ผอ.เขตหนองแขม สั่งปิดพื้นที่-เร่งขนย้ายถังเคมีออกวันนี้

กรุงเทพฯ 23 พ.ค. – ผอ.เขตหนองแขม เผยเหตุถังบรรจุสารเคมีระเบิดในบ้านพัก เสียชีวิต 1 ราย สั่งเร่งตรวจสอบใบขออนุญาตเจ้าของกิจการ พร้อมกำหนดเป็นพื้นที่อันตราย ประสานเจ้าของขนย้ายถังสารเคมีออกภายในวันนี้


เมื่อเวลา 11.22 น. วันนี้ (23 พ.ค.) เกิดเหตุระเบิดขึ้น ในบ้านพักหลังหนึ่ง ใน ซ.เพชรเกษม 77/8 เขตหนองแขม กรุงเทพฯ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์สองชั้น จุดเกิดเหตุอยู่ด้านข้างประตูบ้าน ติดถนนพบเศษเหล็ก และเศษถังสำหรับบรรจุออกซิเจนกระจัดกระจายเป็นบริเวณกว้าง และยังพบ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายบัณฑิต อายุ 30 ปี อยู่ในสภาพลำตัวขาดครึ่งท่อน อวัยวะส่วนขาและแขน กระเด็นออกไปไกลจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 ถึง 30 เมตร ส่วนถังที่ระเบิดกระเด็นไปไกล 100 เมตร ถูกบ้านเรือนของประชาชนใกล้เคียง เสียหาย 3-4 หลังคาเรือน และบางส่วนแตกกระจัดกระจายอยู่บริเวณบ้านพัก จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายกำลังยกถังออกซิเจนขึ้นรถกระบะที่จอดอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ เพื่อนำไปไว้ที่โรงงานย่านสมุทรสาคร แต่ในระหว่างการขนย้ายถัง เกิดการระเบิดขึ้นมาอย่างรุนแรง โดยแรงอัดร่างผู้ตาย จนกระเด็นออกมานอกบ้านก่อนจะเสียชีวิต

ขณะที่นายชัยวัฒน์ เจ้าของกิจการและเจ้าของ บ้านหลังเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่า ส่วนตัวประกอบกิจการจัดเก็บถังออกซิเจนจากโรงงานอุตสาหกรรม โดยถังออกซิเจน มาพักไว้ที่บ้านหลังดังกล่าว เพื่อเตรียมนำไปเติมออกซิเจนจากโรงงาน ก่อนนำถังเหล่านี้ ส่งให้โรงงานอุตสาหกรรมอีกทอดหนึ่ง ไม่ได้ประกอบ หรือมีการต่อเติมถังออกซิเจนแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุการเกิดระเบิดขึ้น เป็นช่วงเวลาที่คนงาน กำลังขนถังออกซิเจนเปล่าขึ้นรถกระบะ เพื่อนำไปเติมออกซิเจน แต่ไม่ทราบว่าเกิดระเบิดได้อย่างไร ซึ่งโดยปกติ เป็นไปได้ยาก สันนิษฐานว่าถังที่ระเบิดอาจมีออกซิเจนหลงเหลืออยู่ภายใน แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอการตรวจสอบจาก ตำรวจ สน.หนองแขม และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อหาสาเหตุการระเบิดอีกครั้ง


ด้าน แฟนสาวผู้เสียชีวิต เดินทางมาที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เนื่องจากเสียใจและรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอเจ้าหน้าที่ไปดูร่างแฟนหนุ่ม โดยเมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปสอบถามข้อมูล ว่า เมื่อเช้าได้คุยกับผู้ตายหรือไม่ เธอบอกว่าไม่ได้คุยกัน แฟนหนุ่มทำงานนี้มานาน เป็น 10 ปี และเธอก็เคยบอกว่างานนี้มันอันตราย แต่เขาก็ทำมานาน และอุปกรณ์ป้องกันแฟนหนุ่มก็ใส่บ้างไม่ใส่บ้าง แต่ก็ยอมรับว่าแฟนเป็นคนสูบบุหรี่

ขณะที่ นางสาวธนัญญา ผู้เห็นเหตุการณ์ และได้ยินเสียงระเบิด บอกว่าได้ยินเสียงระเบิด ดังสนั่นหวั่นไหว และรู้สึกเหมือนมีเศษบางอย่างกระเด็นมาโดนหลังคาบ้าน จึงวิ่งออกมาดูก็เห็นกลุ่มควันจำนวนมากพวยพุ่งแต่ตอนนั้นยังไม่เห็นผู้เสียชีวิตหรือผู้บาดเจ็บเธอ จึงรีบโทรแจ้ง 191 ยอมรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเธอตกใจมากเพราะบ้านเธอและละแวกนี้มีแต่ผู้สูงอายุพร้อมบอกว่าก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ภายในซอยเดียวกันเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว

เช่นเดียวกับนายนิธิ เพื่อนบ้าน ที่ติดกับหลังที่เกิดเหตุบอกว่า รู้จักกับเจ้าของมานาน พร้อมเล่าเหตุการณ์ว่าได้ยินเสียงรถมาจอด ซึ่งจะมาแบบนี้ทุกวัน แต่วันนี้มาจอดเพียง 5 นาที ก็ได้ยินเสียงระเบิดดังจึงรีบวิ่งออกจากบ้านเพราะรู้ว่า เป็นเสียงจากแก๊สระเบิด เมื่อวิ่งออกมาดูก็เห็นควัน และฝุ่นกระจายเต็มพื้นที่แต่ยังไม่เห็นผู้เสียชีวิตหรือผู้บาดเจ็บ พร้อมยอมรับรู้สึกกังวล เพราะบ้านหลังดังกล่าวเก็บถังแก๊สมากกว่า 10 ปี ถังค่อนข้างเก่า และก็กลัวว่าสักวันจะเกิดแก๊สระเบิด หากระเบิดบ้านตนคงพังไปด้วย โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่า ยังโชคดีที่ระเบิดเพียงถังเดียว หากระเบิดพร้อมกันหลายถังอาจจะสูญเสียมากกว่านี้ ส่วนบ้านตนนั้นได้รับความเสียหายบางส่วนที่บริเวณกำแพงที่รั้วติดกันกับบ้านที่เกิดเหตุ กระจกประตูได้รับความเสียหาย


ด้านผู้อำนวยการเขตหนองแขมเปิดเผยว่า ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบถังออกซิเจน จำนวน 37 ถัง ถังคาร์บอนไดออกไซด์จำนวน 16 ถัง และถังบรรจุแก๊ซอเซทิลีน จำนวน 18 ถัง รวมทั้งหมด 71 ถัง ซึ่งผู้ประกอบการระบุว่าเป็นถังเปล่าที่รับมาจากโรงงานอุตสาหกรรม นำมาเก็บเอาไว้เพื่อเตรียมนำไปบรรจุสารเคมี และส่งกลับไปยังโรงงานอุตสาหกรรม ส่วนถังเคมีที่ระเบิด เบื้องต้นระบุว่าเป็นถังที่บรรจุแก๊ซอเซทิลีน เป็นสารเคมีที่ใช้สำหรับเชื่อมโลหะในภาคอุตสาหกรรม เบื้องต้นจากการตรวจสอบบริเวณสถานที่เกิดเหตุไม่พบว่าได้ขออนุญาตในการจัดเก็บทางเคมีอย่างถูกต้อง ซึ่งสำนักงานเขตจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานประสานกับทางพนักงานสอบสวน และพิสูจน์หลักฐาน เตรียมดำเนินคดีกับเจ้าของกิจการ และสั่งให้ปิดพื้นที่เกิดเหตุโดยทันที โดยกำหนดให้เป็นพื้นที่อันตราย เร่งประสานทางเจ้าของกิจการนำทางเคมีที่มีความเสี่ยง เช่นถังแก๊ซอเซทิลีน ออกจากพื้นที่ภายในวันนี้ ส่วนสาเหตุการระเบิดขณะนี้ยังต้องรอผลพิสูจน์จากกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจว่าเกิดด้วยสาเหตุใด

นายชุม สนสายัณต์ หัวหน้าสถานีดับเพลิงบางแค เปิดเผยว่า การระเบิดดังกล่าว หากมีแก๊ซที่คงค้างในถัง หากใช้ไม่หมดถ้ามีการเคลื่อนย้ายหรือตกกระแทกก็อาจจะทำให้ระเบิดได้ ส่วนกรณีถังอาจจะเสื่อมสภาพเป็นสาเหตุเกิดระเบิดขึ้นนั้น ปกติแล้วทางโรงงานที่บรรจุจะต้องตรวจสอบถัง ถ้าชำรุดก็จะไม่มีการบรรจุลงไป อีกหนึ่งข้อสงสัย คือถังอะซิทิลีนเป็นวัตถุไวไฟ มีความเป็นไปได้ หากเกิดประกายไฟจากจุดไฟบุหรี่ ขณะที่มีแก๊ซรั่วไหล หรือทางคนงานพยายามเปิดวาล์วเพื่อระบายก๊าซออกจากถัง ซึ่งข้อสรุปยังต้องรอเจ้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบให้ชัดเจนมากกว่านี้

อ.อ๊อดคาดเหตุแก๊สระเบิด เกิดจากถังก๊าซอะเซทิลีน

ด้าน รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ และผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หรือ อ.อ๊อด ให้ข้อมูล กรณีเรื่องถังออกซิเจน ระเบิดว่า จากภาพที่เกิดเหตุทราบว่า พบว่ามีถังออกซิเจนสีเขียว โดยจะมีคุณสมบัติถังวาล์ว CGA540 มาตรฐาน ISO9809-3 เหล็กหนาปั้มขึ้นรูปไร้รอยตะเข็บ แรงดัน 1500-2000 PSI ขนาดบรรจุ 10L – 40L ปริมาตรบรรจุ 0.5m3 – 6m3

ส่วนถังสีแดง บรรจุก๊าซอะเซทิลีน ซึ่งมีแรงดันค่อนข้างสูง และเป็นก๊าซไวไฟ ในภาคอุตสาหกรรมมักใช้คู่กัน และจากร่างผู้เสียชีวิตมีเขม่าเป็นสีเทาดำ น่าจะเกิดจากการติดไฟ หรือเกิดปฏิกิริยาติดไฟ จึงเชื่อว่าเกิดจากก๊าซอะเซทิลีน ขนาด 40 ลิตร มีแรงดันค่อนข้างสูง อยู่ที่ 1500-2000 PSI หากถังเก่าขึ้นสนิมและตกหล่นถูกกระแทก จะทำให้ถังโลหะฉีกขาด เกิดระเบิดขึ้นได้จึงถือเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้ประกอบการ ต้องระมัดระวังในการตรวจเช็คสภาพถังออกซิเจนรวมถึงผู้ที่ทำงานในด้านนี้ต้องใช้ความระมัดระวังในการขนย้าย และการบรรจุก๊าซออกซิเจนถึง 2000 PSI ควรใช้ถังใหม่ที่มี ISO มาตรฐาน มอก. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย