ตม.สั่ง จนท.ห้ามให้ข้อมูลบุคคลเข้า-ออกประเทศ โดยไม่ได้รับอนุญาต

กรุงเทพฯ 8 ธ.ค. – ตม.สั่งห้ามเจ้าหน้าที่ในสังกัด ที่รับผิดชอบข้อมูลส่วนบุคคลเข้า-ออกประเทศ ให้ข้อมูลแก่บุคคลหรือหน่วยงานภายนอกโดยไม่รับอนุญาต ที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ยืนยันไม่ส่งผลกระทบต่อการติดตามตัวผู้ต้องหาในคดีอาญา หรือบุคคลที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ


พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 2 (ผบก.ตม.2) ในฐานะโฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงถึงมาตรการการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เดินทางเข้า-ออกประเทศ หลับพบว่ามีบุคคลภาครัฐ ภาคเอกชน และบุคคลจากหน่วยงานต่าง ๆ มักประสานขอตรวจสอบข้อมูลคนเข้า-ออกประเทศ โดยอ้างเหตุผลทางคดี หรือเหตุผลทางด้านความมั่นคง ส่งผลกระทบต่อสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน และส่งผลต่อความมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูลบุคคลในฐานข้อมูลตรวจคนเข้าเมือง

พล.ต.ต.เชิงรณ เปิดเผยว่า กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ที่รับผิดชอบตรวจอนุญาตบุคคลชาวไทยและต่างชาติ ที่เดินทางข้า-ออกราชอาณาจักร ผ่านด่านท่าอากาศยานนานาชาติทั้ง 5 ประกอบด้วย ทำอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานกรุงเทพ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่ เพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 หรือ PDPA จึงสั่งห้ามให้เจ้าหน้าที่ทุกคนห้ามให้ข้อมูลบุคคลที่เดินทางเข้า-ออกประเทศ ให้บุคคลหรือหน่วยงานต่าง ๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนจะถูกลงโทษทางวินัยและทางอาญา


สำหรับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่จะสามารถทำได้นั้น ต้องดำเนินการเท่าที่จำเป็นภายใต้กรอบของกฎหมาย PDPA และได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากเจ้าของข้อมูล หรือเป็นบุคคลที่ต้องคำสั่งศาลห้ามเดินทางกรณีมีหมายจับคดีอาญาหรือบุคคลที่เป็นภัยต่อความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยเท่านั้น

ส่วนมาตรการการคุ้มครองข้อมูลในครั้งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อหน่วยงานด้านการสืบสวนสอบสวนในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากเจ้าหน้าที่สามารถเข้าถึงระบบในการค้นหาข้อมูลผู้ต้องสงสัยหรือผู้ต้องหาได้อยู่แล้ว เพียงแต่เจ้าหน้าที่ที่เข้าถึงข้อมูลในระบบนั้นจะต้องเข้ารหัสส่วนตัว เพื่อใช้ในการตรวจสอบว่าเข้าถึงข้อมูลเพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ หากมีการเปิดเผยข้อมูลไปสู่บุคคลภายนอกโดยไม่ได้รับอนุญาต ก็มีความผิดเช่นเดียวกัน

ที่ผ่านมามีตำรวจที่รับผิดชอบข้อมูลส่วนบุคคลถูกดำเนินคดีไปแล้ว 2-3 คน ในข้อหาละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล จึงเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่จำเป็นต้องออกมาตรการในการคุมเข้มคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของกองบังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 2 ในครั้งนี้.-412-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

เจอกระบะต้องสงสัยก่อเหตุหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

พบแล้ว รถกระบะต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงปืนและลอบวางระเบิด หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้

ข่าวแนะนำ

พระยันตระ

ปิดตำนาน “อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตในวัย 73 ปี ที่สหรัฐ

“อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 73 ปี ที่วัดในสหรัฐอเมริกา ปิดตำนานอดีตพระภิกษุที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดรูปหนึ่งของวงการสงฆ์ไทย

เงินหมื่นเฟส3

นายกฯ ไฟเขียว! เงินดิจิทัลเฟส 3 กลุ่ม 16-20 ปี 2.7 ล้านคน

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ เห็นชอบ โอนเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 กลุ่ม อายุ 16-20 ปี 2.7 ล้านคน หวังคนรุ่นใหม่ใช้ไอทีคล่องกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี รองรับเปิดเทอม ยืนยันกลุ่มวัยทำงาน เฟส 4 ได้เงินแน่นอน