“บิ๊กโจ๊ก” ระบุอดีตสามี “แอม” ยังให้การปฏิเสธร่วมกันทำลายหลักฐาน

กรุงเทพฯ 16 พ.ค. – รอง ผบ.ตร. ระบุ “รองอ๊อฟ” อดีตสามี “แอม” ยังให้การปฏิเสธข้อหาร่วมกันทำลายหลักฐาน ด้านพนักงานสอบสวนเตรียมสรุปไทม์ไลน์การก่อเหตุทั้ง 15 คดี เพื่อใช้ประกอบสำนวนส่งให้อัยการพิจารณา ภายในสัปดาห์หน้า ส่วนเส้นทางการเงิน ธนาคารเตรียมส่งมอบให้พนักงานสอบสวนในวันพรุ่งนี้ (17 พ.ค.)


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีนางสาวสรารัตน์ หรือแอม ผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรมวางยาไซยาไนด์ ว่าวันนี้ได้แจ้งข้อหากับ พ.ต.ท.วิฑูรย์ อดีตสามีของนางสาวแอม ในข้อหา “ร่วมทำลายพยานหลักฐาน” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 หลังจากตำรวจชุดสืบสวนพบพยานหลักฐานที่เชื่อว่า พ.ต.ท.วิฑูรย์ เป็นผู้ก่อเหตุ

โดยข้อหาที่ถูกแจ้งเพิ่มนั้นเป็นคดีของนางสาวก้อย ที่เกิดเหตุใน อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ที่พบว่า พ.ต.ท.วิฑูรย์ นำกระเป๋าของนางสาวก้อย ไปซ่อนไว้ ก่อนสุดท้ายจะพบว่าถูกส่งไปที่นางสาวแก้ว ใน จ.เพชรบุรี ซึ่งผู้ต้องหาเป็นตำรวจ รับรู้อยู่แล้วว่าของที่ได้มาเป็นของกลางในคดี แต่กลับไม่นำไปมอบให้กับพนักงานสอบสวน กลับนำไปให้บุคคลอื่น จากการแจ้งข้อหาในวันนี้ พ.ต.ท.วิฑูรย์ ยังให้การปฏิเสธ


ส่วนกรณีที่มีบุคคลอื่นเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง 4-5 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำในฐานะพยาน ส่วนสำนวนการสอบสวนสืบสวน ภายในสัปดาห์หน้าจะสามารถวางไทม์ไลน์เหตุการณ์ทั้งหมดเพื่อเตรียมสรุปสำนวนได้ ทั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 14 คดี และข้อหาพยายามฆ่าอีก 1 คดี ซึ่งพบว่าแผนประทุษกรรมเหมือนกันทั้งหมด รวมถึงที่มาของแต่ละคดีว่ามีความเชื่อมโยงกันอย่างไร ส่งให้อัยการพิจารณาการสั่งฟ้องในชั้นศาลต่อไป

ส่วนการสอบแม่ของนางสาวแอม รวมถึงน้องสะใภ้ของแอมเป็นคนใช้ให้ไปส่งกระเป๋าโดยไม่ทราบว่าของภายในวัสดุคืออะไร พบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงเส้นทางการเงินทางธนาคารจะส่งข้อมูลให้กับพนักงานสอบสวนในวันพรุ่งนี้ (17 พ.ค.) คาดว่าน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น

สำหรับกำหนดการเข้าพบนางสาวแอม ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อสอบปากคำในวันพรุ่งนี้หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ต้องดูพยานหลักฐานสำนวนคดีของตำรวจภูธรภาค 7 ก่อนว่าจะมีส่วนไหนที่จะเข้าไปถามข้อมูลเพื่อเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีหรือไม่ ส่วนการให้การของนางสาวแอมนั้น ตำรวจไม่ได้ปักใจเชื่อ แต่มีข้อเท็จจริงในเรื่องของการที่รับว่านำไซยาไนด์ไปมอบให้ และไม่เชื่อว่านำไซยาไนด์มาจากนายแด้ ตำรวจยืนยันดำเนินคดีตามพยานหลักฐานที่มีอยู่.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

เจอกระบะต้องสงสัยก่อเหตุหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

พบแล้ว รถกระบะต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงปืนและลอบวางระเบิด หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้

ข่าวแนะนำ

เร่งล่าคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต

เจ้าหน้าที่เร่งล่าตัวคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต ก่อนเผารถ ฉกปืนพกสั้น 9 มม. หลบหนี ทั้งยังพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดในพื้นที่ยะลาอีกหลายจุด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน