ผอ.เขตหนองแขม สั่งปิดพื้นที่-เร่งขนย้ายถังเคมีออกวันนี้

กรุงเทพฯ 23 พ.ค. – ผอ.เขตหนองแขม เผยเหตุถังบรรจุสารเคมีระเบิดในบ้านพัก เสียชีวิต 1 ราย สั่งเร่งตรวจสอบใบขออนุญาตเจ้าของกิจการ พร้อมกำหนดเป็นพื้นที่อันตราย ประสานเจ้าของขนย้ายถังสารเคมีออกภายในวันนี้


เมื่อเวลา 11.22 น. วันนี้ (23 พ.ค.) เกิดเหตุระเบิดขึ้น ในบ้านพักหลังหนึ่ง ใน ซ.เพชรเกษม 77/8 เขตหนองแขม กรุงเทพฯ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์สองชั้น จุดเกิดเหตุอยู่ด้านข้างประตูบ้าน ติดถนนพบเศษเหล็ก และเศษถังสำหรับบรรจุออกซิเจนกระจัดกระจายเป็นบริเวณกว้าง และยังพบ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายบัณฑิต อายุ 30 ปี อยู่ในสภาพลำตัวขาดครึ่งท่อน อวัยวะส่วนขาและแขน กระเด็นออกไปไกลจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 ถึง 30 เมตร ส่วนถังที่ระเบิดกระเด็นไปไกล 100 เมตร ถูกบ้านเรือนของประชาชนใกล้เคียง เสียหาย 3-4 หลังคาเรือน และบางส่วนแตกกระจัดกระจายอยู่บริเวณบ้านพัก จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายกำลังยกถังออกซิเจนขึ้นรถกระบะที่จอดอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ เพื่อนำไปไว้ที่โรงงานย่านสมุทรสาคร แต่ในระหว่างการขนย้ายถัง เกิดการระเบิดขึ้นมาอย่างรุนแรง โดยแรงอัดร่างผู้ตาย จนกระเด็นออกมานอกบ้านก่อนจะเสียชีวิต

ขณะที่นายชัยวัฒน์ เจ้าของกิจการและเจ้าของ บ้านหลังเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่า ส่วนตัวประกอบกิจการจัดเก็บถังออกซิเจนจากโรงงานอุตสาหกรรม โดยถังออกซิเจน มาพักไว้ที่บ้านหลังดังกล่าว เพื่อเตรียมนำไปเติมออกซิเจนจากโรงงาน ก่อนนำถังเหล่านี้ ส่งให้โรงงานอุตสาหกรรมอีกทอดหนึ่ง ไม่ได้ประกอบ หรือมีการต่อเติมถังออกซิเจนแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุการเกิดระเบิดขึ้น เป็นช่วงเวลาที่คนงาน กำลังขนถังออกซิเจนเปล่าขึ้นรถกระบะ เพื่อนำไปเติมออกซิเจน แต่ไม่ทราบว่าเกิดระเบิดได้อย่างไร ซึ่งโดยปกติ เป็นไปได้ยาก สันนิษฐานว่าถังที่ระเบิดอาจมีออกซิเจนหลงเหลืออยู่ภายใน แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอการตรวจสอบจาก ตำรวจ สน.หนองแขม และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อหาสาเหตุการระเบิดอีกครั้ง


ด้าน แฟนสาวผู้เสียชีวิต เดินทางมาที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เนื่องจากเสียใจและรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอเจ้าหน้าที่ไปดูร่างแฟนหนุ่ม โดยเมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปสอบถามข้อมูล ว่า เมื่อเช้าได้คุยกับผู้ตายหรือไม่ เธอบอกว่าไม่ได้คุยกัน แฟนหนุ่มทำงานนี้มานาน เป็น 10 ปี และเธอก็เคยบอกว่างานนี้มันอันตราย แต่เขาก็ทำมานาน และอุปกรณ์ป้องกันแฟนหนุ่มก็ใส่บ้างไม่ใส่บ้าง แต่ก็ยอมรับว่าแฟนเป็นคนสูบบุหรี่

ขณะที่ นางสาวธนัญญา ผู้เห็นเหตุการณ์ และได้ยินเสียงระเบิด บอกว่าได้ยินเสียงระเบิด ดังสนั่นหวั่นไหว และรู้สึกเหมือนมีเศษบางอย่างกระเด็นมาโดนหลังคาบ้าน จึงวิ่งออกมาดูก็เห็นกลุ่มควันจำนวนมากพวยพุ่งแต่ตอนนั้นยังไม่เห็นผู้เสียชีวิตหรือผู้บาดเจ็บเธอ จึงรีบโทรแจ้ง 191 ยอมรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเธอตกใจมากเพราะบ้านเธอและละแวกนี้มีแต่ผู้สูงอายุพร้อมบอกว่าก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ภายในซอยเดียวกันเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว

เช่นเดียวกับนายนิธิ เพื่อนบ้าน ที่ติดกับหลังที่เกิดเหตุบอกว่า รู้จักกับเจ้าของมานาน พร้อมเล่าเหตุการณ์ว่าได้ยินเสียงรถมาจอด ซึ่งจะมาแบบนี้ทุกวัน แต่วันนี้มาจอดเพียง 5 นาที ก็ได้ยินเสียงระเบิดดังจึงรีบวิ่งออกจากบ้านเพราะรู้ว่า เป็นเสียงจากแก๊สระเบิด เมื่อวิ่งออกมาดูก็เห็นควัน และฝุ่นกระจายเต็มพื้นที่แต่ยังไม่เห็นผู้เสียชีวิตหรือผู้บาดเจ็บ พร้อมยอมรับรู้สึกกังวล เพราะบ้านหลังดังกล่าวเก็บถังแก๊สมากกว่า 10 ปี ถังค่อนข้างเก่า และก็กลัวว่าสักวันจะเกิดแก๊สระเบิด หากระเบิดบ้านตนคงพังไปด้วย โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่า ยังโชคดีที่ระเบิดเพียงถังเดียว หากระเบิดพร้อมกันหลายถังอาจจะสูญเสียมากกว่านี้ ส่วนบ้านตนนั้นได้รับความเสียหายบางส่วนที่บริเวณกำแพงที่รั้วติดกันกับบ้านที่เกิดเหตุ กระจกประตูได้รับความเสียหาย


ด้านผู้อำนวยการเขตหนองแขมเปิดเผยว่า ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบถังออกซิเจน จำนวน 37 ถัง ถังคาร์บอนไดออกไซด์จำนวน 16 ถัง และถังบรรจุแก๊ซอเซทิลีน จำนวน 18 ถัง รวมทั้งหมด 71 ถัง ซึ่งผู้ประกอบการระบุว่าเป็นถังเปล่าที่รับมาจากโรงงานอุตสาหกรรม นำมาเก็บเอาไว้เพื่อเตรียมนำไปบรรจุสารเคมี และส่งกลับไปยังโรงงานอุตสาหกรรม ส่วนถังเคมีที่ระเบิด เบื้องต้นระบุว่าเป็นถังที่บรรจุแก๊ซอเซทิลีน เป็นสารเคมีที่ใช้สำหรับเชื่อมโลหะในภาคอุตสาหกรรม เบื้องต้นจากการตรวจสอบบริเวณสถานที่เกิดเหตุไม่พบว่าได้ขออนุญาตในการจัดเก็บทางเคมีอย่างถูกต้อง ซึ่งสำนักงานเขตจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานประสานกับทางพนักงานสอบสวน และพิสูจน์หลักฐาน เตรียมดำเนินคดีกับเจ้าของกิจการ และสั่งให้ปิดพื้นที่เกิดเหตุโดยทันที โดยกำหนดให้เป็นพื้นที่อันตราย เร่งประสานทางเจ้าของกิจการนำทางเคมีที่มีความเสี่ยง เช่นถังแก๊ซอเซทิลีน ออกจากพื้นที่ภายในวันนี้ ส่วนสาเหตุการระเบิดขณะนี้ยังต้องรอผลพิสูจน์จากกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจว่าเกิดด้วยสาเหตุใด

นายชุม สนสายัณต์ หัวหน้าสถานีดับเพลิงบางแค เปิดเผยว่า การระเบิดดังกล่าว หากมีแก๊ซที่คงค้างในถัง หากใช้ไม่หมดถ้ามีการเคลื่อนย้ายหรือตกกระแทกก็อาจจะทำให้ระเบิดได้ ส่วนกรณีถังอาจจะเสื่อมสภาพเป็นสาเหตุเกิดระเบิดขึ้นนั้น ปกติแล้วทางโรงงานที่บรรจุจะต้องตรวจสอบถัง ถ้าชำรุดก็จะไม่มีการบรรจุลงไป อีกหนึ่งข้อสงสัย คือถังอะซิทิลีนเป็นวัตถุไวไฟ มีความเป็นไปได้ หากเกิดประกายไฟจากจุดไฟบุหรี่ ขณะที่มีแก๊ซรั่วไหล หรือทางคนงานพยายามเปิดวาล์วเพื่อระบายก๊าซออกจากถัง ซึ่งข้อสรุปยังต้องรอเจ้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบให้ชัดเจนมากกว่านี้

อ.อ๊อดคาดเหตุแก๊สระเบิด เกิดจากถังก๊าซอะเซทิลีน

ด้าน รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ และผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หรือ อ.อ๊อด ให้ข้อมูล กรณีเรื่องถังออกซิเจน ระเบิดว่า จากภาพที่เกิดเหตุทราบว่า พบว่ามีถังออกซิเจนสีเขียว โดยจะมีคุณสมบัติถังวาล์ว CGA540 มาตรฐาน ISO9809-3 เหล็กหนาปั้มขึ้นรูปไร้รอยตะเข็บ แรงดัน 1500-2000 PSI ขนาดบรรจุ 10L – 40L ปริมาตรบรรจุ 0.5m3 – 6m3

ส่วนถังสีแดง บรรจุก๊าซอะเซทิลีน ซึ่งมีแรงดันค่อนข้างสูง และเป็นก๊าซไวไฟ ในภาคอุตสาหกรรมมักใช้คู่กัน และจากร่างผู้เสียชีวิตมีเขม่าเป็นสีเทาดำ น่าจะเกิดจากการติดไฟ หรือเกิดปฏิกิริยาติดไฟ จึงเชื่อว่าเกิดจากก๊าซอะเซทิลีน ขนาด 40 ลิตร มีแรงดันค่อนข้างสูง อยู่ที่ 1500-2000 PSI หากถังเก่าขึ้นสนิมและตกหล่นถูกกระแทก จะทำให้ถังโลหะฉีกขาด เกิดระเบิดขึ้นได้จึงถือเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้ประกอบการ ต้องระมัดระวังในการตรวจเช็คสภาพถังออกซิเจนรวมถึงผู้ที่ทำงานในด้านนี้ต้องใช้ความระมัดระวังในการขนย้าย และการบรรจุก๊าซออกซิเจนถึง 2000 PSI ควรใช้ถังใหม่ที่มี ISO มาตรฐาน มอก. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ถกเหตุ “ภูเก็ต-พังงา” ขอมั่นใจทุกหน่วยงานดูแลอย่างดี

ทำเนียบ 27 มิ.ย.- นายกฯ เรียก ผบ.ตร.-ผบช.ทท.-ปลัดท่องเที่ยว รายงานสถานการณ์ลอบวางระเบิด “ภูเก็ต-พังงา” ขอประชาชน-นักท่องเที่ยวมั่นใจทุกหน่วยงานดูแลอย่างดี ขณะที่ “ภูมิธรรม” เรียกหน่วยงานความมั่นคงถกช่วงบ่าย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความภายหลังเชิญ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (ผบช.ทท.) และน.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่าจากสถานการณ์ที่มีความพยายามวางระเบิดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต-พังงา วันนี้ (27 มิ.ย.) ดิฉันได้เชิญท่าน ผบ.ตร. ท่านผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และท่านปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อติดตามสถานการณ์ดังกล่าว โดยได้รับรายงานจากทุกภาคส่วนว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ก่อความวุ่นวายในพื้นที่เพื่อให้เกิดความไม่สงบ ดิฉันได้ย้ำทุกภาคส่วนให้มีการสืบสวนติดตามสถานการณ์นี้มาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ดำเนินทุกมาตรการความปลอดภัย เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดแก่พี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตามค่ะ รัฐบาลจะไม่ประมาท ทางสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ จะดำเนินการติดตามและยกระดับการทำงานต่อไปอย่างเข้มงวด โดยในช่วงบ่ายวันนี้ ทางท่านรองนายกฯ ภูมิธรรม จะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์ เฝ้าระวัง และเร่งออกมาตรการที่เด็ดขาดต่อไป ในนามรัฐบาล ดิฉันขอให้พี่น้องประชาชนทุกคนมั่นใจว่าทุกหน่วยงานจะดูแลเรื่องนี้อย่างดีที่สุด และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ทำหน้าที่นี้ด้วยความตั้งใจ เสียสละ […]

“ชัยเกษม” ลั่นหากจำเป็น พร้อมเป็นนายกฯ เพื่อชาติบ้านเมือง

27 มิ.ย. – “ชัยเกษม” ลั่นพร้อมทำเพื่อชาติ หากจำเป็นต้องทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ตอนนี้แข็งแรง ไม่มีปัญหา ท่ามกลางกระแสการเมืองร้อนแรง ปมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ทำให้บุคคลที่ถูกจับตามองตอนนี้ คือ นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ ลำดับที่ 3 ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ อาจถูกมองว่ามีปัญหาด้านสุขภาพแต่ล่าสุด มีภาพนายชัยเกษม โชว์สวิงออกรอบตีกอล์ฟ แสดงให้เห็นถึงร่างกายที่แข็งแรง ล่าสุด เจ้าตัวได้เปิดเผยในรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ทางช่อง 9 MCOT HD ว่า “ตอนนี้แข็งแรง เรียบร้อยหมดทุกอย่าง เพราะก้อนเลือดที่ท้ายทอย สลายไปหมดแล้ว ชีวิตก็ปกติ ไม่มีปัญหา ตอนไปพบหมอครั้งล่าสุด หมอก็บอกว่าโชคดีมหาศาลที่หายแล้ว เมื่อวานไปตีกอล์ฟได้สบายเลย ตอนนี้สุขใจ สบายใจแล้ว” เมื่อถามว่า พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี หรือไม่ นายชัยเกษม ตอบว่า “ไม่จำเป็นต้องให้เป็นหรอก ถ้าเลี่ยงได้ ก็ให้คนอื่นเขาทำเถอะ ผมทำมาเยอะแล้ว แต่ถ้าจำเป็นก็ได้เพราะไม่มีอะไร แต่อย่าให้จำเป็นเลย คนอื่นก็มีเยอะแยะ […]

แม่ทัพภาคที่ 2 ปัดให้ความเห็น “ฮุนเซน” ไลฟ์พาดพิง

ทำเนียบ 27 มิ.ย.-แม่ทัพภาคที่2 ปัดให้ความเห็น “ฮุนเซน” ไลฟ์พาดพิง บอกเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องจัดการเอง ยันขอทำหน้าที่ของตนเอง ไม่เคยหวั่นไหว ชี้สถานการณ์ชายแดน ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง​ ไม่ถึงขั้นใช้อาวุธ​ ขอรอกัมพูชาตัดสินใจร่วมวงเจรจา RBC เชื่อสถานการณ์ไทย-กัมพูชา จบก่อนเกษียณ พลโทบุญสิน​ พาด​กลาง​ แม่ทัพ​ภาค​ที่​ 2 กล่าวถึงกรณีสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ไลฟ์พาดพิงประเทศไทยได้รับรายงานเรื่องนี้แล้วหรือไม่ ว่า คงเป็นเรื่องของรัฐบาล แต่ตนก็ติดตามอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีและทีมงานที่ต้องไปแก้ไข ส่วนกองทัพก็ดูแลเรื่องของความมั่นคง พื้นที่ตามชายแดนเป็นหลัก​ เมื่อถามถึงสถานการณ์ชายแดนขณะนี้เป็นเช่นไร​ พลโทบุญสิน​ กล่าวว่า เราก็ตรึงกำลังอยู่ ส่วนทางกัมพูชาก็ยังไม่ได้มีการถอนกำลังออกจากพื้นที่ เพื่อรอความชัดเจนจากทั้งสองประเทศ แต่อย่างไรก็ต้องยึดตามนโยบายของผู้นำทั้ง 2 ประเทศเช่นกัน ว่าจะคุยกันอย่างไรต่อ ส่วนทหารก็ต้องทำหน้าที่ของทหารต่อไป คือการควบคุมกำกับดูแลตามแนวชายแดน ให้เป็นปกติดีที่สุด เมื่อถามว่าได้รับสัญญาณบวกจากทางกัมพูชาบ้างหรือไม่ พลโทบุญสิน​ ระบุว่า ก็ดีมีการพูดคุยกันตลอด มีสัญญาณบวกตั้งแต่การปรับกำลังที่ช่องบก​ อำเภอน้ำยืน​ จังหวัดอุบลราชธานี แต่รอการเจรจาระหว่างผู้นำ 2 ประเทศ ส่วนกรณีที่สมเด็จฮุนเซน มีการเปลี่ยนตำแหน่งเป็นเสนาธิการทหารสูงสุด […]

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย