กรุงเทพฯ 17 ม.ค. – โยมอุปัฏฐากเดินหน้าแฉ “ครูบาไก่” นำพยาน 3 ปาก แจ้งความกองปราบสอบเส้นทางการเงิน พร้อมมอบหลักฐานคลิปลับที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน
น.ส.วาสนา หรืออิคคิว โยมอุปัฏฐาก ที่ออกมาแฉครูบาไก่ หรือพระอาจารย์สุวิทย์ ชินวโร ประธานที่พักสงฆ์วัดป่าปฐมเทวาราม อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับเด็กหนุ่มและการบริหารจัดการเงินภายในวัด นำพยาน 3 คน เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยนำเอกสารหลักฐานสำคัญเข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อกองบังคับการปราบปราม เพื่อให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน นอกจากนี้ ยังนำหลักฐานเด็ดเป็นคลิปลับที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน ซึ่งเป็นคลิปครูบาไก่ Video Call โชว์ของลับคุยกับเด็กหนุ่ม
ส่วนพยานบุคคลที่พามาแจ้งความด้วยวันนี้เป็นอดีตลูกศิษย์ที่เคยอยู่ในกุฏิร่วมกับครูบาไก่ มักเห็นพฤติกรรมของครูบาไก่ชอบดูรูปเด็กหนุ่มและเรียกเด็กหนุ่มมาหาเป็นการส่วนตัว นอกจากนี้ มีหลักฐานว่าครูบาไก่มีพฤติกรรมกับเด็กหนุ่มนอกจากกับบุคคลที่เป็นข่าวอีกประมาณ 3-4 คน รวมถึงพระในวัดและเป็นเพื่อนสนิทของพยานที่มาในวันนี้ ซึ่งปัจจุบันพระรูปนี้ได้หลบหนีไปอยู่วัดอื่น หลังครูบาไก่เป็นข่าว โดยยังนำหลักฐานแชทข้อความระหว่างครูบาไก่กับชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเป็นลักษณะการส่งรูปอวัยวะเพศให้ครูบาไก่ เพื่อขอแลกเงิน, ชายหนุ่มคนดังกล่าวได้เงินไปทำธุรกิจส่วนตัวและรถยนต์อีกอย่างน้อยหนึ่งคัน
ขณะที่หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า วันนี้เข้ามาร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินคดีและตรวจสอบเส้นทางการเงินของครูบาไก่ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ใช้เงินตรงตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งต้องศิษยานุศิษย์หรือไม่ หลังพบหลักฐานบางอย่างมีการโอนเงินไปยังบัญชีบุคคลภายนอก เพื่อใช้จ่ายส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการของวัด มีหลักฐานแชทการพูดคุยของครูบาไก่กับชายผู้รับโอนเงินคนดังกล่าว นอกจากนี้ อยากให้ตรวจทองคำน้ำหนัก188 บาท ที่รับบริจาคยังอยู่ครบหรือไม่
นอกจากนี้ ยังระบุว่าที่ผ่านมาพยายามถอนตัวออกไปอย่างเงียบ ๆ แต่ครูบาไก่ กลับออกมาระบุว่า กลุ่มตนขโมยเงินทอดกระถินของวัดไป ซึ่งยืนยันไม่เป็นความจริง และยังปฏิเสธว่าไม่รู้จักพวกตนมาก่อน ทั้ง ๆ ที่เคยนำเงิน 300,000 บาทไปถวายให้ครูบาด้วยตัวเอง อีกทั้งยังเป็นคนไปซื้อทองที่ร้านทองใน จ.ขอนแก่น ซึ่งในวันดังกล่าวครูบามีเงินไม่พอที่จะซื้อทองไปสร้างพระ จึงถอดสร้อยคอทองคำหนัก 20 บาท จำนำกับร้านทอง เพื่อนำเงินไปซื้อทองให้ครูบานำไปทำพิธี โดยระบุชัดเจนว่าหลังทำพิธีเสร็จให้ถอนเงินมาไถ่ทองให้ตนเอง ขอยืนยันว่าสิ่งที่พูดมาเป็นความจริงทั้งหมด เพราะมีหลักฐานชัดเจน อย่างไรก็ตาม จะดำเนินคดีกับครูบาไก่ให้ถึงที่สุด และจะจัดหนักในทุกข้อหาที่สามารถทำได้ พร้อมฝากถึงทนายความของครูบาไก่ว่า ไม่ได้ล่วงเกินพระพุทธศาสนาตามที่ถูกกล่าวอ้าง แต่มีปัญหาเฉพาะบุคคลเท่านั้น เพราะกระทำการไม่ถูกต้อง และสาเหตุที่ต้องมาแจ้งความกับกองปราบปราม เนื่องจากก่อนหน้านี้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อสำนักพุทธศาสนา จังหวัดขอนแก่นมาแล้ว แต่ทางสำนักพุทธยุติการตรวจสอบ โดยอ้างว่าครูบาไก่แจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มตน จึงต้องยุติการตรวจสอบชั่วคราว เกรงว่าเรื่องดังกล่าวจะเงียบหายไป ทำให้ไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงต้องร้องต่อตำรวจกองปราบปรามให้ดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้แทน
ด้านพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องเอาไว้ เพื่อนำไปทำการตรวจสอบว่าเข้าข่ายความผิดข้อหาใดบ้าง.-สำนักข่าวไทย