แจ้งข้อหา 4 อินฟูฯ รับโฆษณาเว็บพนัน เจ้าตัวอ้างไม่รู้ผิด กม.

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – บช.สอท. แจ้งข้อหา 4 อินฟูเอนเซอร์ รับโฆษณาเว็บพนัน เจ้าตัวอ้างไม่รู้ว่าผิดกฎหมาย ต้องการนำเงินมาเลี้ยงชีพ ตำรวจเตรียมส่งฟ้องตามขั้นตอน


ช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีการเชิญ 4 บุคคลที่มีชื่อเสียงในโลกโซเชียล มาแจ้งข้อกล่าวหาโฆษณาหรือชักชวนเล่นการพนัน หลังตำรวจพบข้อมูลว่าเหล่าอินฟลูเอนเซอร์เหล่านี้ มีพฤติกรรมโฆษณาชักชวนให้เล่นการพนันในแฟนเพจส่วนตัวที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก

พลตำรวจตรีอำนาจ ไตรพจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ระบุว่า ตำรวจไซเบอร์ได้เฝ้าระวังกลุ่มบุคคลที่มีชื่อเสียงที่พบว่าในปัจจุบันมักเริ่มใช้ช่องทางของตนเองโฆษณาเว็บไซต์การพนันโดยจะชักชวนให้เล่นด้วยการทิ้ง LINE @ เอาไว้ตามโพสต์ต่างๆ ซึ่ง LINE @ ดังกล่าวนำไปสู่การสมัครเข้าร่วมเว็บไซต์การพนัน ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับกลุ่มบุคคลที่เข้าไปเล่นการพนันจำนวนมาก


ในวันนี้ได้มีการเรียก นายปอน ศิลปินเจ้าของเพลงไทม์แมนชีน และนางสาวจิรนันท์ หรือ ปู แฟนสาวของนายปอน, นางสาวลฎาภา หรือ เชอรี่สามโคก และนางสาวปภาวี หรือ ออยรอยจูบ สองเซ็กซี่สตาร์สาวชื่อดัง รวม 4 ราย มาดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา

พฤติกรรมในส่วนของกลุ่มบุคคลผู้มีชื่อเสียงทั้งสี่ จะใช้ช่องทางส่วนตัวโพสต์ LINE @ไปยังเว็บการพนันต่างๆ เพื่อแลกกับรายได้เฉลี่ยเดือนละ 50,000-150,000 บาท ต่อการโพสต์รวมทั้งสิ้น 30 โพสต์ (ปอน แฟนปอน และออย ได้ 1 แสน ต่อ 30 โพสต์, เชอรี่สามโคก ได้ 1.5 แสน ต่อ 30 โพสต์) จากการสอบถามเบื้องต้นทั้งหมดให้การว่าทำไปด้วยความไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย โดยทำไปเพราะเห็นว่าได้เงินจำนวนมาก และต้องการนำเงินไปหาเลี้ยงชีพ

นอกจากกลุ่มนี้ ทางตำรวจไซเบอร์ยังจับตามองกลุ่มบุคคลที่มีชื่อเสียงอีกราว 20 คน ที่พบว่ามีพฤติกรรมเข้าข่ายการทำความผิดในลักษณะนี้ โดยจะทยอยเรียกเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา เพื่อดำเนินการทางคดี เพราะเรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องสำคัญที่อาจสร้างปัญหาให้กับกลุ่มเยาวชนที่ติดตามกลุ่มบุคคลที่มีชื่อเสียงเหล่านี้ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการพนัน และอาจจะถลำลึกจนถึงขั้นเปิดกิจการเว็บพนันเพราะต้องการนำเงินมาใช้หนี้พนัน ตามข้อเท็จจริงที่เคยปรากฏมาก่อนหน้านี้


ในส่วนของโทษของการกระทำความผิดในลักษณะนี้อยู่ในระดับศาลแขวง ซึ่งมีโทษอยู่ที่จำคุกไม่เกินสองปีปรับไม่เกิน 2000 บาท แต่เบื้องต้นจะมีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาเรื่องของการลงโทษผู้ที่กระทำความผิดลักษณะการสับสนุนให้มีการเล่นการพนัน ซึ่งต้องหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนว่าจะสามารถดำเนินการเพิ่มโทษหรือยึดซับที่เป็นรายได้จากการกระทำความผิดในลักษณะการรับจ้างได้หรือไม่เพราะปัจจุบันการกระทำลักษณะดังกล่าวถือเป็นการกระทำในเชิงสนับสนุน ยังไม่ใช่การร่วมเปิดให้มีการเล่นการพนัน ซึ่งหากเป็นลักษณะการร่วมเปิดให้มีการเล่นการพนันจะสามารถดำเนินการในลักษณะแบบนี้ได้

ขณะที่ในส่วนของเว็บพนันต่างๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้มีชื่อเสียงเหล่านี้ ทางตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างการขยายผลเอาผิดกับเว็บไซต์ทั้งหมด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน โดยจะนำคำให้การของกลุ่มผู้ต้องหาทั้งสี่ในวันนี้ประกอบกับหลักฐานการรับโอนเงินต่างๆมาใช้ในการขยายผล

ด้านนางสาวปภาวี หรือ ออยรอยจูบ ระบุว่า ตนเองไม่รู้ว่าการกระทำแบบนี้ถือว่าเป็นความผิดที่ทำไปเพราะต้องการหาเงินเลี้ยงชีพตามปกติ สำหรับตนเองจะได้ค่าจ้างในการโพสต์อยู่ที่ 4,500 บาท ต่อ 10 โพสต์

โดยจะมีคนติดต่อมาทาง LINE ให้มาทำการแปะลิงค์โฆษณาจากการโพสต์ต่างๆ ของตนเอง ซึ่งเข้าใจว่าหลายที่ใช้ LINE ปลอม ทักมา โดยเงื่อนไขในการจ่ายเงินจะต้องโพสต์ครึ่งหนึ่งของจำนวนที่มีการตกลงกันก่อนแล้วผู้จ้างจะทำการโอนเงินทั้งหมดมาให้ ตนเองจึงอยากขอเตือนเยาวชนและประชาชนทั่วไปอย่าได้เข้ามาทำการแบบนี้เพราะถือว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมายซึ่งตนเองก็เพิ่งรู้

ส่วน นายนิพนธ์ หรือ ปอน ระบุว่า ส่วนตัวรับโพสต์โฆษณากับแฟนสาวโดยได้รายได้คนละ 50,000 บาทต่อเดือน เพื่อโพสต์จำนวนรวมทั้งสองคนที่ 30 โพสต์ โดยทำมาแล้วทั้งสิ้นประมาณ 3-4 เดือน ที่ทำเพราะต้องการหาเงินมาเลี้ยงชีพตามปกติและไม่คิดว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมายส่วนการติดต่อมาของผู้จ้างงานก็มาในลักษณะเดียวกันกับของออย รอยจูบ คือจะทักผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ส่งลิงก์ที่ต้องการให้โฆษณามาให้และตกลงกันตามเงื่อนไขจำนวนโพสต์และให้ทำการโพสต์ก่อนจะจ่ายเงิน

โดยเบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะสอบปากคำและแจ้งข้อหาให้กับกลุ่มผู้มีชื่อเสียงทั้ง 4 ราย ในวันนี้ ก่อนจะปล่อยตัวกลับไปและนัดหมายพบกันที่ศาลแขวงจังหวัดนนทบุรี อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (17 ก.ค.) เวลา 10.00 น. เพื่อส่งฟ้องตามขั้นตอนต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

แม่ทัพภาค 2 เชื่อผลประชุม GBC เป็นทิศทางที่ดี

7 ส.ค. – มทภ.2 ขอรอผลอย่างเป็นทางการหลังประชุม GBC เชื่อจะไปในทิศทางที่ดี เมิน “ฮุนเซน” ขอไทยงดใช้ F-16 ร้องนานาชาติ หยุดขายเครื่องบินรบให้ไทย ส่วนกรณีสายลับเขมร รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับมอบอุปกรณ์โดรนโลเคเตอร์ เครื่องจับพิกัดตัวโดรน รวม 30 เครื่อง มูลกว่า 8 ล้านบาท เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงของใช้ที่จำเป็นเพื่อนำไปมอบให้ทหารแนวหน้า จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้จะได้ข้อสรุปในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร พลโท บุญสิน บอกว่ารอการชี้แจงอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าจะดีขึ้น ย้ำว่า ในข้อเสนอ 8 เรื่อง 6 ประเด็น ตนให้ความสำคัญ ทหารไทย ณ ปัจจุบันนี้อยู่ตรงไหนก็ให้อยู่ตรงนั้น คำนึงถึงเรื่องนี้เป็นหลัก เน้นย้ำให้ทหารหน้าแนวตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และตรึงกำลังไว้ตลอด เรื่องแผ่นดินไม่สามารถคุมได้ด้วยเครื่องมือ ต้องใช้คนเฝ้า เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีของกัมพูชาแล้ว เราจะต้องประกบไว้แบบนี้ […]

พล.อ.ณัฐพล เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย

มาเลเซีย 7 ส.ค.-พล.อ.ณัฐพล รมช.กห. เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย ก่อนถก GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ บ่ายนี้ เมื่อเช้าวันนี้ (7 ส.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าเยี่ยมคำนับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในขณะนี้และเป็นเจ้าภาพของสถานที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พบกันในระดับรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม GBC สมัยวิสามัญ ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ Deputy Minister of Defence pays courtesy call on Malaysian Prime Minister before Extraordinary Session of Thailand […]

“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด จับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาส

กทม. 7 ส.ค.-“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด บุกจับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก๊วนกิ๊กเก่า “สีกากอล์ฟ” หลังพบทุจริตยักยอกเงินวัด เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปาตแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาฯ ป.ป.ท. นำกำลังตำรวจ บก.ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “กอล์ฟทีม EP.1” บุกค้นเป้าหมาย 3 จุด ใน จ.สุราษฎร์ธานี จ.พิจิตร และ จ.สมุทรสงคราม เพื่อจับกุมอดีตพระชั้นผู้ใหญ่ และ คนใกล้ชิด ที่เคยพัวพันสัมพันธ์ฉาวสีกากอล์ฟ หลังพบกระทำผิดทุจริตยักยอกเงินวัดมาใช้ดูแลสีกา เป้าหมายจุดแรกที่เข้าตรวจค้นเป็นสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายทิวากร ดีไพร หรือ […]

มท.1 เด้งฟ้าผ่า ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี

เมืองทองธานี 7 ส.ค.-รมว.มหาดไทย สั่งเด้งฟ้าผ่า “ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี” ก่อนประชุมมอบนโยบายกระทรวงมหาดไทย เหตุมีปัญหาเบิกจ่ายงบประมาณดูแลประชาชนได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อนการประชุมมอบนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ว่า ได้มีการสั่งย้าย ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้มาช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทย หลังมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณในการช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีการเบิกงบทดรองราชการจ่ายเพียง 55,600 บาท จากที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ 100 ล้านบาท ส่วนจะย้ายชั่วคราว หรือถาวรน้้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากัน เมื่อถามว่า จะรอผลสอบก่อนใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากันในรายละเอียด โดยคำสั่งจะออกในช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม มีการยืนยันจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ว่าได้เดินทางมาร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย​ แต่ปฏิเสธที่จะแสดง​ความเห็น​ และไม่ขอให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน.-315.-สำนักข่าวไทย