กรุงเทพฯ 26 ม.ค. – โฆษกตำรวจประสานเน็ตไอดอลสาวไต้หวัน ขอข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมประสาน บก.จร.- บช.น.-สน.ลุมพินี-ทองหล่อ-ห้วยขวาง ตรวจสอบจุดเกิดเหตุตบทรัพย์จริงหรือไม่ หากผิดฟันไม่เลี้ยง ยกเคส “หมวยโซ” โกหกเรื่องสามล้อข่มขืนชิงทรัพย์ เป็นเคสเทียบเคียง เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ
พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เบื้องต้นทราบตัวนักแสดงสาวคนดังกล่าว และมีข้อมูลว่าเดินทางเข้าประเทศไทยวันที่ 29 ธันวาคม 2565 เดินทางออกไปช่วงเย็นวันที่ 5 มกราคม 2566 จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีการเช็คอินห้องพักโรงแรมย่านทองหล่อ พร้อมใช้บริการรถตู้เอนกประสงค์ อยู่ระหว่างตรวจสอบยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียน เพื่อเชิญตัวคนขับมาให้ข้อมูล และได้ประสานกับโรงแรมที่พักให้ตรวจสอบว่านักแสดงสาวเข้าพักที่โรงแรมจริงหรือไม่ รวมทั้งประสานกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบังคับการตำรวจจราจร สน.ลุมพินี และ สน. ทองหล่อ ซึ่งมีการตั้งด่านป้องกันเหตุและตรวจวัดแอลกอฮอล์ เพื่อให้ตรวจสอบว่ามีการตั้งด่านในช่วงเวลาที่นักแสดงสาวดังกล่าวอยู่ในประเทศไทยในพื้นที่ใดบ้าง โดยเน้นไปจุดที่มีคนต่างชาติพักอาศัย และเป็นสถานที่ท่องเที่ยว อาทิ ทองหล่อ ห้วยขวาง ลุมพินี
ทั้งนี้ ทีมตำรวจได้ติดต่อไปยังนักแสดงคนดังกล่าวแล้ว โดยช่องทางผ่าน Instagram เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการตอบกลับ และประสานไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทยแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบการโพสต์ไอจีของเน็ตไอดอลสาวพบว่าบางภาพ เช่น ภาพถ่ายพระพรหมเอราวัณ มีการโพสต์และเช็คอินสถานที่ เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา หลังจากเดินทางออกจากประเทศไทยไปแล้ว 3 วันประเด็นนี้ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนถึงสาเหตุที่โพสต์ย้อนหลังนานหลายวัน และจากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มพบว่าเป็นเพียงเน็ตไอดอล ไม่ถึงขั้นเป็นดาราที่ทำกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวหรือไปเช็คอินตามจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีดังกล่าว ตำรวจจะนำไปเทียบเคียงกับกรณีหมวยโซที่มาเที่ยวกรุงเทพฯ และสร้างเรื่องโกหกว่าถูกคนขับสามล้อข่มขืนชิงทรัพย์จนทำให้ประเทศไทยเสื่อมเสียชื่อเสียงหรือไม่ พล.ต.ต.อาชยน กล่าวว่า ต้องตรวจสอบทุกมิติให้ชัดเจน แต่หากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นการตบทรัพย์รีดทรัพย์จริง แม้ไม่มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความเจ้าหน้าที่ที่ก่อเหตุก็ต้องถูกดำเนินคดีทั้งทางวินัยและอาญาอย่างไม่ละเว้น
มีรายงานว่าหลังจากเน็ตไอดอลสาวดังกล่าวโพสต์เรื่องราวที่ถูกตำรวจไทยตบทรัพย์ระหว่างมาเที่ยวกรุงเทพฯ ลงใน Instagram ทำให้มีผู้เข้าไปติดตามไอจีเพิ่มขึ้นจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย