บุกค้นสถานบันเทิง 42 จุด ใน 7 จังหวัด

กรุงเทพฯ 1 พ.ย. – “พล.ต.อ.ต่อศักดิ์-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” รอง ผบ.ตร. แถลงผลตรวจค้นสถานบริการพื้นที่เป้าหมาย 42 จุด 7 จังหวัดทั่วประทศ เชื่อมโยงผับเถื่อน ขายยา มีคนไทยเป็นนอมินี


จากกรณีเจ้าหน้าที่ตรวจพบความผิดที่เกี่ยวข้องกับสถานบริการ ทั้งเหตุนักท่องเที่ยวจีนเสียชีวิตหลังเที่ยวสถานบริการ ท็อปวันในพื้นที่ สน.สุทธิสาร การตรวจค้นสถานบันเทิงคลับวันในพื้นที่พัทยา พบยาเสพติดจำนวนมาก ล่าสุดมีการตรวจค้นร้านจินหลิงในพื้นที่ สน.ยานนาวา พบนักท่องเที่ยวมั่วสุมเสพยาเสพติดกว่า 104 ราย ทั้ง 3 กรณีเป็นสถานบริการที่มีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเจ้าของสถานบริการเป็นนายทุนชาวจีน โดยใช้ชื่อคนไทยเป็นนอมินี

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. (ปป.), พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. (สส.) ร่วมกันวางแผนตรวจสอบสถานบริการที่มีเจ้าของเป็นนักลงทุนชาวจีนและมีคนไทยเป็นนอมินี จึงสนธิกำลังตรวจค้นสถานบริการ 7 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา


ล่าสุด พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แถลงผลการปฏิบัติตรวจค้นสถานบริการ 7 จุดในพื้นที่กรุงเทพฯ เบื้องต้นมีการตรวจหาสารเสพติดจากผู้มาใช้บริการสถานที่ดังกล่าวรวมกว่า 329 ราย พบผู้มีสารเสพติดในร่างกาย 1 ราย เป็นนักท่องเที่ยวจากร้านฮอลลีวูด นอกจากนี้ ยังมีการตรวจค้นต่อเนื่อง โดยใช้กำลังกว่า 700 นาย กระจายกำลังตรวจค้นตามสถานที่เป้าหมาย เช่น อาคาร ที่พัก เพื่อหาพยานหลักฐานเกี่ยวข้องกับยาเสพติด อาวุธปืน และบ่อนการพนัน เพื่อนำมาประกอบการดำเนินคดีการจับกุมร้านจินหลิง เบบี้เฟซ และคลับวัน พัทยา โดยขออนุมัติหมายจากศาลเข้าค้นทั้งหมด 35 จุด ใน 7 จังหวัด

โดยจุดที่น่าสนใจ คือ บริเวณบ้านของนายเดวิด ผู้บริหารเบบี้เฟซ ในซอยสุขุมวิท 63 สามารถตรวจยึดรถหรูป้ายแดง หลายคัน เช่น ปอร์เช่ เฟอรรารี่ พบพิรุธข้อสงสัยเกี่ยวกับเอกสารการครอบครองรถดังกล่าว มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ซึ่งจะต้องทำการตรวจสอบต่อไป นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจยึดเอกสารสำคัญและโทรศัพท์มือถืออีกหลายรายการ ซึ่งจะมีการตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อนำมาประกอบสำนวนดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องและสถานบันเทิงผิดกฎหมาย รวมถึงขยายผลดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มธุรกิจเหล่านี้

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า การตรวจค้นบ้านของนายเดวิด ซึ่งเข้ามาอยู่เมืองไทยประมาณ 10 ปี ตำรวจยึดรถยนต์หรูและอาวุธปืน รวมทั้งสุรา บุหรี่ และเอกสารต่าง ๆ ไว้ตรวจสอบ นอกจากนี้ ยังพบว่าห้องพักมีร่องรอยการใช้ยาเสพติด ข้อมูลแต่งงานมีภรรยาเป็นคนไทย ลูกเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งในประเทศไทย และนายเดวิด ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ สถานบริการที่ผิดกฎหมาย และประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีกด้วย


เบื้องต้นนายเดวิด ถูกตั้งข้อหาช่วยซ่อนเร้นช่วยกันจำหน่ายฯ ตาม ม.242 และความผิดตามความผิดกฎหมายศุลกากร และความผิดเกี่ยวกับพระราชบัญญัติสรรพสามิต กรณียึดของผิดกฎหมาย ประกอบด้วย รถยนต์และสุราผิดกฎหมาย

ส่วนข้อมูลการซื้อรถยนต์ของนายเดวิด พบว่านำเงินสดจำนวนหนึ่งไปฝากให้เพื่อนคนไทยซื้อ ซึ่งประเด็นเหล่านี้ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานว่าเข้าข่ายความผิดการกระทำลักษณะของกฎหมายฟอกเงิน หรือไม่ และนายเดวิด มีความเชื่อมโยงกับนายทุนจีนทำธุรกิจสถานประกอบการในพื้นที่ชลบุรี แต่ในส่วนของสถานประกอบการจินหลิง ตำรวจมีข้อมูลแล้วว่าผู้ใดเป็นเจ้าของ ซึ่งนายเดวิด ไม่ใช่เจ้าของจินหลิง

ส่วนกรณีคลับวัน พัทยา ตำรวจพัทยาขอหมายจับนายนิติพัฒน์ หรือโกเอี่ยว ที่อ้างว่าตำรวจรับส่วย โดยจับนายนิติพัฒน์ ได้แล้ว และให้ตำรวจพัทยาขยายผล เบื้องต้นพบว่ามีพฤติกรรมเป็นนอมินีทำธุรกิจแทน โดยตำรวจอยู่ระหว่างการขยายผลว่ามีการออกเอกสารจากกรมการปกครองถูกต้องหรือไม่ และตำรวจจับเจ้าของ คือ นายหยู่ ฉาง เฟย ขณะเตรียมหลบหนีผ่านด่านไปยังประเทศลาว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดมุกดาหาร ควบคุมตัวไว้สอบสวนขยายผลแล้วซึ่งเบื้องต้น ต้องตรวจสอบว่าตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงใหม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือไม่ เนื่องจากพบว่าผู้ต้องหาขออนุญาตอยู่ในประเทศไทยในฐานะนักเรียน หากพบว่าตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมีส่วนรู้เห็น หรือเอื้อผลประโยชน์ส่วนนี้จะต้องมีการดำเนินการต่อไป

ส่วนความคืบหน้าการสอบสวนดำเนินคดีร้านจินหลิง ท้องที่ สน.ยานนาวา ได้ดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ตรวจพบสารเสพติดกว่า 104 ราย ดำเนินคดีกับผู้ดูแลร้านคนไทย อีก 1 ราย และมีการสืบทราบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐช่วยเหลือเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ต้องหาบางคน โดยการเรียกรับผลประโยชน์ เพื่อเร่งให้มีการส่งตัวผัดฟ้องต่อศาลและได้รับการประกันตัวในชั้นศาลและประสานให้มีการปล่อยรถยนต์ของกลางที่ยึดไว้ตรวจสอบคืนให้กับผู้ต้องหา จึงได้มีการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐ รวม 3 นาย คือ พ.ต.ท.คมไพร ทองลาด รองผู้กำกับการจราจร สน. ลาดพร้าว ในความผิดฐานขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานในตำแหน่งตุลาการพนักงานอัยการผู้ว่าคดีหรือพนักงานสอบสวน เพื่อจูงใจให้กระทำการไม่กระทำการหรือประวิงการกระทำใดอันมิชอบด้วยหน้าที่, พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ พิมมา พนักงานสอบสวน (สบ2) สน. ยานนาวา และ ร.ต.อ.สมยศ บุญณะแก้ว (สบ 1) พนักงานสอบสวนสน. ยานนาวา ข้อหาเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการใดในตำแหน่งไม่ว่ากันนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดฯ ซึ่งจะมีการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว โดยจะนำตัวมาดำเนินคดีทุกราย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานำหมายศาลเข้าตรวจค้นที่พักของนักการเมืองไทยที่เป็นอดีตรัฐมนตรีคนหนึ่ง แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งยืนยันว่าตำรวจจะให้ความเป็นธรรมทุกกรณีที่มีการพาดพิงถึง

ขณะเดียวกันวันนี้นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เข้าร่วมสังเกตการณ์การแถลงข่าว ขอบคุณ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รับฟังข้อมูลจนนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดอย่างรวดเร็ว พร้อมบอกว่าไม่กลัวตาย แถมยังเปรียบตัวเองเป็นองคุลีมาน พร้อมเผยขณะนี้ไทยมีกลุ่มทุนจีนใหญ่ 5 กลุ่ม หรือ 5 เสือจีนเทา คือ กลุ่มของนายเดวิด, นายฉางเฟย, นายโทนี่, นายเอี่ยว และชายชาวจีน ซึ่งถูกรวบตัวแล้ว 4 คน เหลืออีก 1 คน โดยกลุ่ม 5 เสือจีนเทา ถือเป็นกลุ่มทุนเงินหนา มีการทำธุรกิจสีเทาในไทยโดยใช้นอมินีสวมสัญชาติไทยของคนตาย ธุรกิจส่วนใหญ่เป็นแบบศูนย์เหรียญใช้ทรัพยากรคนจีน ซ่องสุมการกระทำความผิดในไทย ซึ่งคนไทยก็เสียประโยชน์ สิ่งที่ต้องดำเนินการต่อ คือ ตรวจเส้นทางการเงิน ย้ำการปราบปรามทุนจีนสีเทา ถือเป็นเรื่องต้องจัดการมานานแล้ว เพื่อไม่ให้ประเทศไทยเสียประโยชน์ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กักสิงโตสวนสัตว์ดัง-ปรับพฤติกรรม

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ สั่งกักสิงโตสวนสัตว์ดัง เพื่อปรับพฤติกรรม แยกเพศ-เฝ้าสังเกตใกล้ชิด เจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่สวนสัตว์ดัง ย่านคลองสามวา กรุงเทพฯ หลังเกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์เสียชีวิต โดยได้สั่งการให้กักสิงโตทั้งหมดในฝูงที่ก่อเหตุไว้ในกรงชั่วคราว แยกสิงโตเพศผู้และเพศเมีย เพื่อเฝ้าสังเกตพฤติกรรมในระยะใกล้ สำหรับสิงโตที่เข้าตะปบเจ้าหน้าที่จนเสียชีวิต เป็นตัวผู้ โดยสิงโตร่วมฝูงมี 7 ตัว แต่ที่เข้ารุมกัดเจ้าหน้าที่มี 5 ตัว ได้แก่ 1) ทรัมป์ (เพศผู้) ตัวตะปบ 2) ไบท์ (เพศผู้) ตัวตาม 3) อ้อน (เพศเมีย) ตัวตาม 4) อ้าย (เพศเมีย) ตัวตาม 5) ยาว (เพศเมีย) ตัวตาม ทั้งนี้ สิงโตทุกตัวอายุประมาณ 10 ปี พร้อมกันนี้ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กำลังตรวจสอบมาตรการความปลอดภัย และจะไม่อนุญาตให้เปิดส่วนจัดแสดงสัตว์ดุร้าย […]

เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้า

เชียงใหม่ 11 ก.ย. – เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้าล้ม ถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ชาวบ้านกังวล หลังทราบว่าประกันรถกระบะคันต้นเหตุ คุ้มครองความเสียหายแค่ 600,000 บาท วอนการไฟฟ้า หรือ อบต.ช้างเผือก ยื่นมือช่วยเหลือ ตลอดช่วงเช้าวันนี้ (11 ก.ย.) เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ยังคงระดมกำลังฟื้นฟูระบบไฟฟ้าบนถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ โดยขุดหลุมติดตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงและแรงต่ำทดแทนต้นเดิมที่ล้มเสียหายจากอุบัติเหตุ ตลอดเส้นทางเป็นระยะทาง 595 เมตร พร้อมเก็บซากอุปกรณ์ตามร้านค้าและบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย คาดว่าจะใช้เวลาอีก 3 วันจะดำเนินการแล้วเสร็จ ขณะที่ระบบไฟฟ้าถูกแก้ไขจนสามารถจ่ายไฟได้ครบทุกหลังคาเรือนแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ว่าที่ร้อยตรี ปรีชาพล ปาละโมงค์ หนึ่งในเจ้าของร้านที่ได้รับความเสียหาย บอกว่า ช่างมาประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหลังคาและโครงสร้าง ประมาณ 150,000 บาท แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการชดใช้เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น ทำให้ยังเปิดร้านไม่ได้ ขาดรายได้ แถมยังมีค่าใช้จ่ายอีกมาก และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อแสดงความรับผิดชอบจากนายจ้างของกระบะส่งน้ำ ตอนนี้ทุกคนกังวลมาก เพราะทราบว่าประกันรถที่เกิดอุบัติเหตุคุ้มครองความเสียหายเพียง 600,000 บาท ไม่เพียงพอกับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน จึงทยอยเข้าแจ้งความกันไว้แล้ว ขอเรียกร้องให้ทางการไฟฟ้า หรือ […]

กต.เตรียมมาตรการช่วยเหลือคนไทยในเนปาล

กต. 11 ก.ย.- สอท.เนปาล ประเมินสถานการณ์ร่วม กต. เตรียมมาตรการช่วยคนไทยใกล้ชิด กำชับคนไทยอยู่ในสถานที่ปลอดภัย สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงกาฐมาณฑุ สาธารณรัฐเนปาล ออกประกาศแจ้งเตือนคนไทยในเนปาล ตามที่ทางการเนปาลได้ประกาศเคอร์ฟิวในหลายพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา สืบเนื่องจากเหตุการณ์การชุมนุมประท้วงต่อต้านการทุจริตและมาตรการห้ามใช้สื่อสังคมออนไลน์ของรัฐบาลเนปาล โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Gen Z) ส่งผลให้ทางการเนปาลบังคับใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดดังนี้ กรุงกาฐมาณฑุ ประกาศเคอร์ฟิว ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไปจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ครอบคลุมพื้นที่ภายในถนนวงแหวน (Ring Road) รวมถึงบริเวณสะพาน Balkumari, Koteshwar, Sinamangal, Gaushala, Chabahil, Narayan Gopal Chowk, Gongabu, Balaju, Swayambhu, Kalanki, Balkhu และสะพาน Bagmati เมืองลลิตปูร์ ประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 09.00 น. […]

จนท.เทศบาล ถูกดินถล่มทับเสียชีวิตแล้ว

เชียงใหม่ 11 ก.ย. – ยื้อไม่ไหว เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองดอนแก้ว จ.เชียงใหม่ ที่ถูกดินถล่มทับระหว่างสำรวจรอยรั่วท่อระบายน้ำ เสียชีวิตแล้ว นาทีชีวิตขณะนายประเสริฐ วัย 56 ปี หัวหน้าก่อสร้างกองช่าง เทศบาลเมืองดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ลงไปตรวจสอบท่อระบายน้ำใต้ถนนในโครงการห้วยตึงเฒ่า หลังมีน้ำรั่วซึมจนเกิดโพรงใต้ดิน ทำให้ถนนทรุดตัว แต่ขณะตรวจดูท่อ ดินบนถนนเกิดทรุดตัวลงมาทับนายประเสริญ ก่อนเจ้าหน้าที่จะช่วยกันนำรถแบ็กโฮขุดดินออก ใช้เวลา 10 กว่านาที จึงนำร่างของนายประเสริฐออกมาได้ ก่อนเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลนครพิงค์ ล่าสุดเช้าวันนี้ (11 ก.ย.) นายประเสริฐเสียชีวิตแล้ว พบหลังกระดูกหักหลายจุด ซี่โครงทิ่มปอดและม้าม ท่ามกลางความเศร้าเสียใจของครอบครัวและเพื่อนร่วมงาน เนื่องจากนายประเสริฐเป็นคนที่ทุ่มเทกับงาน เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน ด้านนายเกรียงไกร จันณะคำ ผอ.กองช่างเทศบาลเมืองดอนแก้ว ซึ่งเป็นหัวหน้างานของนายประเสริฐ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ตนและนายประเสริฐลงไปดูจุดท่อรั่วรอบแรกเพื่อหาสาเหตุ ก่อนจะซ่อมถนนและกลบดิน แต่รอบที่สอง นายประเสริฐลงไปดูเองอีกรอบ จนดินด้านบนถล่มลงมาทับ หลังเกิดเหตุเร่งช่วยเหลือนายประเสริฐอย่างเต็มกำลังและปฐมพยาบาลเบื้องต้น ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ซึ่งนายประเสริฐยังรู้สึกตัว จนนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายก็เสียชีวิตเมื่อตี […]