ดีเอสไอ 1 ธ.ค. – นายทุนรายใหญ่รับทราบข้อหาคดีหมูเถื่อน ยันถูกปศุสัตว์กลั่นแกล้ง อยู่ระหว่างร้องศาลปกครอง ขณะที่ดีเอสไอ แจ้ง 2 ข้อหา ผิด กม.ศุลกากร และ กม.โรคระบาดสัตว์ เดินหน้าค้นต่อสัปดาห์หน้า แต่ไม่เข้าโลตัสแล้ว เพราะไม่เกี่ยวในคดีพิเศษ 161 ตู้
นายบริบูรณ์ ลออปักษิณ กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม ของบริษัทศิขัณทิน เทรดดิ้ง จำกัด และบริษัทสมายล์ ท็อป เค เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด พร้อมทีมทนายความเข้าพบ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ และพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน เพื่อชี้แจงการนำเข้าหมู 41 ตู้ ในช่วงเดือน ส.ค.65 ซึ่งอยู่ในส่วนของคดีพิเศษ 161 ตู้ ที่ดีเอสไอแจ้ง 2 ข้อหา ในความผิดกฎหมายศุลกากร และความผิดนำเข้า ส่งออกซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558
นายบริบูรณ์ กล่าวว่า มาพบพนักงานสอบสวนเองไม่ได้มาตามหมายเรียกหรือหมายจับ แต่เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ โดยบริษัทได้นำสินค้าชิ้นส่วนสุกรเข้าเพื่อส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ทำตามขั้นตอนกฎหมายทุกประการ ยื่นเอกสารต่อหน่วยงานรัฐครบทั้งหมด แต่ถูกกลั่นแกล้ง พยายามยัดเยียดให้เป็นหมูเถื่อนโดยกรมปศุสัตว์พยายามที่จะถามหาเอกสารที่ไม่ได้อยู่ในคู่มือประชาชนหรือไม่มีอำนาจมาขอ ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างร้องเรียนกับศาลปกครอง และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ยืนยันบริษัทมีเจตนาชัดเจนที่จะส่งออก มีเอกสารผู้รับปลายทางชัดเจน โดยจาก 41 ตู้ มี 2 ตู้ เป็นมันหมูที่สามารถนำเข้าได้ แต่ก็ถูกเหตุผลต่างๆนานา ยับยั้งไม่ให้เข้า และทำให้เป็นของเถื่อน นำเอกสารคำฟัองศาลและหนังสือยืนยันความบริสุทธิ์มามอบให้พนักงานสอบสวน ซึ่งบริษัทฟ้องร้องกับกรมปศุสัตว์มาอยู่แล้วด้วยเรื่องอื่นตั้งแต่ปี 62 จึงถูกหมายหัวจากกรมปศุสัตว์อยู่แล้ว ยอมรับเคยรู้มาก่อนว่ามีการเรียกรับ สำหรับหมู 41 ตู้ มีมูลค่าหมูกว่าร้อยล้าน ค่าใช้จ่าย ค่าไฟห้องเย็นวันละ 5 แสนบาท บริษัทก็ต้องจ่าย เพราะถูกไม่ให้ขนย้าย บริษัทก็รอคำสั่งศาลปกครองอยู่ ของอยู่ในกระบวนการชั้นศาล กลับถูกเอาไปทำลายทิ้ง ตนแทบสิ้นเนื้อประดาตัว ถ้าบริสุทธิ์ใจ ทำไมไม่รอให้ศาลวินิจฉัยก่อน ค่อยทำลาย
ด้าน พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ผู้ถูกกล่าวหารายนี้ได้มารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมกับให้ข้อมูล และเอกสารบางส่วนแก่พนักงานสอบสวนแล้ว เบื้องต้นปฏิเสธโดยจะนำเอกสารชี้แจงอย่างละเอียดใน 15 วัน โดยเป็น 2 บริษัทสุดท้าย ที่เข้ารับทราบข้อหาของสำนวน 161 ตู้ ที่ดีเอสไอออกหมายจับ 10 บริษัท
ส่วนการเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายคดีหมูเถื่อนยังคงเดินหน้าต่อโดยจะเริ่มปฎิบัติการในสัปดาห์หน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตรวจสอบแล้วคดี 161 ตู้ จะมีเฉพาะห้างแมคโคร ที่เข้าค้นแล้ว ส่วนของโลตัสไม่มีในคดีนี้ที่ดำเนินการอยู่ จึงไม่มีการเข้าตรวจสอบโลตัสแล้ว เพราะไม่เกี่ยวข้อง. -119 -สำนักข่าวไทย