รวบมือปืนโหดยิงเพื่อนบ้านดับ ปมปัญหาจอดรถขวางหน้าบ้าน

3 พ.ค. – ตำรวจร่วมกันจับกุมมือปืนโหดยิงเพื่อนบ้านเสียชีวิต จากปัญหาจอดรถขวางหน้าบ้าน ก่อนหนีกบดานที่ จ.สุราษฎร์ธานี อ้างผู้เสียชีวิตด่าบุพการีก่อน


กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ได้จับกุมผู้ต้องหา 1 ราย อายุ 54 ปี ในฐานความผิด “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านและทาสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็น” โดยสามารถจับกุมได้ที่หน้าห้องเช่า ม.4 ถ.ดอนนก ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี

สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือน ส.ค.2553 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุยิงกันที่หน้าบ้านพัก ถนนแสงศรี ซอย 2 เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ โดยที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวชั้นเดียวปลูกเรียงติดกัน 2 ฝั่ง บริเวณในซอยเป็นถนน 2 เลน เปิดให้รถวิ่งทางเดียว โดยผู้เสียชีวิต อายุ 77 ปี ถูกยิงด้วยปืน 9 มม. ที่ศีรษะกับลำตัวรวม 3 นัด จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาเป็นเพื่อนบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านผู้ตาย โดยสาเหตุมาจากการที่หลานชายของผู้ตายได้ขับรถกระบะมาจอดขวางหน้าบ้านของผู้ต้องหา ซึ่งทำให้ผู้ต้องหาไม่พอใจเพราะตัวเองไม่มีที่จอดรถ จึงใช้อาวุธปืนยิงรถกระบะของหลานของผู้ตายได้รับความเสียหาย

ต่อมาทางญาติของผู้ต้องหาได้ขอให้ผู้ต้องหามาเคลียร์ปัญหา และชดใช้ค่าเสียหายให้กับหลานผู้ตาย ซึ่งหากไม่มาพบ ทางฝั่งผู้ตายจะไปแจ้งความ หลังจากนั้นเมื่อผู้ต้องหาเดินทางกลับมายังที่บ้านพัก ผู้ต้องหาได้เข้าไปในบ้านของผู้ตาย และชักอาวุธปืนยิงผู้ตายก่อนจะหลบหนีไป ต่อมาพนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว และทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านเช่าหลังดังกล่าวใน จ.สุราษฎร์ธานี


สอบถามคำเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยบอกว่าในวันเกิดเหตุ ตนได้ใช้อาวุธปืนก่อเหตุยิงผู้เสียหายจนถึงแก่ความตายจริง เนื่องจากไม่พอใจที่ผู้เสียหายมาจอดรถขวางหน้าบ้านพัก แต่ผู้เสียหายไม่ยอมเลื่อนรถออก และด่าพ่อแม่ของตน จึงโกรธ และใช้อาวุธปืนยิง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบตุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. -420-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก