22 มิ.ย. – ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน พร้อมเครือข่ายในไทย มีฐานปฏิบัติการที่สามเหลี่ยมทองคำ พบเงินหมุนเวียนกว่า 3,000 ล้านบาท
ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โชว์ผลงานจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายหลอกลงทุน-คอลเซ็นเตอร์ ตั้งแต่ระดับหัวหน้าเครือข่าย ที่มีหน้าที่ควบคุมสั่งการศูนย์ปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของบ่อนกาสิโน “คิงส์โรมัน” ใน สปป ลาว ไปจนถึงคนรวบรวมบัญชีม้าและคนรับจ้างเปิดบัญชีม้า
ในคดีนี้ได้ร้องขออนุมัติศาลอาญาเพื่อออกหมายจับรวม 15 หมายจับ และสามารถจับกุมผู้ต้องได้หาทั้งหมด 11 ราย
คนที่ 1 นายเถิง จวิ้น สัญชาติจีน เป็นหัวหน้าเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ คนที่ 2 น.ส.หงษ์ อายุ 25 ปี บุคคลไร้สัญชาติ ทำหน้าที่ฟอกเงิน โดยการขายเหรียญคริปโทฯ และนำเงินสดไปส่งมอบให้หัวหน้าเครือข่าย ทั้ง 2 คนนี้ถูกจับได้ที่บ้านพักในพื้นที่แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 66
คนที่ 3 กับคนที่ 4 ทำหน้าที่รวบรวมบัญชีม้าจากฝั่งไทยส่งมอบให้ชาวจีนที่ควบคุมดูแลแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ สปป ลาว คือ นายนพดล อายุ 32 ปี จับได้ที่บ้านพักในพื้นที่ซอยพัฒนานิเวศน์ 12 กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 66 ส่วนนายปิยะพงษ์ อายุ 36 ปี ถูกจับกุมได้ที่ จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 66 คนที่ 5 ถึงคนที่ 9 เป็นบัญชีม้า-กระเป๋าวอลเล็ตม้า คือ นายณัฐวุฒิ อายุ 33 ปี นายนัทธพงศ์ อายุ 30 ปี น.ส.กาญจนา อายุ 35 ปี นายนพพร อายุ 37 ปี นางอังศุมาลิน อายุ 30 ปี ทั้ง 5 คนนี้ถูกจับได้ในพื้นที่ จ.เชียงราย วันที่ 13 มิ.ย. 66 คนที่ 10 กับคนที่ 11 พ่อค้าเหรียญคริปโท คือ นายเอ อายุ 33 ปี คนนี้ถูกจับได้ที่ จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 66 ส่วนนายบี อายุ 33 ปี ถูกจับได้ที่ จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 66 และอยู่ระหว่างสืบสวนติดตามจับกุมตามหมายจับเพิ่มเติมอีก 5 ราย มีทั้งคนจีนและคนไทย เป็นกลุ่มบริหาร เปิดบริษัทในประเทศไทย ทำหน้าที่ฟอกเงิน รวบรวมบัญชีม้า และกระเป๋าวอลเล็ตม้า
พฤติการณ์สืบเนื่องจากเมื่อช่วงต้นปี 66 สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับการร้องเรียนจากสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพนำชื่อไปแอบอ้างด้วยการเปิดเว็บไซต์หลอกลวงประชาชนให้นำเงินมาลงทุนในหุ้นทองคำ ใช้ชื่อเว็บไซต์ว่า Royal Gold ซึ่งพบว่ามีผู้หลงเชื่อเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ค. 66 มีกว่า 2,000 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 500ล้านบาท
ตำรวจ ปอท. สืบสวนพบว่ากลุ่มมิจฉาชีพใช้บัญชีเฟซบุ๊กปลอมเป็นหญิงสาวหน้าตาดี เข้ามาตีสนิท ก่อนชักชวนให้ร่วมลงทุนในหุ้นทองคำในเว็บไซต์ Royal Gold แอบอ้างว่าเป็นเว็บที่เกี่ยวข้องกับสำนักทรัพย์สินฯ ช่วงแรกจะชักชวนให้นำเงินมาทดลองลงทุน โดยให้โอนเงินไปยังบัญชีม้าที่เปิดเตรียมไว้ หลังลงทุนไประยะหนึ่งจะคืนเงินต้นและให้ผลตอบแทน (คิดเป็น 10% ของเงินลงทุน) ทำให้หลงเชื่อ ขณะที่ในเว็บจะแสดงยอดเงินลงทุนและผลตอบแทนให้เห็น ทำให้ยิ่งหลงเชื่อและนำเงินมาลงทุนเพิ่ม แต่เมื่อต้องการจะถอนเงินออกจะถูกหลอกให้เสียค่าดำเนินการและเสียภาษีก่อน และเมื่อโอนเงินเพิ่มไปแล้วจะถูกบล็อกช่องทางการติดต่อ ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย
จากการสืบสวนยังพบว่าเมื่อผู้เสียหายโอนเงินไปยังบัญชีม้าแล้ว เงินทั้งหมดจะถูกนำไปซื้อเหรียญดิจิทัล ในสกุล USDT จากพ่อค้าคนกลาง หลังจากนั้นจะโอนเหรียญดังกล่าวไปยังกระเป๋าวอลเล็ตม้า (กระเป๋าดิจิทัลที่ถูกว่าจ้างให้เปิด) ก่อนเริ่มเข้าสู่กระบวนการฟอกเงินในรูปแบบเหรียญดิจิทัล ยักย้ายถ่ายเทจนท้ายที่สุดไปสู่กระเป๋าเงินดิจิทัลของกลุ่มผู้บริหารเครือข่ายชาวจีนที่รับหน้าที่ฟอกเงิน โดยการนำเหรียญที่ได้มาจากการฉ้อโกงไปขายแลกกลับมาเป็นเงินบาทไทย ก่อนนำเงินที่ได้ส่งมอบให้หัวหน้าเครือข่าย
จากการตรวจสอบยังพบว่ากลุ่มคนที่รับจ้างเปิดบัญชีม้าและกระเป๋าวอลเล็ตม้า ส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงราย ได้รับค่าตอบแทนเป็นเงิน 3,000-4,000 บาท โดยกลุ่มผู้จัดหาและว่าจ้างจะเตรียมโทรศัพท์พร้อมซิมการ์ดมาให้กลุ่มผู้รับจ้างทำการยืนยันตัวตน เพื่อเปิดบัญชีธนาคาร พร้อมกับกระเป๋าแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัล หลังจากนั้นจะรวบรวมบัญชีม้า พร้อมโทรศัพท์มือถือที่ผูกกับกระเป๋าม้า นำไปส่งให้นายทุนที่มีฐานปฏิบัติการอยู่ที่ สปป ลาว จากข้อมูลในการสืบสวนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการ
ทั้งนี้ หนึ่งในผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่จัดหาและรวบรวมบัญชีม้าให้การรับว่าได้ค่าจ้างประมาณ 10,000 บาทต่อบัญชี สาเหตุที่รับจ้างทำงานลักษณะนี้เพราะมีหนี้สินที่เกิดจากการเล่นพนันในบ่อนกาสิโนดังกล่าว และนายทุนชาวจีนเป็นคนภายในบ่อนจึงถูกบังคับให้จัดหาและรวบรวมบัญชีม้ามาให้เพื่อใช้หนี้การพนัน.-สำนักข่าวไทย
