่องการรับของส่งของ และสอบถามว่าทำไมของถึงไม่ส่งมาให้ตำรวจ
จากนั้น “โจ้” ได้แชทกับตำรวจนายเดิมอีกครั้ง หลังเรือทั้ง 5 ลำ ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ข้อความประมาณว่าตัวเองมีความผิดอะไรถึงต้องทำแบบนี้ เรือของกลางอีก 2 ลำ ที่จับมาก็มีการดูแลรายการไม่ใช่หรือ แต่ยังจับเขามา เขาเสียใจมาก และหุ้นส่วนก็ไม่พอใจ ตำรวจนายดังกล่าวตอบกลับว่า ได้รับคำสั่งจากผู้ใหญ่มา ต้องเข้าใจด้วย เพราะตัวเองก็ตำแหน่งเล็กๆ พร้อมบอกว่าไม่เคยได้รับรายการเหมือนเลย
จากนั้น “โจ้” ได้ถามต่อว่าตัวเองอยู่เมืองนอกต้องทำอย่างไร ตำรวจได้บอกต่อว่าให้ต่อสู้คดีไปตามหน้าที่ก่อน “โจ้” ถามต่อว่าไม่มีทางอื่นเลยหรือ นายตำรวจได้ตอบกลับไปว่า เป็นแค่คนรับคำสั่ง “โจ้” ถามต่ออีกว่าเป็นหน้าเสื่อแล้วยังออกไปจับกันอีก แล้วต่อไปจะทำหน้าที่นี้อย่างไร นายตำรวจได้ตอบกลับไปว่าตัวเองลาออกแล้ว ผู้บังคับบัญชาสั่งปลด
ย้ำว่าข้อมูลนี้เป็นการกล่าวอ้าง เรานำเสนอตามข้อมูลที่ได้มา และตำรวจคงต้องสืบหาข้อเท็จจริงต่อไป.-สำนักข่าวไทย