ผอ.เขตหนองแขม สั่งปิดพื้นที่-เร่งขนย้ายถังเคมีออกวันนี้

กรุงเทพฯ 23 พ.ค. – ผอ.เขตหนองแขม เผยเหตุถังบรรจุสารเคมีระเบิดในบ้านพัก เสียชีวิต 1 ราย สั่งเร่งตรวจสอบใบขออนุญาตเจ้าของกิจการ พร้อมกำหนดเป็นพื้นที่อันตราย ประสานเจ้าของขนย้ายถังสารเคมีออกภายในวันนี้


เมื่อเวลา 11.22 น. วันนี้ (23 พ.ค.) เกิดเหตุระเบิดขึ้น ในบ้านพักหลังหนึ่ง ใน ซ.เพชรเกษม 77/8 เขตหนองแขม กรุงเทพฯ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์สองชั้น จุดเกิดเหตุอยู่ด้านข้างประตูบ้าน ติดถนนพบเศษเหล็ก และเศษถังสำหรับบรรจุออกซิเจนกระจัดกระจายเป็นบริเวณกว้าง และยังพบ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายบัณฑิต อายุ 30 ปี อยู่ในสภาพลำตัวขาดครึ่งท่อน อวัยวะส่วนขาและแขน กระเด็นออกไปไกลจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 ถึง 30 เมตร ส่วนถังที่ระเบิดกระเด็นไปไกล 100 เมตร ถูกบ้านเรือนของประชาชนใกล้เคียง เสียหาย 3-4 หลังคาเรือน และบางส่วนแตกกระจัดกระจายอยู่บริเวณบ้านพัก จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายกำลังยกถังออกซิเจนขึ้นรถกระบะที่จอดอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ เพื่อนำไปไว้ที่โรงงานย่านสมุทรสาคร แต่ในระหว่างการขนย้ายถัง เกิดการระเบิดขึ้นมาอย่างรุนแรง โดยแรงอัดร่างผู้ตาย จนกระเด็นออกมานอกบ้านก่อนจะเสียชีวิต

ขณะที่นายชัยวัฒน์ เจ้าของกิจการและเจ้าของ บ้านหลังเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่า ส่วนตัวประกอบกิจการจัดเก็บถังออกซิเจนจากโรงงานอุตสาหกรรม โดยถังออกซิเจน มาพักไว้ที่บ้านหลังดังกล่าว เพื่อเตรียมนำไปเติมออกซิเจนจากโรงงาน ก่อนนำถังเหล่านี้ ส่งให้โรงงานอุตสาหกรรมอีกทอดหนึ่ง ไม่ได้ประกอบ หรือมีการต่อเติมถังออกซิเจนแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุการเกิดระเบิดขึ้น เป็นช่วงเวลาที่คนงาน กำลังขนถังออกซิเจนเปล่าขึ้นรถกระบะ เพื่อนำไปเติมออกซิเจน แต่ไม่ทราบว่าเกิดระเบิดได้อย่างไร ซึ่งโดยปกติ เป็นไปได้ยาก สันนิษฐานว่าถังที่ระเบิดอาจมีออกซิเจนหลงเหลืออยู่ภายใน แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอการตรวจสอบจาก ตำรวจ สน.หนองแขม และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อหาสาเหตุการระเบิดอีกครั้ง


ด้าน แฟนสาวผู้เสียชีวิต เดินทางมาที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เนื่องจากเสียใจและรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอเจ้าหน้าที่ไปดูร่างแฟนหนุ่ม โดยเมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปสอบถามข้อมูล ว่า เมื่อเช้าได้คุยกับผู้ตายหรือไม่ เธอบอกว่าไม่ได้คุยกัน แฟนหนุ่มทำงานนี้มานาน เป็น 10 ปี และเธอก็เคยบอกว่างานนี้มันอันตราย แต่เขาก็ทำมานาน และอุปกรณ์ป้องกันแฟนหนุ่มก็ใส่บ้างไม่ใส่บ้าง แต่ก็ยอมรับว่าแฟนเป็นคนสูบบุหรี่

ขณะที่ นางสาวธนัญญา ผู้เห็นเหตุการณ์ และได้ยินเสียงระเบิด บอกว่าได้ยินเสียงระเบิด ดังสนั่นหวั่นไหว และรู้สึกเหมือนมีเศษบางอย่างกระเด็นมาโดนหลังคาบ้าน จึงวิ่งออกมาดูก็เห็นกลุ่มควันจำนวนมากพวยพุ่งแต่ตอนนั้นยังไม่เห็นผู้เสียชีวิตหรือผู้บาดเจ็บเธอ จึงรีบโทรแจ้ง 191 ยอมรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเธอตกใจมากเพราะบ้านเธอและละแวกนี้มีแต่ผู้สูงอายุพร้อมบอกว่าก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ภายในซอยเดียวกันเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว

เช่นเดียวกับนายนิธิ เพื่อนบ้าน ที่ติดกับหลังที่เกิดเหตุบอกว่า รู้จักกับเจ้าของมานาน พร้อมเล่าเหตุการณ์ว่าได้ยินเสียงรถมาจอด ซึ่งจะมาแบบนี้ทุกวัน แต่วันนี้มาจอดเพียง 5 นาที ก็ได้ยินเสียงระเบิดดังจึงรีบวิ่งออกจากบ้านเพราะรู้ว่า เป็นเสียงจากแก๊สระเบิด เมื่อวิ่งออกมาดูก็เห็นควัน และฝุ่นกระจายเต็มพื้นที่แต่ยังไม่เห็นผู้เสียชีวิตหรือผู้บาดเจ็บ พร้อมยอมรับรู้สึกกังวล เพราะบ้านหลังดังกล่าวเก็บถังแก๊สมากกว่า 10 ปี ถังค่อนข้างเก่า และก็กลัวว่าสักวันจะเกิดแก๊สระเบิด หากระเบิดบ้านตนคงพังไปด้วย โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่า ยังโชคดีที่ระเบิดเพียงถังเดียว หากระเบิดพร้อมกันหลายถังอาจจะสูญเสียมากกว่านี้ ส่วนบ้านตนนั้นได้รับความเสียหายบางส่วนที่บริเวณกำแพงที่รั้วติดกันกับบ้านที่เกิดเหตุ กระจกประตูได้รับความเสียหาย


ด้านผู้อำนวยการเขตหนองแขมเปิดเผยว่า ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบถังออกซิเจน จำนวน 37 ถัง ถังคาร์บอนไดออกไซด์จำนวน 16 ถัง และถังบรรจุแก๊ซอเซทิลีน จำนวน 18 ถัง รวมทั้งหมด 71 ถัง ซึ่งผู้ประกอบการระบุว่าเป็นถังเปล่าที่รับมาจากโรงงานอุตสาหกรรม นำมาเก็บเอาไว้เพื่อเตรียมนำไปบรรจุสารเคมี และส่งกลับไปยังโรงงานอุตสาหกรรม ส่วนถังเคมีที่ระเบิด เบื้องต้นระบุว่าเป็นถังที่บรรจุแก๊ซอเซทิลีน เป็นสารเคมีที่ใช้สำหรับเชื่อมโลหะในภาคอุตสาหกรรม เบื้องต้นจากการตรวจสอบบริเวณสถานที่เกิดเหตุไม่พบว่าได้ขออนุญาตในการจัดเก็บทางเคมีอย่างถูกต้อง ซึ่งสำนักงานเขตจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานประสานกับทางพนักงานสอบสวน และพิสูจน์หลักฐาน เตรียมดำเนินคดีกับเจ้าของกิจการ และสั่งให้ปิดพื้นที่เกิดเหตุโดยทันที โดยกำหนดให้เป็นพื้นที่อันตราย เร่งประสานทางเจ้าของกิจการนำทางเคมีที่มีความเสี่ยง เช่นถังแก๊ซอเซทิลีน ออกจากพื้นที่ภายในวันนี้ ส่วนสาเหตุการระเบิดขณะนี้ยังต้องรอผลพิสูจน์จากกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจว่าเกิดด้วยสาเหตุใด

นายชุม สนสายัณต์ หัวหน้าสถานีดับเพลิงบางแค เปิดเผยว่า การระเบิดดังกล่าว หากมีแก๊ซที่คงค้างในถัง หากใช้ไม่หมดถ้ามีการเคลื่อนย้ายหรือตกกระแทกก็อาจจะทำให้ระเบิดได้ ส่วนกรณีถังอาจจะเสื่อมสภาพเป็นสาเหตุเกิดระเบิดขึ้นนั้น ปกติแล้วทางโรงงานที่บรรจุจะต้องตรวจสอบถัง ถ้าชำรุดก็จะไม่มีการบรรจุลงไป อีกหนึ่งข้อสงสัย คือถังอะซิทิลีนเป็นวัตถุไวไฟ มีความเป็นไปได้ หากเกิดประกายไฟจากจุดไฟบุหรี่ ขณะที่มีแก๊ซรั่วไหล หรือทางคนงานพยายามเปิดวาล์วเพื่อระบายก๊าซออกจากถัง ซึ่งข้อสรุปยังต้องรอเจ้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบให้ชัดเจนมากกว่านี้

อ.อ๊อดคาดเหตุแก๊สระเบิด เกิดจากถังก๊าซอะเซทิลีน

ด้าน รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ และผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หรือ อ.อ๊อด ให้ข้อมูล กรณีเรื่องถังออกซิเจน ระเบิดว่า จากภาพที่เกิดเหตุทราบว่า พบว่ามีถังออกซิเจนสีเขียว โดยจะมีคุณสมบัติถังวาล์ว CGA540 มาตรฐาน ISO9809-3 เหล็กหนาปั้มขึ้นรูปไร้รอยตะเข็บ แรงดัน 1500-2000 PSI ขนาดบรรจุ 10L – 40L ปริมาตรบรรจุ 0.5m3 – 6m3

ส่วนถังสีแดง บรรจุก๊าซอะเซทิลีน ซึ่งมีแรงดันค่อนข้างสูง และเป็นก๊าซไวไฟ ในภาคอุตสาหกรรมมักใช้คู่กัน และจากร่างผู้เสียชีวิตมีเขม่าเป็นสีเทาดำ น่าจะเกิดจากการติดไฟ หรือเกิดปฏิกิริยาติดไฟ จึงเชื่อว่าเกิดจากก๊าซอะเซทิลีน ขนาด 40 ลิตร มีแรงดันค่อนข้างสูง อยู่ที่ 1500-2000 PSI หากถังเก่าขึ้นสนิมและตกหล่นถูกกระแทก จะทำให้ถังโลหะฉีกขาด เกิดระเบิดขึ้นได้จึงถือเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้ประกอบการ ต้องระมัดระวังในการตรวจเช็คสภาพถังออกซิเจนรวมถึงผู้ที่ทำงานในด้านนี้ต้องใช้ความระมัดระวังในการขนย้าย และการบรรจุก๊าซออกซิเจนถึง 2000 PSI ควรใช้ถังใหม่ที่มี ISO มาตรฐาน มอก. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย