กรุงเทพฯ 23 พ.ย. – ตำรวจเร่งไล่ล่าอีก 3 ผู้ต้องหาคดียิง “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด” และเร่งขยายผลจับกุม 84 สมาชิกลับ “องค์กรอาชญากรรม”
เช้าวันนี้ (23 พ.ย.66) พ.ต.อ.ธรรมศักดิ์ สารบุญ ผู้กำกับการ สน.ทุ่งมหาเมฆ เปิดเผยว่า ตอนนี้ทยอยสอบปากคำผู้ต้องหา 7 คน ที่รับตัวมาเมื่อวานนี้ หนึ่งในนั้นคือ นายวรงชัย ซึ่งเป็น 1 ใน 5 คนที่ถูกออกหมายจับในคดียิง “ครูเจี๊ยบ” และ “น้องหยอด” ส่วนอีกคนที่ถูกจับได้เป็นรายล่าสุดเมื่อวานนี้ ซึ่งมีอาการช็อกหมดสติ หลังเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ตอนนี้ยังอยู่ที่โรงพยาบาล
สรุปตอนนี้ยังเหลืออีก 3 คน ที่ถูกออกหมายจับและยังหลบหนี คือ นายเลาะ คนทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์วันก่อเหตุ, นายวิน คนลั่นไก และอีกคนยังไม่ขอเปิดเผยชื่อ คนนี้ทำหน้าที่สนับสนุนการก่อเหตุในครั้งนี้ ส่วนกลุ่มที่จับกุมได้แล้ว จะคุมตัวฝากขังต่อศาลในวันพรุ่งนี้ (24 พ.ย.66)
เร่งขยายผลผู้ร่วมองค์กรอาชญากรรม
ขณะที่มีความคืบหน้าในการติดตาม 3 คนร้ายที่ยังหลบหนี โดย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล บอกว่า ชุดสืบสวนกระจายกำลังเร่งไล่ล่า ซึ่งมีทั้งมือปืนและผู้พาหลบหนี ส่วนผู้ต้องหาที่อยู่โรงพยาบาล ตอนนี้ให้เจ้าหน้าที่เฝ้าอย่างใกล้ชิด ซึ่งยังอยู่ในห้องไอซียู ยังไม่สามารถพูดคุยหรือสอบถามข้อมูลอะไรได้ นอกจากนี้ ยังสั่งการชุดทำงานขยายผลตรวจสอบว่า มีบุคคลใดที่เกี่ยวข้องกับการร่วมก่อเหตุ หรือซ่องสุมกันเป็นลักษณะองค์กรอาชญากรรมอีกหรือไม่ หากพบว่าบุคคลใดบุคคลหนึ่งเกี่ยวข้องในด้านใดด้านหนึ่ง ก็จะให้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีทั้งหมด
ส่วนการจับกุมเมื่อวานนี้ (22 พ.ย.66) นอกจากได้ผู้ต้องหาในคดียิง “ครูเจี๊ยบ” แล้ว ยังได้ผู้ต้องหาที่มีคดีค้างเก่าถึง 2 คน คนแรก คือ นายพฤฒิพล ที่ก่อเหตุยิงนักศึกษาอุเทนถวาย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2566 อีกคนคือ นายสหัสวรรษ อายุ 23 ปี ทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์ ยิงกลางงานแต่งของเจ้าบ่าว ซึ่งเป็นอดีตนักศึกษาอุเทนถวาย เหตุเกิดช่วงเดือนสิงหาคม 2565 ในพื้นที่ สน.สุทธิสาร
คดีนี้เป็นเรื่องใหญ่และน่าตกใจ ทางตำรวจบอกเองว่า กลุ่มคนพวกนี้มีการพัฒนาจนเกินกว่า “องค์กรอาชญากรรม” ไปแล้ว ไม่ใช่แค่ขี่รถมาก่อเหตุ แต่มีการวางแผนกันเป็น 10 คน “ยิ่งกว่าในภาพยนตร์” มีรุ่นพี่ผู้ผ่านประสบการณ์เป็นพี่เลี้ยง มีการหากองทุนเพื่อหาอุปกรณ์ก่อเหตุ มีกองทุนไว้ประกันตัว จ้างทนายมาต่อสู้คดี และที่เห็นจะเลวร้ายที่สุด คือ เมื่อมีคนถูกจับได้ พอถึงชั้นเบิกความ ก็จะตามพรรคพวกมานั่งฟังการไต่สวนของชุดสืบสวน เพื่อนำไปพัฒนารูปแบบการก่อเหตุไม่ให้โดนจับได้อีก
จากข้อมูลของตำรวจยังพบว่า กลุ่มคนพวกนี้เป็นกลุ่มที่สร้างตัวเองขึ้นมาในโลกเสมือนจริง ไม่มีสถานะการเป็นนักศึกษาแต่อย่างใด แต่พยายามสร้างตัวตนให้เกิดการยอมรับ โดยเชิญชวนกลุ่มที่พ้นสถานะการเป็นนักศึกษาและกลุ่มนักศึกษาปัจจุบันเข้าร่วมแก๊ง มีการปลูกฝังสร้างค่านิยมแบบนี้ขึ้นมา ไม่เพียงเท่านั้น ยังนำภาพเหยื่อฝ่ายตรงข้าม รวมทั้งภาพผู้เสียชีวิตในสถาบันตนเอง มาติดไว้ในสถานที่พักพิง เพื่อสร้างแรงปลุกเร้าในการก่อเหตุ
ส่วนการวางแผนก่อเหตุ มีการถอดแบบแผนประทุษกรรมจากคดีเก่า ตั้งแต่ปี 2565 เพื่อหาแนวทางว่าจะทำอย่างไร จะลงมืออย่างไร ถึงจะรอดพ้นการจับกุมของตำรวจ
ตำรวจยังพบว่า กลุ่มนี้มีการติดต่อผ่านไลน์กลุ่มลับ ซึ่งมีสมาชิกถึง 84 คน เป็นกลุ่มที่มีแนวคิดแบบเดียวกันที่มองว่า หากก่อเหตุแบบนี้แล้วจะกลายเป็นฮีโร่ของกลุ่ม ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดมากๆ ตอนนี้กำลังไล่ตามทั้ง 84 คนที่อยู่ในกลุ่มลับนี้ มาสอบสวน. – สำนักข่าวไทย