กรุงเทพฯ 22 พ.ค.- วีระ สมความคิด ยื่นหนังสือกระทุ้ง ผบ.ตร.เร่งดำเนินคดีทั้งทางวินัยและอาญา พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล กรณีก่อสร้างถนนกีดขวางลำคลองใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา หลัง สตช.มีคำสั่งให้ดำเนินคดีตั้งแต่มันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา
นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น หรือ คปต. เข้ายื่นหนังสือต่อพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีเจ้าหน้าที่รับแทน ให้ดำเนินการทางวินัยและอาญากับพลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
หลังจากที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. พิจารณาหลักฐานตรวจสอบคดีในฐาน “ก่อสร้างถนนคอนกรีตกีดขวางลำคลองสาธารณะ” ที่ ตำบลปากช่อง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
นายวีระ เปิดเผยว่า ได้รับการยืนยันจากพันตำรวจเอกชาญณรงค์ ขนาดนิด ผู้กำกับกลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติสั่งให้ดำเนินคดีกับพลตำรวจเอกศรีวราห์ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยคปต.มีหลักฐานเชื่อว่าพลตำรวจเอกศรีวราห์ ถมคลองเพื่อเป็นทางเข้าออกจากที่ดินของตนสู่ถนน ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน จึงเรียกร้องให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งพักราชการพลตำรวจเอกศรีวราห์ไว้ก่อนตามระเบียบ เนื่องจากเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และมีผลต่อรูปคดี
ส่วนกรณีที่พลตำรวจเอกศรีวราห์ ออกมาแถลงข่าวว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินขององค์การบริหารส่วนตำบล ซึ่งใช้ที่ดินดังกล่าวสร้างฝายกันน้ำมอบให้ อบต. ไม่เป็นความผิดตามที่นายวีระกล่าวหา จึงไม่จำเป็นต้องถูกตรวจสอบ และมีเอกสารยืนยันว่าทำฝายมอบให้ อบต. จริงนั้น นายวีระ ระบุว่า เอกสารดังกล่าวไม่ได้ออกจากหน่วยงานที่ทำหน้าที่โดยตรง ซึ่งเชื่อว่าไม่เพียงพอที่จะเป็นหลักฐาน
ทั้งนี้ในเวลา 14 นาฬิกา เตรียมนำหลักฐานภาพถ่ายทางอากาศ และสำเนาโฉนดที่ดินจำนวน 2 แปลง ยื่นต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
พลตำรวจตรีทรงพล วัธนะชัย รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า กรณีดังกล่าวมีคำสั่งให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ลงพื้นที่ไปตรวจสอบตามข้อเท็จจริงแล้ว หากพบมีมูลข้อเท็จจริง ก็จะส่งเรื่องให้กองวินัยรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินการไปตามขั้นตอน ส่วนขณะนี้แม้จะมีคำสั่งให้ ตำรวจ ปทส. รับไปดำเนินคดี แต่ยังไม่ถือว่า พลตำรวจเอกศรีวราห์ ตกเป็นผู้ต้องหา ส่วนเรื่องดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อความรับผิดชอบในคดีอื่นๆ หรือไม่ ยังไม่ถึงขั้นตอนดังกล่าว จึงไม่สามารถให้ความเห็นใดๆ ได้ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าเรื่องดังกล่าว หากพบมีความผิดเกิดขึ้นจริง ก็จะดำเนินการไปตามขั้นตอนปกติ .-สำนักข่าวไทย
