พบกากแคดเมียมซุกโกดังย่านวงศ์สว่าง

กทม. 10 เม.ย.-รมว.อุตสาหกรรม พร้อมผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่โกดังย่านวงศ์สว่าง หลังพบกากแคดเมียม เบื้องต้นมีเพียง 150 ตัน ขนเข้ามาตั้งแต่ ต.ค.66 จ่อเชิญบริษัทที่เกี่ยวข้องครอบครองกากแคดเมียมทั้งหมดมาหารือแนวทางความรับผิดชอบหลังจากนี้

เวลา 16.30 น. นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ได้เดินทางมาตรวจสอบโรงงานแห่งหนึ่งภายใน ซ.เวียงปรีชา ย่านวงศ์สว่าง หลังได้รับรายงานว่า พบกากแคดเมียม 300 ตัน ในโรงงานดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบด้วยเครื่องตรวจสารแคดเมียม พบว่า แร่ที่พบเป็นแร่แคดเมียมจริง ซึ่งเป็นแร่ต้องห้ามครอบครองตามกฎหมาย


สำหรับแนวทางตรวจสอบหลังจากนี้ มีคณะทำงาน 3 คณะ โดยคณะแรกแต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรี มีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องรวมทั้ง 8 หน่วยงาน คณะที่ 2 และ 3 แต่งตั้งโดยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ทั้ง 3 คณะ จะทำหน้าที่สืบสวนสอบสวนการได้มาซึ่งกากแคดเมียมว่ามีการขุดขึ้นมาเท่าไร และได้รับอนุญาตจากใคร มีใครเป็นผู้ครอบครองบ้าง และครอบครองจำนวนเท่าไร รวมถึงได้แจ้งเรื่องการขนย้ายกากแคดเมียมจากต้นทางมาปลายทางหรือไม่ พร้อมทั้งให้ดำเนินการหาแนวทางขนย้ายจากโรงงานที่พบ 4-5 แห่ง ทั้งในพื้นที่ จ.ชลบุรี สมุทรสาคร และ กทม. ไปยัง จ.ตาก

ส่วนกรณีการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว และบทลงโทษ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ยืนยันว่า จะดำเนินการลงโทษโดยไม่มีละเว้น หากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง เพราะถือว่าเรื่องดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง


อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ได้มีการเชิญบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องครอบครองกากแคดเมียมทั้งหมดมาหารือแนวทางเรื่องความรับผิดชอบหลังจากนี้ ซึ่งจะต้องดำเนินการขนย้ายกากแคดเมียมกลับไปยังต้นทาง และทำการฝังกลบ ซึ่งมีความคืบหน้าเป็นที่น่าพอใจ พร้อมยืนยันกับประชาชนว่า อย่าตกใจ เมื่อพบกากแคดเมียมที่ใด เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะเข้าไปดำเนินการทันที

เบื้องต้นจากการตรวจสอบกากแคดเมียม พบว่ามีจำนวนทั้งสิ้นเพียง 150 ตัน และเป็นแคดเมียมที่ขนย้ายเข้ามาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ซึ่งจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่า เจ้าของโรงงานซึ่งเป็นผู้หญิง มีความสัมพันธ์เป็นญาติสนิทของเจ้าของโรงงานในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ที่พบกากแคดเมียมก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม หลังจากพบกากแคดเมียมในนี้ สำนักอนามัย กทม.ได้เดินทางเข้ามาตรวจสอบสภาพของโรงงาน พร้อมทั้งวางแผนแนวทางการตรวจสุขภาพของประชาชนในพื้นที่อย่างเร่งด่วน.


นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้สรุปตัวเลขที่ชัดเจนของการตรวจยึดกากแคดเมียมว่า จากการตรวจสอบวันนี้ (10 เม.ย.67) พบเพิ่มอีก 2 จุดคือ ที่ บริษัทเจแอนด์บี จ.สมุทรสาคร 3,000 ตัน และที่กรุงเทพฯ 150 ตัน เท่ากับตอนนี้ ตัวเลขที่พบทั้งหมดประมาณ 12,421 ตัน จากกากอุตสาหกรรมที่มีส่วนผสมของแคดเมียมทั้งหมด 13,800 ตัน ซึ่งเป็นตัวเลขประมาณจากการนับ แต่ตัวเลขอาจจะแตกต่างกันบ้างหลังชั่งน้ำหนักแล้ว

โดยที่พบเพิ่มในบริษัทเจแอนด์บี อีก 3,000 ตันนั้น เพราะก่อนหน้านี้แม้จะมีการไปตรวจสอบครั้งแรก แต่การตรวจดูไม่ทั่ว การนำตรวจไม่ได้พานำตรวจครบทั้งหมด และยังมีการปิด มีอะไรตั้งบังไว้ คือจุดแรกมีวางรอบๆ สำนักงาน มีผ้าคลุม มีกล่องโลหะตั้งสูงๆ และที่ตรวจพบเพิ่มวันนี้ คืออีกส่วนที่อยู่อาคารด้านหลัง ทำให้ขณะนี้ เหลือที่ต้องค้นหาอีกประมาณ 1,000 ตัน แต่หากคิดจากการสูญเสียความชื้น ก็คาดว่าใกล้ครบแล้ว

ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ยังบอกเพิ่มเติมด้วยว่า วันนี้มีการประชุม 6 กระทรวง ที่เกี่ยวข้อง มท. /สธ. /ทรัพย์/ สตช. /ดีเอสไอ กก.อุตสาหกรรม เพื่อให้ข้อมูลตรงกัน เกี่ยวกับกากอุตสาหกรรม และไม่ใช่แคดเมียมปกติ แต่มีการปรับให้พิษลดลง ใช้ซีเมนต์เข้าไปประกบทำให้การแพร่กระจายยากขึ้น และมีการหารือถึงการวางแผนการขนกลับ และก่อนขนกลับในการเก็บรักษา และการทำความสะอาดหลังขนกลับ ซึ่งแผนการขนส่งจะต้องดูที่ปลายทาง คือการฝังที่ปลายทางหากขนแล้วนำไปกองไม่ใช่เรื่องดี เพราะไปถึงควรจะต้องนำลงย่อฝังกลบเลย เพื่อไม่ให้เกิดความเดือดร้อน และการขนจะต้องมีบรรจุภัณฑ์ที่ไม่สามารถมีน้ำเข้าได้ ซึ่งจะต้องมีถุงมาหุ้มบิ๊กแบ็กอีกชั้น

ส่วนเส้นทางที่จะขน และรถจะต้องติดจีพีเอส ทั้งหมดจะถูกกำหนดโดยความสามารถของการรับปลายทาง และช่วงการขนจะต้องไม่ใช่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะเริ่มหลังสงกรานต์ โดยช่วงนี้จะอยู่ระหว่างการทำแผน และการขนจะต้องปลอดภัยเป็นไปตามหลักการไม่กระทบประชาชน

ทั้งนี้จะมีการส่งออกไปต่างประเทศหรือไม่ ย้ำว่าจากการตรวจสอบแล้วยังไม่พบ แต่หากมีการส่งจริงจะถือว่าเป็นการลักลอบ และตอนนี้ที่พบยังคงไปตั้งอยู่ตามที่ต่างๆ ในไทยที่มีการเปลี่ยนมือ

ด้าน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร บอกอีกว่า ก่อนหน้านี้ กรุงเทพมหานคร ก็รู้สึกกังวลใจว่าจะหลุดรอดมาใน กทม. จึงได้ประสานความร่วมมือกับกรมโรงงาน โดยจะเน้นตรวจโรงหล่อ 154 และโรงหลอม 94 แห่ง ปูพรมตรวจไปแล้วทั้งหมด แต่ไม่ได้พบอะไร แต่กลับมาพบจุดนี้ ซึ่งเป็นจุดที่เก็บของเก่า และหลังจากนี้จะมีการเพิ่มเป้าหมายเป็นจุดเก็บของเก่าด้วย

โดยขั้นตอนต่อไปจะต้องลุยตรวจในพื้นที่ กทม.โดยละเอียด และจะให้รูปพรรณกับเจ้าหน้าที่ของ กทม.ในการช่วยสังเกตุ แต่อย่างน้อยก็รู้สึกเบาใจได้ว่า โรงงานนี้ เป็นโรงงานที่เกี่ยวข้องกับสมุทรสาคร ไม่ใช่พึ่งเกิดมาใหม่ ส่วนการทำความเข้าใจกับชาวบ้านใกล้เคียงนั้น หลังจากนี้จะเก็บตัวอย่างน้ำ ตัวอย่างอากาศว่ามีการปนเปื้อนมากน้อยแค่ไหน และตรวจร่างกายกับพนักงานในโรงงานด้วย

นอกจากนี้ เรายังสำรวจรอบๆ โรงงานแห่งนี้ พบว่าเป็นของเครือญาติเจ้าของทั้งหมด และเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลไม่ได้มีบ้านเรือนประชาชนอื่นๆ อยู่ใกล้เคียง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ติดประกาศห้ามเข้าใช้สถานที่ดังกล่าวและอายัดกากแคดเมียมไว้ทั้งหมดแล้ว

สำหรับตัวเลขกากแคดเมียมทั้งหมด มาจาก จ.ตาก 13,800 ตัน พบที่ จ.ชลบุรี 4,400ตัน พบที่ บริษัทเจแอนด์บีฯ จ.สมุทรสาคร 65,00 ตัน บริษัทนายจาง จ.สมุทรสาคร 1,034 ตัน โกดังที่ อ.กระทุ่มแบน 470 ตัน และวันนี้ที่กรุงเทพฯ 150 ตัน.-414.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

มือปืนเรียกชื่อก่อนรัวยิง “เสี่ยเปี๊ยก” ดับต่อหน้าภรรยา

กาญจนบุรี 26 มิ.ย. – สุดโหด! 2 คนร้ายเรียกชื่อก่อนรัวยิงไม่นับ สังหาร “เสี่ยเปี๊ยก” นักธุรกิจและผู้กว้างขวางเมืองกาญจนบุรี เสียชีวิตต่อหน้าภรรยา ตำรวจพุ่ง 3 ปม “ชู้สาว-ขัดแย้งส่วนตัว-ธุรกิจ” ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยนาทีสังหารนายสิทธิกร หรือ เสี่ยเปี๊ยก อายุ 51 ปี ในขณะที่เสี่ยเปี๊ยกเดินมากับภรรยา กำลังจะขึ้นรถกระบะสีดำ จังหวะที่เสี่ยเปี๊ยกจะเปิดประตูฝั่งคนขับ คนร้าย 2 คน ลงมาจากรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้กัน คนแรกเรียกชื่อ “เสี่ยเปี๊ยก” พร้อมกับเดินตรงเข้าไปใช้ปืนจ่อยิงศีรษะเสี่ยเปี๊ยกหลายนัดจนล้มลง ก่อนคนร้ายอีกคนเดินตามกระหน่ำยิงซ้ำอีกหลายนัด จากนั้นพากันขึ้นรถขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ส่วนภรรยาของเสี่ยเปี๊ยกเดินอ้อมมาเห็นศพสามีก็กรีดร้องด้วยความตกใจ ตะโกนขอความช่วยเหลือ บริเวณลานจอดรถหน้าร้านวัสดุก่อสร้างชื่อดังริมถนนบายพาส (เลี่ยงเมือง) จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. วานนี้ (25 มิ.ย.) ภายหลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ตรวจสอบสภาพศพเสี่ยเปี๊ยก พบร่องรอยกระสุนเจาะเข้าตามศีรษะ ใบหน้า ต้นคอ ลำตัว และแขน รวม […]

ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซุกหน้าจวนผู้ว่าฯ พังงา

พังงา 26 มิ.ย.- ตำรวจพังงา พร้อมเจ้าหน้าที่ EOD นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซุกหน้าจวนผู้ว่าฯ พังงา ตำรวจพังงา พร้อมด้วยตำรวจชุด EOD นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ซุกอยู่บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบและปิดกั้นพื้นที่ ไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในจุดดังกล่าว โดยการตรวจสอบพบวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ ตำรวจพังงาจับกุม 2 คนร้ายชาวปัตตานี พร้อมกับรถยนต์ที่ซุกระเบิดแสวงเครื่องไว้ภายในรถ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ข้อมูลเบื้องต้นตำรวจชุดสืบสวนระบุว่า ตำรวจแกะรอยจากการไล่กล้องวงจรปิด พบคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์คันเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุที่กระบี่ มาก่อเหตุที่พังงา.-สำนักข่าวไทย

ส่องโผ ครม. แพทองธาร ½ จัดทัพเริ่มนิ่ง

อสมท 26 มิ.ย. – ส่องโผ ครม. แพทองธาร ½ “ภูมิธรรม” นั่งรองนายกฯ ควบ มท.1 ด้าน กล้าธรรม “นฤมล” คุมนั่ง รมว.ศึกษาฯ ขณะที่ “สุชาติ ตันเจริญ” ชื่อติดนั่ง รมว.แรงงาน ความเคลื่อนไหวในการปรับคณะรัฐมนตรี แพทองธาร ½ สำหรับโผการจัด ครม. ล่าสุด กระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย นั่งรองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมีรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย 2 ตำแหน่ง คือ นายเดชอิศม์ ขาวทอง และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ กระทรวงกลาโหม พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ส่วนรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร นายชูศักดิ์ ศิรินิล […]

นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอบคุณที่เสียสละ ขออดทนอดกลั้น

สระแก้ว 26 มิ.ย.- นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอให้อดทนอดกลั้น ขอบคุณที่เสียสละ พร้อมพบปะนักเรียนแนวชายแดน มอบอุปกรณ์การเรียน-กีฬา ก่อนไปตรวจหลุมหลบภัย เวลา 13.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร กองร้อยทหารพราน 1202 บ้านป่าไร่ ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยไปดูบังเกอร์ของหน่วยดังกล่าว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาพบกัน และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร ว่าต้องมาประจำที่ห่างไกลจากครอบครัว ต้องขอขอบคุณที่เสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทหารคือรั้วของชาติ การมาประจำการอยู่ใกล้ชิดชายแดนขนาดนี้ ต้องอดทน อดกลั้น เพราะมีสิ่งยั่วยุอยู่มากมาย ในการรักษาความสงบเรียบร้อย อดทนอดกลั้นเพื่อให้การทำงานราบรื่น พร้อมย้ำว่าอะไรที่ต้องการ รัฐบาลสนับสนุน ขอให้บอกมาเลย ยืนยันไม่ลืมเรื่องการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ และสวัสดิการ จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางมาที่โรงเรียนตระเวนชายแดนประชารัฐบำรุง 1 ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เมื่อเดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรีได้เข้าไปทักทายนักเรียนในห้องเรียนต่างๆ โดยนักเรียนแต่ละห้องได้โชว์กิจกรรมที่เกี่ยวกับการเรียนที่แตกต่างกันไปให้นายกรัฐมนตรีชม ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะมอบอุปกรณ์การเรียน นม ขนม […]