กรุงเทพฯ 15 พ.ค. – กองปราบปราม ยืนยันทำสำนวนคดี “หลงจู้” รัดกุม จนอัยการสั่งฟ้องทุกข้อหา แต่ในชั้นพิจารณา มีการตัดพยานปากเอก 3 ปาก จนสุดท้ายศาลยกฟ้อง
หลังวันนี้ ศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง นายสมชาย หรือ หลงจู้ กับพวกรวม 7 คน ในคดีร่วมกันฟอกเงินกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลอาญาเคยมีคำพิพากษาให้ยกฟ้องนายสมชาย กับพวกฐาน ในความผิด ตาม พ.ร.บ.การพนันมาแล้ว รวมทั้งยกฟ้องนายสมชาย ฐานจ้างวานฆ่า นายประทุม อาชีพขี่วิน จยย. รับจ้าง คนแจ้งเบาะแสเรื่องบ่อนพนันของนายสมชาย เนื่องจากพยานหลักฐานโจทก์ไม่เพียงพอ
สำหรับสำนวนคดีดังกล่าว พันตำรวจเอก เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า ในคดีร่วมกันฟอกเงิน เป็นคดีล่าสุดที่ศาลยกฟ้อง ยืนยันว่า สำนวนของพนักงานสอบสวนกองปราบปรามไม่ได้อ่อน ที่ผ่านมามีการรวบรวมพยานหลักฐานแน่นหนา บ่งชี้ได้ว่าผู้ต้องหากระทำความผิด จนพนักงานอัยการมีการสั่งฟ้อง แต่ในชั้นพิจารณา กลับมีการตัดพยานปากเอก 3 ปาก เป็นตำรวจชุดสืบสวน 2 นาย และพนักงานสอบสวน 1 นาย ซึ่งเป็นตำรวจที่ทำคดีบ่อนการพนันที่มาบตาพุด จังหวัดระยอง ที่จะบอกถึงความเชื่อมโยงไปถึงผู้ต้องหาได้ ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ ขึ้นกับดุลยพินิจของพนักงานอัยการว่าจะยื่นอุทธรณ์คดีหรือไม่ ซึ่งมีกรอบระยะเวลา ภายใน 30 วัน.-สำนักข่าวไทย